ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วงไตรมาสแรกยังแข็งแกร่ง แม้ความสามารถในการทำกำไรลดลง ขณะที่แบงก์ชาติห่วงหน้าภาคธุรกิจและครัวเรือน จากภาวะเงินตรึงตัว เสี่ยงกับสงครามการค้าทำให้หนี้ภาคธุรกิจและครัวเรือนเพิ่มขึ้น
นโยบายภาษีของทรัมป์ในปัจจุบัน (Trump 2.0) กำลังเร่งให้พลวัตการค้าโลกย้อนกลับไปสู่ “ยุคของการกีดกันทางการค้า” หรือ Protectionism เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจแบบระบบเปิดขนาดเล็ก (Small-open Economy) จะได้รับผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางอ้อมในหลายด้าน
ธปท.คาดนโยบายภาษีทรัมป์ เปลี่ยนการค้าโลกครั้งใหญ่ ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้โตต่ำกว่า 2.5% แต่อาจไม่รุนแรงเท่าวิกฤตโควิด-19 โดยกระทบหนักธุรกิจกลุ่มส่งออกไปสหรัฐฯ แนะไทยเร่งปรับตัวควบคู่กับการเจรจา พร้อมเสนอมาตรการรับมือระยะสั้น-ระยะยาว
นโยบายภาษีทรัมป์ (Trump tariffs) ที่ประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา กลายมาเป็นความท้าทายใหม่ของเศรษฐกิจไทย ที่ผลกระทบอาจแผ่เป็นวงกว้างและลากยาว และอาจทำให้พัฒนาการของเศรษฐกิจไทยถดถอย บทความนี้พาไปดูว่าทำไมทุกภาคส่วนถึงต้องจับตานโยบายภาษีทรัมป์เป็นพิเศษ
ยังไม่มีความชัดเจนว่าสงครามการค้าที่รุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะไปจบลงที่ตรงไหน หลังสหรัฐฯและจีนขึ้นภาษีตอบโต้กันไม่หยุด นักเศรษฐศาสตร์เชื่อเจ็บทั้งคู่ แนะไทยเตรียมรับมือสินค้าจากจีนทะลักเข้าประเทศ
สหรัฐฯขึ้นภาษีทั่วโลก เปิด"สงครามการค้า" ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การค้าโลก นักวิเคราะห์ประเมินผลกระทบรุนแรงกว่าครั้งก่อน จุดเปลี่ยนระบบการค้าโลก คาดใช้เวลา 3 เดือนในการเจรจา ขณะที่รัฐบาลพร้อมเจรจา คาดส่งออกไปสหรัฐฯลดลงทุก 1% กระทบมูลค่าส่งออก 1.2 หมื่นล้านบาท ฉุดจีดีพี 0.11%
ไทยอาจเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกสหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 25% ตามนโยบายทรัมป์ 2.0 นักวิเคราะห์ประเมินจะกระทบการส่งออกไทยอย่างหนัก และฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศในปีนี้