คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบต่อร่างความตกลงการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Centre for Climate Change : ACCC) และการร่วมลงนามในความตกลงฯ โดยหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
สาระสำคัญของร่างความร่วมมือนี้ เป็นการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ณ เนการาบรูไนดารุสซาลาม (บรูไน) เพื่อเป็นหน่วยงานสนับสนุนการประสานงานและความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศสมาชิกอาเซียน และมีการจัดตั้งกองทุนศูนย์อาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ACCC fund) โดย เนการาบรูไนดารุสซาลามจะสนับสนุนเงินเข้ากองทุนดังกล่าวจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นอาจสนับสนุนเงินให้แก่กองทุนได้ตามความสมัครใจ
ทั้งนี้ ครม.ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทนลงนามในร่างความตกลงฯ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม เพื่อให้มีการลงนามในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44 – 45 (44th – 45th ASEAN Summit) ในระหว่างวันที่ 9 – 11 ต.ค. 2567 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
สำหรับ ศูนย์อาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศสมาชิกอาเซียนและเชื่อมโยงกับการดำเนินงานในกรอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการยกระดับความร่วมมือของประเทศสมาชิกในการดำเนินงานตามพันธกรณีภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change : UNFCCC)
นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้และงานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอาเซียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของสมาชิกอาเซียน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
- เทียบเคียงมหาอุทกภัยปี 54 มีโอกาสซ้ำรอยแค่ไหน?
- ไทยเสี่ยงเผชิญ “ภัยแล้งสลับน้ำท่วม”รุนแรง ฉุดเศรษฐกิจประเทศ
- ไทยต้องลดใช้ก๊าซ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน