แต่ทว่า ในขั้นตอนการพิจารณาอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักกับการหาข้อสรุปร่วมกัน จากร่างกฎหมายทั้ง 7 ฉบับที่ แม้จะมีเป้าหมายเดียวกันเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ แต่ก็ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในหลายประเด็น ซึ่งต้องจับตาดูว่าสุดท้ายแล้วร่างกฎหมายที่จะตกผลึกร่วมกันจะมีหน้าตาอย่างไร
โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเป็นเอกฉันท์ 443 เสียง รับหลักการร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดทั้ง 7 ฉบับ และมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 39 คน ทำให้ความคืบหน้าในปัจจุบันของการร่างกฎหมายอากาศสะอาดอยู่ในวาระที่ 2 ขั้นกรรมาธิการ เพื่อพิจารณารายละเอียดรายมาตรา และจะหลอมรวมร่างกฎหมายทั้ง 7 ฉบับ โดยมีฉบับร่างของรัฐบาล (คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ) เป็นร่างหลัก เพื่อรวมเป็นกฎหมายอากาศสะอาดฉบับเดียว
จาก 7 ร่างกฎหมาย หลอมรวมเป็นหนึ่ง
ร่างกฎหมายอากาศสะอาด 7 ฉบับ ประกอบด้วย
- ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. (คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ) – ฉบับรัฐบาล (ใช้ร่างนี้เป็นหลัก)
- ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. (ตรีนุช เทียนทอง กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับพลังประชารัฐ
- ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ. …. (อนุทิน ชาญวีรกูล กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับภูมิใจไทย
- ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พ.ศ. …. (จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับเพื่อไทย
- ร่างพระราชบัญญัติฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน พ.ศ. …. (ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับก้าวไกล
- ร่างพระราชบัญญัติกำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ พ.ศ. …. (คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 22,251 คนเป็นผู้เสนอ) – ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด
- ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ พ.ศ. …. (ร่มธรรม ขำนุรักษ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับประชาธิปัตย์
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเนื้อหารายละเอียดในร่างกฎหมายแต่ละฉบับมีความคล้ายคลึงกัน เช่น การกำหนดคำนิยาม การเรียงลำดับมาตรา การแบ่งหมวดหมู่ แต่อาจแตกต่างในรายละเอียดเชิงลึก โดยอาจแบ่งได้ตามนี้
- ฉบับรัฐบาล – ฉบับพลังประชารัฐ คล้ายกัน
- ฉบับภูมิใจไทย – ฉบับเพื่อไทย คล้ายกัน
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด – ฉบับประชาธิปัตย์ คล้ายกัน
- ฉบับก้าวไกล ไม่คล้ายกับฉบับใดเลย
Policy Watch ได้ทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของแต่ละฉบับในส่วนที่สำคัญ ๆ ทั้งเรื่องการนิยาม สิทธิ-หน้าที่ คณะกรรมการ เครื่องมือ-มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ กองทุน และบทลงโทษ
นิยามคำว่า “อากาศสะอาด”
แม้กฎหมายทั้ง 7 ฉบับจะมีชื่อเล่นเรียกรวมว่า กฎหมายอากาศสะอาด แต่มีการกำหนดคำนิยามของอากาศสะอาดไว้ในกฎหมาย 5 ฉบับเท่านั้น (ทุกฉบับ ยกเว้นฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย) ดังนี้
- ฉบับรัฐบาล หมายความว่า อากาศที่ไม่มีสารมลพิษ หรือมีสารมลพิษเจือปนอยู่ในปริมาณที่ไม่เกินมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาด ตามประกาศคณะกรรมการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด
- ฉบับพลังประชารัฐ หมายความว่า อากาศที่ไม่มีสารมลพิษ หรือมีสารมลพิษเจือปนอยู่ในปริมาณที่ไม่เกินมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาด ตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดประกาศกำหนด
- ฉบับก้าวไกล หมายความว่า อากาศที่ไม่มีฝุ่นพิษ หรือไม่มีมลพิษเจือปนอยู่ในปริมาณที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ตามค่าความปลอดภัยของคุณภาพอากาศที่องค์การระหว่างประเทศกำหนด หรือตามที่คณะกรรมการได้กำหนดไว้
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด หมายความว่า อากาศที่ไม่มีสารมลพิษ หรือไม่มีสารมลพิษเจือปนอยู่ในปริมาณที่สูงกว่าระดับปกติ อันเป็นที่ยอมรับทางวิชาการระดับสากล หรือตามที่คณะกรรมการกำกับประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการร่วม เป็นเวลานานพอที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ พืช หรือทรัพย์สินต่าง ๆ
- ฉบับประชาธิปัตย์ หมายความว่า อากาศที่ไม่มีสารมลพิษ หรือไม่มีสารมลพิษเจือปนอยู่ในปริมาณที่สูงกว่าระดับปกติเป็นเวลานานพอที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์สัตว์ พืช หรือทรัพย์สินต่าง ๆ อันเป็นที่ยอมรับทางวิชาการระดับสากล หรือตามที่คณะกรรมการกำกับประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการร่วม
จะเห็นได้ว่า การให้ความหมายของคำว่า “อากาศสะอาด” ทั้ง 5 ฉบับ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ อากาศที่ไม่มีมลพิษเจือปนในปริมาณที่สูงเกินเกณฑ์ ซึ่งเกณฑ์อาจกำหนดโดยคณะกรรมการ องค์กรระหว่างประเทศ หรือการยอมรับทางวิชาการ ตามแต่ละฉบับ โดยในฉบับเครือเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ มีการพูดถึงเรื่องของกรอบเวลาว่า “นานพอที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์สัตว์ พืช หรือทรัพย์สินต่าง ๆ” เพิ่มเติม
สิทธิ-หน้าที่ของบุคคล
เป็นหนึ่งในสาระสำคัญเพราะกำหนดถึงสิทธิที่ประชาชนจะได้รับ รวมไปถึงวิธีการให้ได้มาซึ่งสิทธินั้น ๆ ด้วย
- สิทธิที่จะได้รับหรือหายใจอากาศสะอาด ระบุในทั้ง 7 ฉบับ
- สิทธิในการเข้าถึงและรับทราบข้อมูลข่าวสาร ระบุในทั้ง 7 ฉบับ
- สิทธิในการมีส่วนร่วมจัดทำแผนการและกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้อง ระบุในทั้ง 7 ฉบับ
- สิทธิทางศาลหรือการได้รับความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม ระบุในทั้ง 7 ฉบับ แต่มีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
- ฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ ให้สิทธิฟ้องร้องดำเนินคดี โดยบุคคลหรือหน่วยงานรัฐสามารถฟ้องร้องผู้ก่อมลพิษได้
- ฉบับภูมิใจไทย ให้สิทธิทางศาล โดยสามารถฟ้องร้องบุคคลผู้ก่อมลพิษได้
- ฉบับเพื่อไทย ให้สิทธิทางศาล โดยสามารถฟ้องร้องบุคคลหรือหน่วยงานรัฐผู้ก่อมลพิษได้ และรัฐให้คำแนะนำผู้ร้องเรียนในการดำเนินคดี และมีอำนาจดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในฐานะเป็นผู้เสียหายได้
- ฉบับก้าวไกล ให้สิทธิทางศาล โดยสามารถฟ้องร้องบุคคลผู้ก่อมลพิษหรือหน่วยงานรัฐที่เพิกเฉยได้
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ ให้สิทธิฟ้องร้องดำเนินคดี โดยบุคคลหรือรัฐบาลไทยสามารถฟ้องร้องผู้ก่อมลพิษได้
- สิทธิในการตรวจสุขภาพหรือเข้ารับการรักษา ระบุใน 3 ฉบับ และมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
- ฉบับก้าวไกล ให้สิทธิในการเข้าถึงระบบสุขภาพเพื่อประเมินผลกระทบจากการรับฝุ่นพิษ รวมถึงให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพและเท่าเทียม
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ ให้สิทธิกลุ่มเปราะบางได้รับการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลรัฐหรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานไม่ต่ำกว่าโรงพยาบาล ซึ่งรัฐจัดให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากบัญญัติสิทธิแล้ว กฎหมายบางฉบับยังมีการบัญญัติหน้าที่ของบุคคลเพิ่มเติมด้วย ได้แก่
- หน้าที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่สร้างผลกระทบเกินสมควรต่อบุคคลอื่น ระบุใน 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- หน้าที่สนับสนุนและส่งเสริมดำเนินการต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ ระบุใน 5 ฉบับ ได้แก่ ฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับภูมิใจไทย ฉบับเพื่อไทย และฉบับก้าวไกล
โดยฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ ไม่ได้มีการระบุหน้าที่ของบุคคลไว้
คณะกรรมการทั้งหมด
สามารถแบ่งคณะกรรมการออกได้เป็น 7 กลุ่ม ดังนี้
- คณะกรรมการนโยบาย มีในทั้ง 7 ฉบับ แต่มีชื่อเรียกแตกต่างกัน (กล่าวถึงในหัวข้อถัดไป)
- คณะกรรมการบริหาร-กำกับ มีในทั้ง 7 ฉบับ แต่มีชื่อเรียกแตกต่างกัน
- คณะกรรมการระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด มีในทั้ง 7 ฉบับ
- คณะกรรมการระดับอำเภอ (เพื่อสนับสนุนการดำเนินการที่เป็นหน้าที่และอำนาจของจังหวัด) มีใน 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย
- คณะกรรมการพื้นที่เฉพาะ (พื้นที่เฉพาะคือ ขอบเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ) มีใน 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์
- เจ้าพนักงานอากาศสะอาด มีใน 4 ฉบับ ได้แก่ ฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย
- คณะกรรมการอื่น ๆ เช่น
- คณะกรรมการด้านวิชาการแหล่งมลพิษทางอากาศ มีใน 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย
- คณะกรรมการกองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ ในฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด
- คณะกรรมการบริหารเครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ออากาศสะอาด ในฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด
คณะกรรมการนโยบาย
แม้คณะกรรมการนโยบายจะมีในกฎหมายอากาศสะอาดทุกฉบับ ได้ก็มีชื่อคณะกรรมการ ที่มา สัดส่วน และอำนาจหน้าที่ที่แตกต่างกัน ดังนี้
ชื่อคณะกรรมการ
- ฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ ชื่อคณะกรรมการนโยบายอากาศสะอาด
- ฉบับภูมิใจไทย ชื่อคณะกรรมการอากาศสะอาด
- ฉบับเพื่อไทย ชื่อคณะกรรมการอากาศสะอาดเพื่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
- ฉบับก้าวไกล ชื่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535)
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ ชื่อคณะกรรมการร่วมนโยบายอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ
อำนาจหน้าที่
- กำหนดนโยบายและแผนแม่บท (บางฉบับมีการพูดถึงการขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี) มีในทั้ง 7 ฉบับ
- เสนอแนะแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับอากาศสะอาด ต่อครม. มีในทั้ง 7 ฉบับ
- กำหนดกรอบแนวทาง แผนปฏิบัติการ หรือมาตรการ มีในทั้ง 7 ฉบับ แบ่งเป็น
- กำหนดกรอบแนวทางการพัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ในฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- พิจารณา-เห็นชอบแผนปฏิบัติการการพัฒนาคุณภาพอากาศของจังหวัด กลุ่มจังหวัด ท้องถิ่น ในฉบับภูมิใจไทย ฉบับเพื่อไทย และฉบับก้าวไกล
- กำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองรักษาความสมดุล-ยั่งยืน ในฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์
- กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาด มีใน 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับภูมิใจไทย ฉบับเพื่อไทย และฉบับก้าวไกล
- กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนา-มาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาด มีใน 5 ฉบับ ได้แก่ ฉบับภูมิใจไทย ฉบับเพื่อไทย ฉบับก้าวไกล ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์
- เสนอมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ต่อ ครม. มีใน 5 ฉบับ ได้แก่ ฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับภูมิใจไทย ฉบับเพื่อไทย และฉบับก้าวไกล
- กำหนดหรือเสนอแนะการจัดสรรงบประมาณ มีใน 4 ฉบับ ได้แก่ ฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย
- เสนอรายงานสถานการณ์หรือผลการทำงาน ต่อครม. มีใน 4 ฉบับ แบ่งเป็น
- เสนออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ และฉบับภูมิใจไทย
- เสนออย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ในฉบับเพื่อไทย
- เสริมสร้างความร่วมมือหรือความตระหนักรู้ มีในทั้ง 7 ฉบับ
- หน้าที่อื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่
- กำหนดนโยบายแก้ปัญหามลพิษอากาศข้ามแดน ในฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- กำหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษ ในฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย
- ประกาศหลักเกณฑ์การกำหนดเขตควบคุมมลพิษ ในฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย
- ประกาศรายนามผู้เป็นสาเหตุของฝุ่นพิษ เข้าถึงได้สะดวก-ตลอดเวลา ในฉบับก้าวไกล
- จัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี ในฉบับก้าวไกล
- ให้โรงงานอุตสาหกรรมและบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ต้องทำรายงานสิ่งแวดล้อม ในฉบับก้าวไกล
- ติดตามและประเมินผลการดำเนินการกฎหมาย และรายงานครม. ทุก 1 ปี ในฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์
จำนวนสัดส่วนจากภาคเอกชน-ประชาสังคม แตกต่างกันในแต่ละฉบับ บางฉบับมีการแยกสัดส่วนของภาคเอกชนออกจากภาคประชาสังคมอย่างชัดเจน ในขณะที่บางฉบับเรียกรวมเป็นภาคเอกชน-ประชาสังคม โดยแต่ละฉบับมีสัดส่วนดังนี้
- ฉบับรัฐบาล รัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกิน 4 คน เป็นผู้มีประสบการณ์หรือผลงานเป็นที่ประจักษ์
- ฉบับพลังประชารัฐ ไม่เกิน 4 คน เป็นผู้มีประสบการณ์หรือผลงานเป็นที่ประจักษ์
- ฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย รวมอยู่ในกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่รัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกิน 8 คน โดยต้องเป็นตัวแทนภาคเอกชนหรือภาคประชาชนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
- ฉบับก้าวไกล ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 รวมอยู่ในกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่รัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกิน 8 คน โดยต้องเป็นตัวแทนภาคเอกชนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด รวม 7 คน แบ่งเป็น เลือกตัวแทน 2 คน เป็นรองประธานกรรมการ และเลือกตั้ง 5 คน ที่มีประสบการณ์หรือผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยใน 7 คนนี้ อย่างน้อย 4 คนจะต้องไม่มีส่วนในการเกิดหมอกควันพิษ
- ฉบับประชาธิปัตย์ เลือกตั้งรวม 9 คน ที่มีประสบการณ์หรือผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยต้องเป็นนักวิชาการ 4 คน และตัวแทนภาคเอกชน 2 คน และใน 9 คนนี้จะได้รับเลือกเป็นรองประธานกรรมการจำนวน 2 คน
กลไกการแก้ปัญหา
ระบบเฝ้าระวัง-ฐานข้อมูล-พยากรณ์ ถูกพูดถึงในทั้ง 7 ฉบับ แต่มีการลงรายละเอียดใน 5 ฉบับ ได้แก่
- ระบบเฝ้าระวัง ในฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- ระบบแจ้งเตือน-พยากรณ์ ในฉบับก้าวไกล (เข้าถึงได้ทุกที่-ตลอดเวลา)
- ฐานข้อมูล ในฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับภูมิใจไทย (รายงานผลทันที-ตลอดเวลา) ฉบับเพื่อไทย (รายงานผลทันที-ตลอดเวลา) และฉบับก้าวไกล (รายงานผลทันที-ตลอดเวลา)
- แผนที่ข้อมูลสารสนเทศในระดับจังหวัด-อำเภอ ในฉบับพลังประชารัฐ (มีเพิ่มในระดับประเทศ) ฉบับภูมิใจไทย ฉบับเพื่อไทย และฉบับก้าวไกล (เข้าถึงได้สะดวก-ตลอดเวลา)
ประกาศเขตเฝ้าระวัง / เขตมลพิษ มีอยู่ใน 5 ฉบับ ได้แก่
- ฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ โดยคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด ประกาศเขตเฝ้าระวัง และกรมควบคุมมลพิษเสนอต่อคณะกรรมการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด เพื่อพิจารณาประกาศเขตประสบมลพิษทางอากาศ
- ฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย โดยคณะกรรมการมลพิษทางอากาศ ประกาศเขตมลพิษทางอากาศ
- ฉบับก้าวไกล โดยคณะกรรมการประจำจังหวัด ประกาศพื้นที่ฝุ่นพิษอันตราย
การแก้ปัญหามลพิษข้ามแดน ถูกพูดถึงใน 5 ฉบับ ซึ่งมีความแตกต่างกันในรายละเอียดของผู้ประสานงาน โทษ มาตรการอื่น ๆ ดังนี้
- ฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (และกระทรวงการต่างประเทศ เฉพาะในฉบับพลังประชารัฐ) ประสานความร่วมมือ
- มีการจัดทำรายงานการปฏิบัติงาน
- โทษปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 1,000,000 บาท (ปรับรวมไม่เกิน 50,000,000 บาท เฉพาะในฉบับพลังประชารัฐ)
- กระทรวงพาณิชย์กำหนดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเผาก่อมลพิษข้ามแดน เป็นสินค้าห้ามนำเข้า-ส่งออก
- ฉบับก้าวไกล
- กระทรวงการต่างประเทศ โดยคำแนะนำของคณะกรรมการกลาง ประสานความร่วมมือ
- มีการใช้มาตรการทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในกรณีร้ายแรง และจัดทำรายงานสถานการณ์ ผลกระทบ มาตรการแก้ปัญหาเสนอปีละครั้ง
- โทษปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท ปรับรายวันไม่เกินวันละ 200,000 บาท รวมไม่เกิน 50,000,000 บาท
- สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเผาก่อมลพิษข้ามแดน เป็นสินค้าห้ามนำเข้า-ส่งออก
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด
- ผู้อำนวยการองค์การอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ (อ.อ.ส.ส.) แจ้งหรือประกาศผู้ก่อมลพิษข้ามแดนให้ป้องกันไม่ให้มลพิษแพร่เข้ามาในประเทศ
- โทษปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท ปรับรายวันไม่เกินวันละ 1,000,000 บาท รวมไม่เกิน 50,000,000 บาท
- ฉบับประชาธิปัตย์
- ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งหรือประกาศผู้ก่อมลพิษข้ามแดนให้ป้องกันไม่ให้มลพิษแพร่เข้ามาในประเทศ
- โทษปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท ปรับรายวันไม่เกินวันละ 1,000,000 บาท รวมไม่เกิน 50,000,000 บาท
เจ้าพนักงานอากาศสะอาด มีใน 4 ฉบับ ได้แก่ ฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย มีหน้าที่คล้ายกัน ได้แก่
- ออกคำสั่งให้ผู้ครอบครองแหล่งมลพิษ หรือหน่วยงานรัฐที่เก็บข้อมูลการปล่อยมลพิษ ส่งข้อมูลให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- เรียกตัวบุคคลเพื่อแจ้งข้อเท็จจริง ทำหนังสือชี้แจง หรือส่งเอกสาร
- เข้าไปในอาคารสถานที่ ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือช่วงเวลาทำการของอาคารนั้น ๆ เพื่อตรวจสอบ ควบคุม ยุติการก่อมลพิษทางอากาศ
- อำนาจสั่งให้หยุดก่อมลพิษอากาศทันที (มีเฉพาะในฉบับเพื่อไทย)
เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์
เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ คือมาตรการที่สร้าง เพิ่ม หรือลดแรงจูงใจ หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาสหรือส่งเสริมการมีอากาศสะอาด เช่น ภาษีอากรสำหรับอากาศสะอาด การกำหนดและโอนสิทธิในการระบายมลพิษทางอากาศ เป็นต้น
ถึงแม้ทั้ง 7 ฉบับจะมีการพูดถึงมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ แต่มี 4 ฉบับที่มีการระบุมาตรการอย่างละเอียด ได้แก่ ฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์
และมีมาตรการส่วนใหญ่เหมือนกัน (ยกเว้นฉบับประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้ระบุมาตรการใดไว้โดยเฉพาะ) ได้แก่
- ภาษีอากรสำหรับอากาศสะอาด
- ค่าธรรมเนียมการจัดการมลพิษ
- การกำหนดและโอนสิทธิในการปล่อยมลพิษ
- การประกันความเสี่ยง
- มาตรการอุดหนุน
- เครื่องมืออื่น ๆ ที่คกก.นโยบายกำหนด
- เงินบำรุงกองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ (มีเฉพาะในฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด)
- ระบบฝากไว้ได้คืน (การเรียกเก็บเงินเพิ่ม และการได้รับคืนเงินเมื่อนำสินค้ามาคืนหรือกำจัดตามเงื่อนไข) (มีเฉพาะในฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด)
นอกจากนี้คณะกรรมการที่เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใช้ก็แตกต่างกันตามแต่ฉบับ
- ฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ เป็นคณะกรรมการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ เป็นคณะกรรมการกำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ (เป็นคณะกรรมการประเภทเดียวกันแต่ชื่อต่างกัน)
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด เป็นคณะกรรมการบริหารเครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ออากาศสะอาด ที่แต่งตั้งขึ้นมาเพิ่มในกฎหมายฉบับนี้
กองทุน
กองทุนเป็นอีกประเด็นำสำคัญในร่างกฎหมายอากาศสะอาด แต่มีเพียงร่างกฎหมาย 4 ฉบับเท่านั้นที่มีการพูดถึงกองทุน ได้แก่ ฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ ฉบับก้าวไกล และฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด
อย่างไรก็ตาม ร่างของฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ และฉบับก้าวไกล ระบุไว้ว่าเป็นกองทุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการกำหนดคณะกรรมการกองทุน วัตถุประสงค์ และที่มาของรายได้กองทุนไว้อยู่แล้ว ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 อยู่แล้ว และมีระบุเพิ่มในกฎหมายนี้ เช่น
- ค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ที่ได้ตามกฎหมายฉบับนี้จะเข้ากองทุนสิ่งแวดล้อม
- เพิ่มวัตถุประสงค์ในการอุดหนุนแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษทางอากาศ (เฉพาะในฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ)
- เพิ่มวัตถุประสงค์ในการเยียวยาผลกระทบ สนับสนุนการศึกษาวิจัย สร้างความเข้มแข็ง และดำเนินคดี (เฉพาะในฉบับก้าวไกล)
ในขณะที่ ร่างของฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด มีการจัดตั้งกองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแยกขึ้นมาใหม่ ดูแลโดยคณะกรรมการกองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ และบริหารจัดการโดยองค์การอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ (อ.อ.ส.ส.) มีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเพื่อการช่วยเหลือ ฟื้นฟู จัดการปัญหาเกี่ยวกับหมอกควันพิษและสุขภาพแบบบูรณาการ ตลอดจนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ. นี้ เช่น ชดเชย-เยียวยาความเสียหาย สนับสนุนการศึกษาวิจัย สร้างความเข้มแข็งให้กับภาคประชาสังคม ดำเนินคดีแและกระบวนการพิจารณา สร้างความร่วมมือกับต่างประเทศ ฯลฯ
บทลงโทษ
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามที่ต้องการ ร่างกฎหมายอากาศสะอาดแต่ละฉบับได้กำหนดบางลงโทษในแต่ละความผิดแตกต่างกันไปในแต่ละฉบับ โดยอาจจับกลุ่มตามความคล้ายคลึงได้ดังนี้
ก่อมลพิษทางอากาศทั้งในและนอกประเทศ มีใน 5 ฉบับ (ยกเว้นฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย) ซึ่งมีการกำหนดโทษแตกต่างกันดังนี้
- ฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- ก่อมลพิษทางอากาศในประเทศ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท
- ก่อมลพิษทางอากาศนอกประเทศ แล้วแพร่เข้ามาในประเทศ โทษปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 1,000,000 บาท (ปรับรวมไม่เกิน 50,000,000 บาท เฉพาะในฉบับพลังประชารัฐ)
- หากก่อมลพิษทางอากาศต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
- ฉบับก้าวไกล
- ก่อมลพิษทางอากาศทั้งในประเทศและนอกประเทศ แล้วแพร่เข้ามาในประเทศ โทษปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท ปรับรายวันไม่เกินวันละ 200,000 บาท รวมไม่เกิน 50,000,000 บาท
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์
- ก่อมลพิษทางอากาศในประเทศ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ก่อมลพิษทางอากาศนอกประเทศ แล้วแพร่เข้ามาในประเทศ โทษปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท ปรับรายวันไม่เกินวันละ 1,000,000 บาท รวมไม่เกิน 50,000,000 บาท
ฝ่าฝืนคำสั่ง มีทั้งใน 7 ฉบับ แต่กำหนดการฝ่าฝืนไว้แตกต่างกัน ดังนี้
- ฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ ระบุความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และเจ้าพนักงานอากาศสะอาด โดย
- ฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด-กรุงเทพฯ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000-200,000 บาท
- ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานอากาศสะอาด ปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 – 50,000 บาท
- ฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย ระบุความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าพนักงานอากาศสะอาด โดย
- ฉบับภูมิใจไทย จำคุกไม่เกิน 3-6 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ฉบับเพื่อไทย ปรับไม่เกิน 100,000-500,000 บาท ปรับในอัตราก้าวหน้าครั้งละร้อยละ 200 กรณีผิดซ้ำใน 1 ปี
- ฉบับก้าวไกล ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ ระบุความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งนายกฯ เพื่อป้องกันความเสียหายคุณภาพอากาศ โดย
- ฉบับก้าวไกล ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่จ่ายค่าธรรมเนียม หรือเงินบำรุงกองทุน ใน 3 ฉบับ ได้แก่
- ฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด ไม่ส่งเงินบำรุงกองทุนหรือส่งเงินไม่ครบ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5-20 เท่าของเงินที่ต้องส่ง
ไม่มาชี้แจง ให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสาร ใน 3 ฉบับ ได้แก่
- ฉบับก้าวไกล โดยไม่มีเหตุอันควร ปรับไม่เกิน 500,000 บาท
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท
เจ้าหน้าที่ที่ไม่ดำเนินการ ละเว้น หรือฝ่าฝืน ใน 3 ฉบับ ได้แก่
- ฉบับก้าวไกลจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์ ให้ถือว่าจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามกฎหมาย
โทษฐานอื่น ๆ
- แพร่ข่าวไม่จริง เจตนาทำลายชื่อเสียง ต่อกิจการชอบด้วยกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- ฝ่าฝืนกฎหมายอื่น ๆ (เช่น ปล่อยอากาศเสีย เผาในที่โล่งโดยไม่ได้รับอนุญาต) มีการปรับเป็นพินัย ตั้งแต่ 50,000 – 100,000 บาท ในฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ
- ไม่ทำรายงานแสดงแหล่งที่มาการผลิต จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในฉบับก้าวไกล
- ประกาศรายชื่อผู้ก่อฝุ่นพิษ ในฉบับก้าวไกล
อ้างอิง
- ร่างฉบับรัฐบาล
- ร่างฉบับพลังประชารัฐ
- ร่างฉบับเพื่อไทย
- ร่างฉบับภูมิใจไทย
- ร่างฉบับก้าวไกล
- ร่างฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด
- ร่างฉบับประชาธิปัตย์
- ตารางเปรียบเทียบกฎหมายอากาศสะอาดทั้ง 7 ฉบับ โดยสำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร