ThaiPBS Logo

กระตุ้นการใช้จ่าย

การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มการใช้จ่ายเป็นนโยบายที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่ 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย แม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความสมเหตุสมผล ที่ผ่านมา รัฐบาลอาจกระตุ้นด้วยมาตรการ "ลดหย่อนภาษี" "แจกเงินเข้าบัญโดยตรง" หรือ ออกเงินให้บางส่วน เช่น "คนละครึ่ง"

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ขั้นตอนเริ่มต้นนโยบาย ประกาศนโยบายต่อสาธารณะ

วางแผน

ครม.อนุมัติโครงการ คนละครึ่งพลัส ให้สิทธิประชาชน 20 ล้านคน คาดใช้งบ 4.4 หมื่นล้านบาท หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.3 - 0.4 ของ GDP

ตัดสินใจ

รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน 20 ต.ค. 68 และร้านค้าลงทะเบียน 15 ต.ค. 68 เริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ 29 ต.ค. – 31 ธ.ค. 68

ดำเนินงาน

ภาครัฐช่วยจ่าย 50% ไม่เกิน 200 บาท/คน/วัน ผู้ยื่นแบบภาษี ได้ 2,400 บาท/คน ตลอดโครงการ และผู้ไม่ยื่นแบบภาษีได้ 2,000 บาท/คน ตลอดโครงการ

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

ภาพรวม

อ่านเพิ่มเติม

ความเคลื่อนไหวล่าสุด

1 ต.ค. 68 เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการคนละครึ่งพลัส ปี 2568 ในสัปดาห์หน้า และเริ่มใช้วันแรก 29 ต.ค.นี้  และใช้จ่ายในเดือน พ.ย. – ธ.ค. 68

กลุ่มที่จะได้รับสิทธิ มีดังนี้

  • กลุ่มผู้มีรายได้ที่อยู่ในระบบภาษี จำนวนประมาณ 9 ล้านคน ได้เงินคนละ 2,400 บาท สามารถใช้จ่ายได้ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน โดยรัฐช่วยจ่าย 60% และประชาชนจ่าย 40%
  • ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จำนวนประมาณ 11 ล้านคน ได้เงินคนละ 2,000 บาท สามารถใช้จ่ายได้ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน โดยรัฐช่วยจ่าย 50% และประชาชนจ่าย 50%
  • กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(บัตรคนจน) จำนวนประมาณ 13 ล้านคน จะได้รับเป็นเงินสดโอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มอีก 1,700 บาท แบ่งจ่ายเป็น 2 งวดรวมกับของเดิม 300 บาท จะได้เดือนละ 1,150 บาท เริ่มตั้งแต่ พ.ย.-ธ.ค. และสามารถกดเงินสดออกมาใช้จ่ายได้ทันทีโดยไม่ต้องร่วมจ่ายคนละครึ่ง

24 มิ.ย. 68 คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชน ที่เข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง โดยมี ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ คือ ตั้งแต่ 25 มิ.ย. 68- 31 ธ.ค. 68 โดยนักท่องเที่ยวลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 68 และสามารถจองและชำระเงินค่าที่พัก ภายใน 23.00 . ของวันเดียวกัน โดยสามารถใช้สิทธิ์หลังจากการจองและชำระเงิน อย่างน้อย 3 วัน และ เช็คเอ้าท์วันสุดท้ายของโครงการภายในวันที่ 31 ต.ค. 68

ข้อมูลนโยบายล่าสุด : 7 ต.ค. 2568

กลุ่มเป้าหมาย “คนละครึ่งพลัส”

  • ประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: ได้  2,400 บาท/คน ตลอดโครงการ สำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป (ภ.ง.ด. 90) แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากรประเภทเดียว (ภ.ง.ด. 91) หรือแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 95) ของปีภาษี 2567 ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ 30 มิ.ย. 68
  • ประชาชนทั่วไปที่ไม่ยื่นแบบภาษี: ได้ 2,000 บาท/คน ตลอดโครงการ

คุณสมบัติคนได้สิทธิ

  1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
  2. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
  3. มีบัตรประจำตัวประชาชน
  4. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ 1 ต.ค. 68
  5. ไม่เป็นผู้ที่ถูก สศค. ระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 – 5

ระยะเวลาโครงการ

ตั้งแต่ 15 ต.ค.-31 ธ.ค. 68 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เปิดรับลงทะเบียนร้านค้าตั้งแต่ 15 ต.ค.-19 ธ.ค. 68 หรือระยะเวลาตามที่กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำหนด
  • เปิดรับลงทะเบียนประชาชนตั้งแต่ 20 ต.ค.-26 ต.ค. 68 (เวลา 06.00 – 22.00 น.)
  • ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้สิทธิโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.-31 ธ.ค. 68 (เวลา 06.00 – 23.00 น.) โดยสามารถซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ สำหรับการซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 7 พ.ย.-31 ธ.ค. 68 (เวลา 06.00 – 21.00 น.)

เงื่อนไขการใช้จ่าย

ภาครัฐสนับสนุนเงินร่วมจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ไม่เกิน 200 บาท/คน/วัน แต่ไม่เกินจำนวนวงเงินสิทธิที่กำหนด

  • ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งพลัสต้องมีการใช้จ่ายสิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 68 เวลา 23.00 น. นับตั้งแต่วันที่โครงการเปิดให้ใช้สิทธิ เพื่อรักษาสิทธิคนละครึ่งพลัส ตลอดระยะเวลาโครงการ
  • ช่วงเวลาการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส กับร้านค้าที่ร่วมโครงการ ตั้งแต่เวลา 6.00 – 23.00 น. ของทุกวัน โดยชำระเงินผ่าน G Waller (แอปพลิเคชั่น เป๋าตัง)

สินค้าที่ร่วมโครงการ

  • อาหาร และเครื่องดื่ม
  • สินค้าทั่วไป
  • บริการขนส่งสาธารณะ
  • บริการนวด
  • สปา
  • ทำเล็บทำผม

สินค้าที่ไม่ร่วมรายการ

  • สินค้าสลากกินแบ่ง
  • เครื่องดื่มแอลกอลฮอล์
  • ผลิตภัณฑ์ยาสูบ
  • บัตรกำนัล
  • บัตรเงินสด
  • บริการรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้า หรือบริการล่วงหน้า

คาดผลของนโยบายคนละครึ่งพลัส

โดยการดำเนินโครงการฯ จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพในชีวิตประจำวันให้แก่ระชาชนเพื่อให้มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ตลอดจนเพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศในช่วงปลายปี 68 ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการดำเนินโครงการฯ จะทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 88,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.22

ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชนให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและทั่วถึง และที่สำคัญคือ มุ่งหวังให้เศรษฐกิจไทยกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

  • วงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ ไม่เกิน 44,000 ล้านบาท
  • กลุ่มเป้าหมายจำนวนไม่เกิน 20 ล้านคน

 

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท

โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในยุคการนำของพรรคเพื่อไทย มีเป้าหมายหลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมให้เติบโตอย่างรวดเร็ว (แบบพายุหมุน) และส่งเสริมการบริโภคระดับท้องถิ่น รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

ลักษณะของโครงการ คือ แจกเงินจำนวน 10,000 บาท ให้ประชาชนราว 50 ล้านคน ใช้งบประมาณรวม 500,000 ล้านบาท  ผ่านแอปพลิเคชันดิจิทัลวอลเล็ต (คล้ายกับเป๋าตัง) โดยจำกัดการใช้เงิน ภายในรัศมี 4 กิโลเมตร จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สามารถใช้จ่ายได้เฉพาะร้านค้าทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการ (ไม่รวมร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่)

โครงการแบ่งเป็น 3 เฟส

  • เฟสที่ 1 แจกเงินสดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐและผู้พิการ จำนวน 14.5 ล้านคน  ใช้งบประมาณ 140,000 – 145,000 ล้านบาท
  • เฟสที่ 2 แจกเงินสดให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3 ล้านคน ผ่านพร้อมเพย์ ใช้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท
  • เฟสที่ 3 ประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ประมาณ 33 ล้านคน แต่รัฐบาลเปลี่ยนใจเลื่อนโครงการออกไปไม่มีกำหนด  เพราะต้องนำงบ 157,000 ล้านบาทใช้บรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามภายหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ โครงการนี้ก็สุดลงทันที

ลำดับเหตุการณ์

  • โครงการคนละครึ่ง พลัส เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายในวันที่ 29 ต.ค. เป็นวันแรก

    29 ต.ค. 2568

  • คนละครึ่งพลัส เริ่มลงทะเบียนร้านค้าวันแรก โดยต้องยื่นเอกสารที่กระทรวงหมาดไทย และธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

    15 ต.ค. 2568

  • ครม.อนุมัติโครงการ คนละครึ่งพลัส ให้ประชาชน 20 ล้านสิทธิ ลงทะเบียนและเริ่มใช้สิทธิ ต.ค.-พ.ย. หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.3 - 0.4 ของ GDP  ดูเพิ่มเติม ›

    7 ต.ค. 2568

  • เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า และเริ่มใช้วันแรก 29 ต.ค.นี้

    1 ต.ค. 2568

  • ครม.เห็นชอบเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568 จาก 300 บาท บวกอีกคนละ 1,700 บาท แบ่งจ่าย 2 งวด เดือนละ 1,150 บาท เริ่มตั้งแต่ พ.ย.-ธ.ค. โดยสามารถกดเป็นเงินสดได้

    30 ก.ย. 2568

  • ธปท.ชี้โครงการคนละครึ่ง อาจกระตุ้นอาจได้ไม่ถึง 0.4% ของมูลค่าเศรษฐกิจทั้งประเทศ เพราะเป็นมาตรการประเภทเงินโอนที่ไม่ได้สร้างงานและเพิ่มรายได้

    30 ก.ย. 2568

  • เอกนิติ รมว.คลัง เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาโครงการคนละครึ่งพลัส ในสัปดาห์ที่ 2 เดือน ต.ค.นี้ และเปิดลงทะเบียนทันที คาดเริ่มใช้จ่ายภายในปลาย ต.ค.-ธ.ค. 68  ดูเพิ่มเติม ›

    25 ก.ย. 2568

  • ครม. อนุมัติ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง“ วงเงิน 1.7 พันล้าน โดยท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 ก.ค. 2568 นี้ และกำหนดจำนวนสิทธิในการสนับสนุนจากรัฐบาลจะอยู่ที่ 5 แสนสิทธิ โดยสมทบค่าโรงแรมและร้านอาหาร 50%

    24 มิ.ย. 2568

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงชะลอโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เพื่อนำงบไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดผลกระทบจากสงครามการค้า

    20 พ.ค. 2568

  • คณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชะลอโครงการแจกเงิน 10,000 บาท กลุ่มคนอายุ 16-20 ปี

    19 พ.ค. 2568

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่ายังไม่ยกเลิกโครงการ แต่รอรับฟังความเห็นเพิ่มเติม เพราะจำเป็นต้องใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ รับผลกระทบจากสงครามการค้า

    15 พ.ค. 2568

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 คงต้องชะลอออกไปก่อน เตรียมรื้อนโยบายเศรษฐกิจใหม่ รับมือผลกระทบภาษีสหรัฐฯ  ดูเพิ่มเติม ›

    14 พ.ค. 2568

  • เศรษฐพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ขอบคุณรัฐบาลรับฟังความเห็นทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต เพราะสถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ท่ามกลางที่ไทยกำลังเผชิญปัญหาภาษีสหรัฐฯ และสินค้าต่างชาติทะลักเข้าประเทศ

    9 พ.ค. 2568

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 สำหรับประชาชนอายุ 16-20 ปียังไม่เข้าสู่การพิจารณาของครม.ในวันนี้ เนื่องจากต้องรอฟังความคิดเห็น

    6 พ.ค. 2568

  • ก.คลัง เผยโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ 10,000 บาท จ่ายซ้ำครั้งที่ 3 เสร็จสิ้นแล้วเมื่อ 28 เม.ย. รวมการจ่ายสำเร็จ 2,988,751 ราย หรือคิดเป็น 98.78% ของเป้าหมายทั้งหมด รวมเงิน 29,903.82 ล้านบาท

    29 เม.ย. 2568

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เผยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว คาดเสนอที่ประชุม ครม. วันที่ 6 พ.ค.

    29 เม.ย. 2568

  • ก.คลัง เผยโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ 10,000 บาท จ่ายเงินซ้ำ (Retry) ครั้งที่ 2 โอนสำเร็จ 4,963 ราย และโอนไม่สำเร็จ 36,278 ราย ส่งผลยอดรวมจ่ายเงินสำเร็จแล้ว 2,983,788 ราย หรือคิดเป็น 98.62%

    28 มี.ค. 2568

  • คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทให้กับวัยเรียนในช่วงอายุ 16-20 ปีราว 2.7 ล้านคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ "ทางรัฐ"

    10 มี.ค. 2568

  • ก.คลัง เผยแจกเงินผู้สูงอายุ 10,000 บาท วันที่ 27 ม.ค.68 โอนเงินสำเร็จ 2,825,076 ราย ไม่สำเร็จ 200,520 ราย และวันที่ 28 ก.พ.68 จ่ายซ้ำ (Retry) ครั้งที่ 1 สำเร็จ 158,712 ราย ไม่สำเร็จ 41,207 ราย

    3 มี.ค. 2568

  • เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อหารือโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3

    26 ก.พ. 2568

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุเตรียมประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ซึ่งยังคงกำหนดไว้ในช่วงไตรมาสที่ 2/68 นี้ตามเดิม

    10 ก.พ. 2568

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุว่าแจกเงิน 10,000 บาทในเฟส 3 คาดว่าไม่เกินไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยเตรียมงบประมาณไว้ 160,000 ล้านบาท

    27 ม.ค. 2568

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกดปุ่มโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป (เงินหมื่น เฟส 2) ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับแอป "ทางรัฐ" กว่า 3 ล้านคน

    27 ม.ค. 2568

  • ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างลงพื้นที่มหาสารคาม หาเสียงช่วยลูกพรรคเลือกตั้งอบจ.ระบุว่าคนอายุ 16 ปี ไม่ถึง 60 ปี หลังจากเทคโนโลยีเรียบร้อย จะได้รับเงิน 10,000 บาทประมาณช่วงม.ค.-เม.ย.

    20 ม.ค. 2568

  • ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดีอี ระบุว่าเงินดิจิทัลเฟส 3 คาดว่าเทคโนโลยีจะเสร็จภายในมี.ค. 68 จะโอนเงิน 10,000 บาทผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และเป็นไปตามเงื่อนไข

    6 ม.ค. 2568

  • ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาท สำหรับผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป วงเงิน 40,000 ล้านบาท คาดเริ่มโอนภายใน 29 ม.ค. 68  ดูเพิ่มเติม ›

    24 ธ.ค. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ในเฟส 2 สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้น จะเสนอครม.สัปดาห์หน้า คาดมีผู้สูงอายุ 3.2 ล้านคนได้รับ

    20 ธ.ค. 2567

  • เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง คาดแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ในระยะที่ 2 ที่จะแจกให้ผู้สูงอายุ 4 ล้านคน ทันก่อนตรุษจีน (29 ม.ค.) ปี 2568

    17 ธ.ค. 2567

  • จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมว.คลัง ยืนยันว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ยังเป็นไปตามกรอบเวลาคือภายในวันที่ 29 ม.ค. 68

    11 ธ.ค. 2567

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ที่ประชุมครม. ยังไม่พิจารณามาตรการแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อน

    3 ธ.ค. 2567

  • คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อนุมัติแจกเงินหมื่นเฟส 2  ให้กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ประมาณ 3-4 ล้านคน โดยเป็นการแจกเงินสดเหมือนเฟสแรก คาดใช้งบ 40,000 ล้านบาท ได้เงินไม่เกินตรุษจีนปี 68  ดูเพิ่มเติม ›

    19 พ.ย. 2567

  • คลังเตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณามาตรการแจกเงินสด 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ หลัง ทักษิณ ชินวัตร ประกาศบนเวทีหาเสียงอบจ  ดูเพิ่มเติม ›

    15 พ.ย. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จ่อรับข้อเสนอจ่ายเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลัง ทักษิณ ชินวัตร กล่าวปราศรัยอุดรฯ เผยใช้งบประมาณไม่มาก ยันไม่ทับสิทธิกลุ่มเปราะบาง รับมีแจกเงินหมื่นเฟส 2-3  ดูเพิ่มเติม ›

    14 พ.ย. 2567

  • จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทรอบจ่ายซ้ำครั้งแรก ยังมีการจ่ายเงินไม่สำเร็จ 64,892 ราย   ดูเพิ่มเติม ›

    22 ต.ค. 2567

  • คาดจะมีการประชุมปลายเดือน ต.ค.นี้ ในรายละอียดโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2

    18 ต.ค. 2567

  • วันแรกการโอนเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เมื่อ 25 ก.ย. 2567 มีการจ่ายเงินให้แก่คนพิการจำนวน 2.04 ล้านราย จากคนพิการที 2.15 ล้านราย  ดูเพิ่มเติม ›

    26 ก.ย. 2567

  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โอนเงิน 10,000 บาทวันแรก ขณะที่จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุว่าเฟส 2 สำหรับกลุ่มอื่นไม่ทันในปีนี้

    25 ก.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวิฒน์ รมช.คลัง ย้ำรัฐบาลยังเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในเฟส 2 หลังข่าวความไม่แน่นอนของโครงการฯ

    19 ก.ย. 2567

  • รัฐบาลเปิดโอกาสให้คนพิการลงทะเบียนถึง 3 ธ.ค. เพื่อรับสิทธิเงิน 10,000 บาท จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

    18 ก.ย. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงแจกดิจิทัลวอลเล็ตผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้กลุ่มเปราะบาง หากจ่ายครั้งแรกไม่สำเร็จ จะจ่ายซ้ำอีก 3 ครั้ง   ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า เลื่อนประกาศแจ้งรับสิทธิ์ผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐออกไปก่อน พร้อมทั้งเลื่อนการเปิดลงทะเบียนสำหรับคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน  ดูเพิ่มเติม ›

    15 ก.ย. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ชี้แจงในสภา ประมาณวันที่ 25 ก.ย. 67 จะสามารถโอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบาง 14.2 ล้านคน  ดูเพิ่มเติม ›

    12 ก.ย. 2567

  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการแถลงนโยบายว่ารัฐบาลเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต

    12 ก.ย. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่าจะโอนเงินได้ในวันที่ 20 ก.ย. เป็นต้นไป  ดูเพิ่มเติม ›

    9 ก.ย. 2567

  • เอกสารแถลงนโยบายของรัฐบาล ระบุยังเดินหน้าต่อดิจิทัลวอลเล็ต คู่ไปกับช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง

    7 ก.ย. 2567

  • นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะมีการปรับรายละเอียดเล็กน้อยในส่วนนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท

    5 ก.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังคงยึดไทม์ไลน์เดิม โดยจะปิดรับลงทะเบียนกลุ่มสมาร์ทโฟน ในวันนี้ 15 ก.ย. นี้ และในวันที่ 16 ก.ย.-16 ต.ค. จะเปิดลงทะเบียนในกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน

    5 ก.ย. 2567

  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าโครงการจ่ายเงิน 10,000 บาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังเป็นนโยบายของรัฐบาล เพียงแต่ปรับรูปแบบและวิธีการบางด้าน

    3 ก.ย. 2567

  • ยเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุให้รอความชัดเจนในการแถลงนโยบายรัฐบาล คาดเงินเข้าระบบในเดือนก.ย.นี้

    28 ส.ค. 2567

  • ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุรัฐบาลได้ปรับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะใช้งบ 1.45 แสนล้านบาท โอนเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มเปราะบางในเดือนก.ย.

    22 ส.ค. 2567

  • โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ  ดูเพิ่มเติม ›

    22 ส.ค. 2567

  • มีกระแสข่าวการปรับเงื่อนไขดิจิทัลวอลเล็ต จะจ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือกลุ่มรายได้น้อยก่อน โดยจะโอนเป็นเงินสด

    21 ส.ค. 2567

  • ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุได้ยินฝ่ายนโยบายเพื่อไทยพูดคุย คาดว่ามาตรการกระตุ้นจะทำทันทีหลังรัฐบาลเริ่มทำงาน อาจชะลอส่วนที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีไว้ก่อน ซึ่งมีการตีความว่าจะแจกเป็นเงินสด

    20 ส.ค. 2567

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ยันเดินหน้าโครงการต่อ แต่ขอศึกษารายละเอียดและหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง  ดูเพิ่มเติม ›

    18 ส.ค. 2567

  • ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ระบุโครงการจะเดินหน้าหรือไม่ ให้รอรัฐบาลใหม่

    16 ส.ค. 2567

  • แกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันจะเสนอรัฐบาลใหม่เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่มีการรายงานข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร เสนอให้ยกเลิก

    15 ส.ค. 2567

  • ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง

    14 ส.ค. 2567

  • กระทรวงพาณิชย์ เตรียมแถลงข่าวในวันที่ 25 ก.ย. 67 รายละเอียดหลักเกณฑ์ที่ร้านค้าจะเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสินค้าที่ประชาชนสามารถซื้อได้ ก่อนที่จะเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 1 ต.ค. 67  ดูเพิ่มเติม ›

    9 ส.ค. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงต่อที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) ในวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 1.22 แสนล้านบาท ย้ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  ดูเพิ่มเติม ›

    6 ส.ค. 2567

  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจคนที่ได้เงินดิจิทัล ส่วนใหญ่จะนำไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค  ดูเพิ่มเติม ›

    6 ส.ค. 2567

  • รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 1 ส.ค.-15 ก.ย.  ดูเพิ่มเติม ›

    1 ส.ค. 2567

  • แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ขัดข้องในวันนี้ ขณะที่คลังระบุเป็นการรีเซตระบบเพื่ออัพเดตเวอร์ชันเพื่อเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้า เตรียมความพร้อมลงทะเบียน 1 ส.ค.

    31 ก.ค. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง แถลงเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย. 2567 และมีกำหนดเริ่มใช้จ่ายในไตรมาส 4   ดูเพิ่มเติม ›

    24 ก.ค. 2567

  • ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ระบุว่ามีร้านค้าตอบรับการลงทะเบียนแล้วจำนวนมาก ร้านสะดวกซื้อ อย่างเซเว่นอีเลฟเว่น เข้าร่วมโครงการได้

    23 ก.ค. 2567

  • ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ระบุว่าจะเปิดให้ร้านค้าเริ่มลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค ตามที่คณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ให้พาณิชย์ไปพิจารณารายการสินค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ

    19 ก.ค. 2567

  • สภาผู้แทนราษฎร ผ่านร่างจ่ายเพิ่มเติมงบประมาณปี 2567 จำนวน 1.22 แสนล้านบาท ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต  ดูเพิ่มเติม ›

    18 ก.ค. 2567

  • คกก.นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท เห็นชอบกรอบวงเงิน 4.5 แสนล้านบาท และแหล่งที่มาของเงินใหม่ โดยไม่กู้เงิน ธ.ก.ส. ซึ่งนายกฯ เดินหน้าแถลง 24 ก.ค. 2567  ดูเพิ่มเติม ›

    15 ก.ค. 2567

  • กระทรวงการคลัง ยอมถอยไม่ใช้เงิน ธ.ก.ส. แจกดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ขณะที่ลดงบประมาณเหลือ 4.5 แสนล้านบาท พร้อมเห็นชอบ เงื่อนไขเพิ่มเติม ซื้อ "มือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้า" ไม่ได้  ดูเพิ่มเติม ›

    10 ก.ค. 2567

  • เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เผยวันที่ 10 ก.ค.นี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการดิจิทัลฯ เพื่อที่จะสรุปเงื่อนไขทั้งหมด

    8 ก.ค. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุว่าภายในเดือนก.ค.นี้ จะเปิดลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

    3 ก.ค. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เผย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทบทวบรายการสินค้าที่ร่วมโครงการใหม่ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน

    17 มิ.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เผยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังทำตามกรอบเดิม เงินถึงมือประชาชนไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมเห็นชอบนำไปซื้อ "สมาร์ทโฟน" ได้ ชี้เป็นปัจจัย 5 เครื่องมือทำมาหากิน  ดูเพิ่มเติม ›

    14 มิ.ย. 2567

  • ครม.เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท รองรับดิจิทัลวอลเล็ต เล็งให้สิทธิกลุ่มเปราะบางก่อน 14.98 ล้านคน   ดูเพิ่มเติม ›

    4 มิ.ย. 2567

  • คกก.นโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท

    27 พ.ค. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังธ ประชุมคณะอนุกรรมการ Digital Wallet ครั้งที่ 3/2567 หารือความคืบหน้าระบบเชื่อมแอปธนาคาร

    23 พ.ค. 2567

  • ครม. เห็นชอบในหลักการให้ทำงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะให้ใช้จาก 3 แหล่ง คือ งบประมาณปี 67, งบประมาณปี 68 และมาตรา 28 ตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ  ดูเพิ่มเติม ›

    21 พ.ค. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หลังรับตำแหน่งวันที่ 2 สรุปตามกรอบเดิม

    8 พ.ค. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมครม. ระบุจะส่งให้กฤษฎีกาตีความประเด็นการใช้เงินธ.ก.ส.มาดำเนินโครงการ

    23 เม.ย. 2567

  • ศุภชัย วงศ์เวคิน ประธานสหภาพแรงงาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าพบ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ขอให้ชี้แจงประเด็นเรื่องยืมเงิน ธ.ก.ส. 1.72 แสนล้านบาท

    22 เม.ย. 2567

  • คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 3/2567 เห็นชอบโครงการวงเงิน 5 แสนล้านบาท  ดูเพิ่มเติม ›

    10 เม.ย. 2567

  • ครม. มีมติเร่งคณะกรรมการนโยบายฯ สรุปผลพิจารณาข้อเสนอจาก ป.ป.ช.กรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แล้วนำกลับมาเสนอ ครม.ภายใน 2 สัปดาห์  ดูเพิ่มเติม ›

    9 เม.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่กระทรวงการคลัง

    5 เม.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวในการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข รอวันที่ 10 เม.ย.

    3 เม.ย. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าจะมีการแถลงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในวันที่ 10 เม.ย.นี้  และนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)   ดูเพิ่มเติม ›

    2 เม.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยันเดินหน้าโครงการต่อ คาดเปิดลงทะเบียนไตรมาส 3 และเริ่มโอนเงินในไตรมาส 4  ดูเพิ่มเติม ›

    26 มี.ค. 2567

  • ลวรณ แสงสนิท ปลัดการคลัง เตรียมสรุปความเห็นเสนอโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คาดบอร์ดชุดใหญ่ประชุมก่อนสงกรานต์

    22 มี.ค. 2567

  • สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เตือนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเสี่ยงสูงจากหนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้น และอาจจะกระทบเครดิตประเทศ

    20 มี.ค. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เผยเตรียมนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า  ดูเพิ่มเติม ›

    19 มี.ค. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุยังไม่มีกำหนดวันนัดประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต ครั้งต่อไป รอความเห็นธปท.และคณะอนุกรรมการฯ

    12 มี.ค. 2567

  • คณะกรรมการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กำหนดกรอบเวลา 30 วัน มีการประชุม แต่ไม่มีมติในเรื่องใด แต่ตั้งคณะอนุกรรมการฯ ศึกษาความเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เสนอมา  ดูเพิ่มเติม ›

    15 ก.พ. 2567

  • มีรายงานว่าคณะทำงานศึกษาความเสี่ยงและผลกระทบจากการดำเนินนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เตือนการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน  ดูเพิ่มเติม ›

    14 ก.พ. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ระบุได้รับรายงานข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช. เกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว เตรียมนัดประชุม 15 ก.พ. 2567  ดูเพิ่มเติม ›

    10 ก.พ. 2567

  • ป.ป.ช. แถลงข้อเสนอแนะ 8 ข้อ ต่อ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ลดเสี่ยงขัดกฎหมาย  ดูเพิ่มเติม ›

    7 ก.พ. 2567

  • เศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกฯ และรมว.คลัง หารือจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียด

    5 ก.พ. 2567

  • นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการป.ป.ช. ระบุบอร์ดป.ป.ช.เตรียมพิจารณารายงานศึกษาดิจิทัลวอลเล็ต

    26 ม.ค. 2567

  • เศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกฯ และรมว.คลัง ยอมรับโครงการล่าช้าจากกำหนดเดิมในเดือนพ.ค. 2567

    19 ม.ค. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุ อาจแจกเงินดิจิทัลไม่ทันตามกำหนดเดิมในเดือน พ.ค. 2567

    17 ม.ค. 2567

  • บอร์ดเงินดิจิทัลเลื่อนการประชุมไม่มีกำหนด ขณะที่คณะกรรมการป.ป.ช. เตือนเสี่ยงผิดฏฎหมาย

    16 ม.ค. 2567

  • เศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกฯ และรมว.คลัง ระบุยังดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามกำหนดเดิม คือ พ.ค. 2567 โดยออกพ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท

    9 ม.ค. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงว่ากฤษฎีกาให้ความเห็นว่าสามารถออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านได้ แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง

    8 ม.ค. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ระบุกฤษฎีกาส่งความเห็นมาแล้ว พร้อมข้อเสนอแนะ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด

    8 ม.ค. 2567

  • ศิริกัญญา ตันสกุล สส.ก้าวไกล อภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2567 กล่าวถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ไม่มีงบดิจิทัลวอลเล็ตปรากฏในงบฯ ปี 2567 ส่วนกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันลดเหลือ 15,000 ล้านบาท

    3 ม.ค. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ระบุส่งเรื่องขอความเห็นจากกฤษฎีกาแล้ว มั่นใจใช้ทันในเดือนพ.ค. 2567

    9 ธ.ค. 2566

  • คกก.เฝ้าระวังตรวจสอบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เชิญ ก.คลัง กรมสรรพากร และสำนักนโยบายหนี้สาธารณะ มาให้ข้อมูล เพื่อติดตามว่ารัฐบาลจะใช้งบฯ และส่งให้ประชาชนด้วยวิธีการใด

    8 ธ.ค. 2566

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุว่าตรวจร่างคำถามเกี่ยวกับพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท คาดว่าใน 1-2 วันนี้จะส่งร่างให้กฤษฎีกาพิจารณา

    6 ธ.ค. 2566

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ระบุจะส่งเรื่องขอความเห็นจากสำนักงานกฤษฎีกาในสัปดาห์นี้

    4 ธ.ค. 2566

  • เศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกฯ และรมว.คลัง แถลงสรุปนโยบาย เดินหน้าโครงการ แต่เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ถูกวิจารณ์"ไม่ตรงปก"

    10 พ.ย. 2566

  • คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ยังเห็นไม่ตรงกันในกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิ

    26 ต.ค. 2566

  • ที่ประชุม ป.ป.ช. เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษา และดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล

    24 ต.ค. 2566

  • ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ยันเดินหน้าโครงการ เป็นธรรมดามีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

    16 ต.ค. 2566

  • เศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกฯ และรมว.คลัง โพสต์ข้อความระบุอย่าให้คนค้านอย่าไร้เหตุผลมาหยุดโครงการนี้

    14 ต.ค. 2566

  • สมาชิกพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน ออกมาตอบโต้กันอย่างดุเดือดถึงความเหมาะสมแจกเงินดิจิทัล

    8 ต.ค. 2566

  • 99 นักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์ ออกแถลงการณ์คัดค้าน ระบุไม่คุ้มค่า

    6 ต.ค. 2566

  • ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการในการแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน รวม 4 คณะ

    3 ต.ค. 2566

  • ครม. มอบหมายให้ รมช.คลัง ศึกษารายละเอียดของแนวทางในการดำเนินนโยบายให้ชัดเจน

    13 ก.ย. 2566

  • พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าผลักดันดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาททันที คาดใช้ได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี 67

    24 ส.ค. 2566

  • พรรคเพื่อไทยระบุไม่ได้ใช้คำว่า "ยุติ" หรือ "พับ" โครงการ แต่ "ชะลอ" เพื่อใช้เวลาในการเจรจาร่วมกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

    2 มิ.ย. 2566

  • มีการเปิดเผยเอกสารการกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ต้องให้จ่ายเงินตามมาตรา 57 แห่งระบุที่มาของเงิน 560,000 ล้านบาท

    21 เม.ย. 2566

  • เปิดตัวนโยบาย “กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)” บนเวทีเปิดตัว 400 สส.ของพรรคเพื่อไทย

    17 มี.ค. 2566

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

กระตุ้นเศรษฐกิจ
รัฐบาลหวังว่านโยบายดังกล่าวจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยทั่วประเทศ เป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจระยะสั้น

เชิงกระบวนการ

การกำหนดนโยบาย
รัฐบาลจะช่วยใช้จ่ายสินค้าและบริการ 50% ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มไม่เกิน 20 ล้านคน ยกเว้นคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

เชิงการเมือง

สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ตั้งเป้าหมายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.3 - 0.4 ของ GDP และฟื้นเศรษฐกิจไทยให้พ้นจากการติดหล่มในช่วงไตรมาส 4

อินโฟกราฟิก

Image 0Image 1Image 2Image 3Image 4Image 5Image 6Image 7

บทความ

ดูทั้งหมด
ฟื้นแพ็คเกจลดหย่อนภาษี "กระตุ้นท่องเที่ยว"ปลายปี

ฟื้นแพ็คเกจลดหย่อนภาษี "กระตุ้นท่องเที่ยว"ปลายปี

รัฐบาลปัดฝุ่น "แพ็คเกจกระตุ้นท่องเที่ยว" นำรายจ่ายค่าโรงแรม-อาหาร ลดหย่อนภาษีได้สำรับบุคคลธรรมดา ไม่เกิน 30,000 บาท ขณะที่นิติบุคคลหักรายจ่ายได้จากการจัดประชุมสัมมนา พร้อมสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก ขณะที่นักท่องเที่ยว 9 เดือนครึ่ง ลดลง 7.45%

เช็กสิทธิ-ขั้นตอน-เงื่อนไขลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส“

เช็กสิทธิ-ขั้นตอน-เงื่อนไขลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส“

"คนละครึ่งพลัส" เปิดลงทะเบียนร้านค้าตั้งแต่ 15 ต.ค.-19 ธ.ค. 68 ส่วนประชาชนตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป ลงทะเบียนตั้งแต่ 20 ต.ค.-26 ต.ค. 68 ใช้สิทธิได้ถึง 31 ธ.ค. 68 คาดใช้งบ 4.4 หมื่นล้าน สร้างเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวนประมาณ 88,000 ล้านบาท

เงื่อนไขคนละครึ่งพลัส เริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ ต.ค. 68

เงื่อนไขคนละครึ่งพลัส เริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ ต.ค. 68

รัฐบาลฟื้นมาตรการคนละครึ่ง เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "คนละครึ่งพลัส" หวังกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายในช่วงปลายปี ให้สิทธิประชาชน 3 กลุ่ม คาดลงทะเบียนกลางเดือน ต.ค. ใช้จ่าย พ.ย.-ธ.ค. 68 คาดว่าจะเริ่มใช้วันแรก 29 ต.ค. แม้จะมีความเป็นห่วงเรื่องฐานะการคลังและมาตรการนี้อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มากนัก

เปิด 15 นโยบายรัฐบาล 4 เดือน ทำอะไรได้แค่ไหน?

เปิด 15 นโยบายรัฐบาล 4 เดือน ทำอะไรได้แค่ไหน?

สำรวจนโยบายรัฐบาล "อนุทิน ชาญวีรกุล" ที่ประกาศไว้ตั้งแต่เริ่มฟอร์มรัฐบาลว่าจะอยู่บริหารประเทศเพียง 4 เดือน ก่อนยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยรัฐบาลประกาศนโยบายไว้ 15 ด้านในการแถลงนโยบายสัปดาห์หน้า แต่นโยบายใดจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนในช่วงเวลาที่จำกัด

การเมืองพลิกขั้ว นโยบายเพื่อไทย ไปต่อ หรือ พอก่อน?

การเมืองพลิกขั้ว นโยบายเพื่อไทย ไปต่อ หรือ พอก่อน?

ท่ามกลางบรรยากาศรอติดตามว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง ที่แต่ละพรรคต่างขับเคี่ยวชิงไหวชิงพริบกันอย่างดุเดือด 'ประชาชน' จำนวนไม่น้อยกลับรอดลุ้นดูท่าทีว่านโยบายที่พวกเขาต้องการจะถูกผลักดันต่อไปหรือไม่หากรัฐบาลต้องเปลี่ยนขั้วขึ้นมาจริง ๆ

บทเรียนนโยบายแจกเงินหมื่น ไม่ตอบโจทย์ฟื้นเศรษฐกิจ

บทเรียนนโยบายแจกเงินหมื่น ไม่ตอบโจทย์ฟื้นเศรษฐกิจ

แจกเงิน 10,000 บาท เฟสแรก กระตุ้นเศรษฐกิจไทยแผ่ว นักเศรษฐศาสตร์ชี้จุดอ่อน ใช้จ่ายได้อิสระ ไร้หลักเกณฑ์ที่ชัด เพราะคนนำไปใช้หนี้ แนะฟื้นเศรษฐกิจให้ได้ผลระยะยาว ต้องทำนโยบายเพิ่มรายได้ประชาชน เพื่อให้เงินที่จ่ายไป 1 บาท หมุนกลับมาได้มากกว่า 1 บาท