ผ่านไป 1 เดือนหลังแจกเงินสด 10,000 บาทกลุ่มเปราะบาง ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยกระเตื้องขึ้น หนุนเศรษฐกิจเดือนต.ค. ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ยังได้แรงหนุนจากท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง แต่ว่างงานเพิ่มขึ้นจากคนขอสวัสดิการประกันสังคมเพิ่มขึ้น
"ข้อมูล" เป็นจุดเริ่มต้นสู่การสร้างนโยบายสาธารณะที่ตอบโจทย์ตรงจุด แต่ในทางปฏิบัติยังมีอุปสรรคและข้อจำกัดที่ต้องแก้ไข ตั้งแต่การจัดเก็บข้อมูลไปจนถึงระดับปฏิบัติ วงเสวนาชวนระดมความคิด ร่วมกันหากลไกให้ทุกภาคส่วนแบ่งปันข้อมูลเพื่อการวิจัยและพัฒนา พร้อมยกระดับการรักษาความปลอดภัย
แจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง 14.55 ล้นคน รวมงบ 1.45 แสนล้านบาท พบว่าเงินกระจายตัวทุกตำบลทั่วประเทศ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด รองลงมาภาคเหนือ อยู่ในกทม.-ปริมณฑลถึง 1 ล้านคน ส่วนจังหวัดที่ได้มากที่สุดคือ นครราชสีมา และน้อยที่สุด คือ ระนอง
ช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หลายนโยบายที่มีความหวังกลับ ถูกแปรรูป เปลี่ยนร่าง หรือหายไป สะท้อนถึงปัญหาบริบทสังคมไทย “การเมืองผูกกับนโยบาย” นำมาสู่ข้อเรียกร้องให้เกิด “นโยบายนำการเมือง” ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย โดยรัฐต้องมีพันธะรับผิดชอบ ร่วมมือพัฒนาระบบติดตามนโยบายให้มีประสิทธิภาพ
ครม.อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี 2568 โดยก่อหนี้ใหม่เพิ่มอีก 6.17 หมื่นล้านบาท รวม 1.2 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่กู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ บอร์ดนโยบายฯยันสัดส่วนหนี้ยังอยู่ในกรอบกฎหมาย
"โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567" กำลังเริ่มจ่ายโอนเงิน 10,000 บาท เพื่อเข้าบัญชีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรผู้พิการ ตั้งแต่วันที่ 25-30 ก.ย. จำนวน 14.4 ล้านคน คิดเป็นเงิน 1.44 แสนล้านบาท โดยรัฐบาลไม่มีข้อจำกัดด้านการใช้จ่าย
เช็กผลโอนเงินหมื่นบาทกลุ่มเปราะบาง สามารถเช็กได้วันถัดไปจากวันโอน หากเงินไม่เข้า ต้องตรวจสอบว่าผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือ กรณีคนพิการบัตรหมดอายุหรือยังไม่ได้ทำบัตร ต้องรีบทำบัตรหรือต่ออายุอย่างช้า 3 ธ.ค. 2567 หากพ้นกำหนดถือว่าสละสิทธิ
หนี้สาธารณะขยับขึ้นเป็น 65.74% ของจีดีพี จากเพดานตามกฎหมายที่ 70% แต่สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้เสี่ยง แตะ 33.76% จากเพดาน 35% โดยมาจากการปรับงบประมาณและแผนก่อหนี้ ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงท้ายปีงบประมาณ แจกเงิน 10,000 บาท กลุ่มเปราะบาง
รัฐบาลปรับชื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็น "โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ" แจกเงินหมื่นบาทกลุ่มเปราะบาง "คนพิการ-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รวม 12.55 ล้านคน เริ่ม 25 ก.ย.นี้ รวม 4 วันตามเลขบัตรประชาชน ใครไม่ได้รับ รีบตรวจสอบสิทธิด่วน เพราะกระทรวงการคลังจะโอนซ้ำอีก 3 ครั้ง
คาดเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำในปี 2024 และ 2025 ที่ 2.5% และ 2.6% ตามลำดับ ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นแรงหนุนหลัก ขณะที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยได้ไม่มากและชั่วคราว แต่มีความเสี่ยงให้หนี้สาธารณะพุ่งขึ้นชนเพดานในปี 2027 เพราะใช้วงเงินสูง รัฐบาลต้องกู้เงินมาเดินหน้าโครงการ
แจกเงินหมื่นบาท กลุ่มเปราะบาง ในเฟสแรกประมาณ 14.5 ล้านคน ได้ฤกษ์แจกแล้ว ใน 4 วัน ขณะที่เฟสสองให้รอไปก่อน ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ
สรุปความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลเตรียมปรับรูปแบบใหม่จ่ายเป็นเงินสด คาดกลุ่มเปราะบางได้ก่อนในเดือน ก.ย. ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก่อนทยอยแจกให้คนลงทะเบียนทางรัฐในเดือนถัดไป
หลังจากที่ แพทองธาร ชินวัตร ประกาศเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ รายละเอียดของโครงการยังขาดความชัดเจน
ดิจิทัลวอลเล็ต จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ยังเป็นประเด็นสงสัย แม้รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนประชาชนที่มีสิทธิ ในขณะที่ร้านค้าจะเปิดลงทะเบียนในเดือน ต.ค.นี้ แต่ธปท.เตือนเรื่องระบบที่จะนำมาใช้ มีความเสี่ยงหลายด้าน รวมถึงงบประมาณที่นำมาใช้ อาจไม่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง
ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท รัฐบาลเตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่ 1 ส.ค. - 15 ก.ย. 67 ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เริ่มใช้จ่ายในไตรมาส 4 ปี 67 พร้อมเผยเงื่อนไข และขั้นตอนการลงทะเบียน
ครม.เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมงบปี 67 วงเงิน 122,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ดันงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 805,000 ล้านบาท เหลือวงเงินกู้ได้เพียงหมื่นล้าน เกือบติดเพดาน
ดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้รัฐบาลทบทวนแผนการคลังระยะปานกลางครั้งที่ 2 หลังหันมาใช้งบประมาณดำเนินโครงการแทนออกพระราชบัญญัติกู้เงิน ส่งผลให้หนี้สาธารณะขยับขึ้นในปีนี้ ทะลุ 65% ของจีดีพี และคาดว่าในปี 2571 จะเพิ่มเป็น 68.6% ของจีดีพี
ครม.รับทราบผลการดำเนินการพิจารณา 4 ข้อของคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตตามข้อเสนอแนะของป.ป.ช. แต่ยังมีอีกหลายประเด็นยังไม่ได้พิจารณา
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งหนังสือถึงรัฐบาล ให้ความเห็นต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตใน 4 ประเด็น โดยหนังสือถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22เม.ย. ก่อนการประชุมครม.ในวันที่ 23 เม.ย. ซึ่งในมีหลายประเด็นที่เป็นความเห็นเพิ่มเติม หลังจากรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ
ดิจิทัลวอลเล็ต หรือ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet มีการปรับหลายครั้งนับตั้งแต่ประกาศนโยบาย จนล่าสุดเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2567 นับว่าได้ข้อสรุปครั้งสุดท้ายจากการประชุมครม. โดยมีรายละเอียดออกมา ขณะที่รัฐบาลยืนยันประชาชนที่มีสิทธิตามหลักเกณฑ์จะได้ใช้ในไตรมาส 4 ปีนี้
สำรวจความเห็นคนไทย หากได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทจากรัฐบาล จะนำไปใช้จ่ายกับอะไร เลือกซื้อสินค้าที่ร้านประเภทไหน และมีวิธีบริหารเงินที่ได้มาอย่างไรบ้างให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายส่วนตัว
การระดมเงินเพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อาจไม่ง่าย เพราะสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ที่จะให้รัฐบาลกู้เงินมีจำกัด อีกทั้งกระทบการขายตราสารหนี้ของเอกชนจากปริมาณตราสารหนี้ของรัฐที่เพิ่มเข้ามาในตลาดมากขึ้น รวมถึงในช่วงที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ยังอยู่ในระดับสูงจะกดดันต้นทุนในการระดมทุน
ถึงเวลาที่รัฐบาลเริ่มทยอยลดมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันและไฟฟ้า หลังราคาพลังงานโลกปรับสูงขึ้น กดดันกองทุนน้ำมันที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมหาศาล ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดหากรัฐเลิกอุดหนุนราคาพลังงาน จะดันให้เงินเฟ้อพลิกกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 2 ปี 67 ซึ่งเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญที่ ธปท.ใช้พิจารณาปรับขึ้นลงอัตราดอกเบ
ธปท.แสดงความกังวล 5 ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท หรือดิจิทัลวอลเล็ต ตามพ.ร.บ.เงินตรา และพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ แนะอยากเห็นช่วยเฉพาะกลุ่ม และแผนลดภาระหนี้ที่เกิดขึ้น รวมถึงความปลอดภัยใน ซูเปอร์แอฟ (Super App) ระบบชำระเงินแบบใหม่ที่รัฐบาลกำลังจะสร้างรองรับ
ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้แน่ปลายปีนี้ ผู้มีสิทธิ ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่เกินเดือนละ 70,000 บาท มีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท ใช้เงินจากงบประมาณปี 2567-68 และเงินธ.ก.ส. คาดช่วยหนุนจีดีพี 1.2-1.8%
รัฐบาลเห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง 5 ปี (2567-2571) โดยระบุเหตุผลว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโต แต่ตามแผน งบปี 2568-69 ขาดดุลงบประมาณพุ่ง ท่ามกลางกระแสข่าวเพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ออกมาใช้ให้ทันในปลายปีนี้ ส่งผลหนี้สาธารณะขยับขึ้นแตะ 67% ของจีดีพี
ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ต่ำกว่าคาดการณ์เดิม จากส่งออกชะลอและงบประมาณล่าช้า ประเมินดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น 1% แต่หนี้สาธารณะเพิ่ม เตือนเงินเฟ้อจะขยับ ไม่มีกระสุนสำรองรับความเสี่ยงกรณีน้ำมันโลกพุ่งจากสงคราม
ความขัดแย้งระหว่างกระทรวงการคลัง กับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เรื่องนโยบายดอกเบี้ย เป็นเรื่องที่มีมานาน ฝ่ายหนึ่งใกล้ชิดกับการเมือง มักจะโอนอ่อนตามการเมือง แต่อีกฝ่ายห่วงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การอ้างเหตุผลก็เป็นเหตุผลเดิม ๆ ที่เคยอ้างกันมาและกล่าวโทษกันไปมา โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่
นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เริ่มมีความไม่แน่นอนเสียแล้วว่าจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่ หลังจากคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาความเห็นของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อตรวจดูอีกครั้งว่าโครงการนี้จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่
มติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อ 2.50% กนง.พร้อมยินดีรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย ถือเป็นความหวังดีและเป็นประโยชน์ หลังถูกกดดันหนักจากรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่ส่งสัญญาณถึง 3 ครั้งให้ลดดอกเบี้ยหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
อะไรคือนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยควรลดหรือไม่? เป็นข้อถกเถียงในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลเผชิญกับปัญหาเรื่อง "นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต" และเรียกร้องให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย ซึ่ง ดร.สมชัย จิตสุชน อดีตกรรมการ กนง. มีคำตอบ
นโยบายการแจกเงินดิจืทัลวอลเลต 10,000 บาท กำลังถึงทางตัน จากการตีความคำว่า "วิกฤติเศรษฐกิจ" โดยรัฐบาลยังคงยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยขณะนี้วิกฤติ ขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่า "ยังไม่วิกฤติ" แต่จะใช้เกณฑ์อะไรชี้ขาด
นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังมีข้อถกเถียงในหลายประเด็นถึงเหตุผลและความจำเป็น แต่เบื้องหลังข้อถกเถียงต่อนโยบายแจกเงินดิจิทัลในครั้งนี้ คือ ฐานคิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลย้ำว่าเศรษฐกิจ "วิกฤต" จำเป็นต้องมีการกระตุ้น ในขณะที่ฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกลมองว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤต
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง แถลงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังจากมีความล่าช้าจากที่คาดการณ์ไว้และเกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นการแถลงในรายละเอียดครั้งแรกของนายเศรษฐาและยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการนโยบายนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ