ThaiPBS Logo

รัฐบาลเร่งล้างภาพคอร์รัปชัน ดันความซื่อสัตย์เป็นวัฒนธรรมของประเทศ

9 ธ.ค. 256812:05 น.
รัฐบาลเร่งล้างภาพคอร์รัปชัน  ดันความซื่อสัตย์เป็นวัฒนธรรมของประเทศ
  • คะแนน CPI ของประเทศไทยปี 2567 อยู่อันดับ 107 ของโลก เป็นอันดับห้าในอาเซียน ด้วยคะแนนต่ำที่สุดในรอบหลายปี ที่ 34 คะแนน
  • ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เป็นอุปสรรคต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและบั่นทอนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ
  • นายกฯ อนุทิน ประกาศเจตนารมณ์ ต่อสู้กับการทุจริตอย่างเด็ดขาดไม่ลังเลไม่ประนีประนอมไม่อ่อนผ่อนปรนให้กับผู้ที่เป็นบ่อนทำลายผลประโยชน์ของประเทศ
  • ป.ป.ช. ตั้งเป้า ปี 2570 จะต้องทำค่า CPI   ให้ได้ 57 คะแนน  เน้นแก้ปัญหา “สินบน” และ “การขัดกันแห่งผลประโยชน์”
ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเป็นอีกปัญหาสำคัญที่หลายรัฐบาลพยายามแก้ไข แต่สถานการณ์กลับยังไม่ดีขึ้น หนำซ้ำยังแย่หนักลงกว่าที่เป็นอยู่ ในช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาล นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล

จากค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ของ ประเทศไทยที่ ได้34 คะแนนอยู่ในอันดับ 107 ของโลก กลายเป็นเป็นอุปสรรคต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและบั่นทอนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ สะท้อนให้เห็นว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจังและเร่งด่วน

ล่าสุด ในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) “HERO OF THE TRUTH ร่วมหยุดคอร์รัปชัน” ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี  อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา  นายกฯ อนุทิน  ประกาศเร่ง แก้ไขปัญหาขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชนและนานาประเทศ

โดยในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) อนุทิน ระบุว่า วันที่ 9 ธันวาคมเป็นวันต่อต้านคอรัปชันเป็นวันที่ทั่วโลกแสดงจุดยืนในการขจัดทุจริตในทุกรูปแบบ เพราะปัญหาทุจริตเป็นปัญหาที่บั่นทอนทำลายเชื่อมั่นการพัฒนาลดทอนคุณภาพชีวิตของประชาชน

“ผู้ใดทุจริตต้องรับผิดเอื้อประโยชน์ต้องถูกตรวจสอบและต้องรับผิด หากค้นพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนให้เกิดการทุจริต ไม่มีละเว้นไม่ว่าตำแหน่งใดฝ่ายใด ส่วนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตรัฐบาลต้องให้การปกป้องคุ้มครองให้การสนับสนุนให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างเต็มที่” นายอนุทินกล่าว

ทั้งนี้ การป้องกันการทุจริตต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายจึงเชื่อมั่นว่าทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  – ฝ่ายความมั่นคงหน่วยงานภาครัฐและภาคสังคมจะต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งเพื่อป้องกันปราบปรามและลดความเสี่ยงการทุจริต

จากค่า CPI  ที่ไทยได้ 34 คะแนน อยู่ในอันดับ 107 ของโลก สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีช่องโหว่ที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ทุกหน่วยงานตั้งเป้าการยกระดับ CPI ด้วยกันทำแผนปฏิบัติการที่ส่งผลให้คะแนน CPI ขยับขึ้นเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยโปร่งใสน่าเชื่อถือและมีอนาคตที่มั่นคงสำหรับลูกหลาน

“ในฐานะนายกรัฐมนตรีขอประกาศเจตจำนงอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลจะยืนหยัดต่อสู้กับการทุจริตเพื่อความเด็ดขาดไม่ลังเลไม่ประนีประนอมไม่อ่อนผ่อนปรนไม่ยกเว้นให้กับผู้ที่เป็นบ่อนทำลายผลประโยชน์ของประเทศชาติและพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรม”

อย่างไรก็ตาม  เพื่อให้เป้าหมายสำเร็จลุล่วง ได้มอบนโยบายสำคัญที่ได้แจ้งต่อ คณะรัฐมนตรีและส่วนข้าราชการประกอบด้วย

  • เสริมสร้างระบบป้องกันการทุจริต
  • กำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในรูปแบบเชิงรุก โครงการใช้งบประมาณมากต้องผ่านประเมินความเสี่ยงสร้างระบบตรวจสอบภายในที่เข้มข้น
  • นำเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานการบริการภาครัฐต้องลดขั้นตอน การบริการประชาชน
  • เพิ่ม อี-เซอร์วิส และ วันสต็อปเซอร์วิส ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ลดช่องว่างการทุจริต
  • ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดช่องการแทรกแซง ให้การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายตรวจสอบได้
  • บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดโปร่งใสเสมอภาค

รัฐบาลไม่เพียงแก้ไขแต่จะมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสของประเทศให้สูงขึ้นเป็นรูป ต้องมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อทำให้อันดับ CPI ดีขึ้นแต่เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถสร้างระบบรัฐที่โปร่งใสตรวจสอบได้และยืนอยู่บนหลักธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาก้าวหน้าทุกด้านทั้งการเมืองเศรษฐกิจสังคมและมีความเข้มแข็งมีเสถียรภาพตามหลักนิติธรรม

 

ด้าน  สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อร่วมกันต่อสู้กับการทุจริตในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะประเทศไทยต้องรู้ถึงพิษภัยของการทุจริตและพร้อมต่อต้าน เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ

  1. ประกาศเจตนารมณ์ของผู้นำประเทศ ในการป้องกันปราบปรามทุจริต
  2. ให้คนไทยและนานาชาติรับรู้ถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตในประเทศไทย เพื่อผลักดันดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI
  3. ให้สังคมไทยต่อต้านการจริตทุกรูปแบบ สร้างสังคมไทยมีวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต

“ วันนี้ถือเป็นวันแสดงสัญลักษณ์ผู้นำประเทศและทุกภาคส่วน ประชาชนชาวไทยจะร่วมกันประกาศเจตนารมย์ในการต่อต้านการทุจริตให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาของชาวโลก “HERO OF THE TRUTH หยุดทุจริตคอร์รัปชัน” นายสุชาติกล่าว

ทั้งนี้ ภายในงาน  นายกฯ อนุทิน ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย และทุ่มเทการแก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศไทย วันนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการร่วมกันประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริต ว่าเราจะไม่ทำไม่ทนและไม่เฉยต่อการทุจริตอีกต่อไป

ในขณะที่ สำนักงาน ป.ป.ช.  ตั้งเป้ายกระดับความโปร่งใสของประเทศค่า CPI ได้ 57 คะแนนในปี 2570 เน้นแก้ปัญหา “สินบน” และ “การขัดกันแห่งผลประโยชน์” ผ่านการปลูกฝังความซื่อสัตย์ให้ประชาชน เด็ก ให้เจ้าหน้าที่รับ ผ่านหลักสูตรและกิจกรรมด้วยระบบเทคโนโลยี ลดดุลพินิจเปิดข้อมูลภาครัฐ และการปราบปรามคดีทุจริตอย่างมีมาตรฐานรวดเร็วโปร่งใสเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีมาตรการด้านกฎหมายในการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการทุจริต พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ Corruption Deterrence Center เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดการทุจริตและเฝ้าระวังการทุจริตโครงการขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมเปิดช่องทางร้องเรียนให้เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย

 

 

เนื้อหาที่เกียวข้อง

 

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

ทุจริตคอร์รัปชัน

การปฏิรูประบบราชการและการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นนโยบายของทุกรัฐบาล แต่ยังไม่มีรัฐบาลไหนสามารถแก้ปัญหาได้ โดยประเด็นดังกล่าวในความรู้สึกของประชาชนจากการสำรวจของสำนักวิจัยต่าง ๆ พบว่าประชาชนมีความเห็นว่าสถานการณ์รุนแรงขึ้น

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5

ผู้เขียน: