จากค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ของ ประเทศไทยที่ ได้34 คะแนนอยู่ในอันดับ 107 ของโลก กลายเป็นเป็นอุปสรรคต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและบั่นทอนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ สะท้อนให้เห็นว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจังและเร่งด่วน
ล่าสุด ในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) “HERO OF THE TRUTH ร่วมหยุดคอร์รัปชัน” ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา นายกฯ อนุทิน ประกาศเร่ง แก้ไขปัญหาขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชนและนานาประเทศ
โดยในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) อนุทิน ระบุว่า วันที่ 9 ธันวาคมเป็นวันต่อต้านคอรัปชันเป็นวันที่ทั่วโลกแสดงจุดยืนในการขจัดทุจริตในทุกรูปแบบ เพราะปัญหาทุจริตเป็นปัญหาที่บั่นทอนทำลายเชื่อมั่นการพัฒนาลดทอนคุณภาพชีวิตของประชาชน
“ผู้ใดทุจริตต้องรับผิดเอื้อประโยชน์ต้องถูกตรวจสอบและต้องรับผิด หากค้นพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนให้เกิดการทุจริต ไม่มีละเว้นไม่ว่าตำแหน่งใดฝ่ายใด ส่วนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตรัฐบาลต้องให้การปกป้องคุ้มครองให้การสนับสนุนให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างเต็มที่” นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ การป้องกันการทุจริตต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายจึงเชื่อมั่นว่าทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) – ฝ่ายความมั่นคงหน่วยงานภาครัฐและภาคสังคมจะต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งเพื่อป้องกันปราบปรามและลดความเสี่ยงการทุจริต
จากค่า CPI ที่ไทยได้ 34 คะแนน อยู่ในอันดับ 107 ของโลก สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีช่องโหว่ที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ทุกหน่วยงานตั้งเป้าการยกระดับ CPI ด้วยกันทำแผนปฏิบัติการที่ส่งผลให้คะแนน CPI ขยับขึ้นเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยโปร่งใสน่าเชื่อถือและมีอนาคตที่มั่นคงสำหรับลูกหลาน
“ในฐานะนายกรัฐมนตรีขอประกาศเจตจำนงอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลจะยืนหยัดต่อสู้กับการทุจริตเพื่อความเด็ดขาดไม่ลังเลไม่ประนีประนอมไม่อ่อนผ่อนปรนไม่ยกเว้นให้กับผู้ที่เป็นบ่อนทำลายผลประโยชน์ของประเทศชาติและพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรม”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป้าหมายสำเร็จลุล่วง ได้มอบนโยบายสำคัญที่ได้แจ้งต่อ คณะรัฐมนตรีและส่วนข้าราชการประกอบด้วย
- เสริมสร้างระบบป้องกันการทุจริต
- กำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในรูปแบบเชิงรุก โครงการใช้งบประมาณมากต้องผ่านประเมินความเสี่ยงสร้างระบบตรวจสอบภายในที่เข้มข้น
- นำเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานการบริการภาครัฐต้องลดขั้นตอน การบริการประชาชน
- เพิ่ม อี-เซอร์วิส และ วันสต็อปเซอร์วิส ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ลดช่องว่างการทุจริต
- ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดช่องการแทรกแซง ให้การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายตรวจสอบได้
- บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดโปร่งใสเสมอภาค
รัฐบาลไม่เพียงแก้ไขแต่จะมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสของประเทศให้สูงขึ้นเป็นรูป ต้องมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อทำให้อันดับ CPI ดีขึ้นแต่เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถสร้างระบบรัฐที่โปร่งใสตรวจสอบได้และยืนอยู่บนหลักธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาก้าวหน้าทุกด้านทั้งการเมืองเศรษฐกิจสังคมและมีความเข้มแข็งมีเสถียรภาพตามหลักนิติธรรม
ด้าน สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อร่วมกันต่อสู้กับการทุจริตในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะประเทศไทยต้องรู้ถึงพิษภัยของการทุจริตและพร้อมต่อต้าน เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ
- ประกาศเจตนารมณ์ของผู้นำประเทศ ในการป้องกันปราบปรามทุจริต
- ให้คนไทยและนานาชาติรับรู้ถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตในประเทศไทย เพื่อผลักดันดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI
- ให้สังคมไทยต่อต้านการจริตทุกรูปแบบ สร้างสังคมไทยมีวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต
“ วันนี้ถือเป็นวันแสดงสัญลักษณ์ผู้นำประเทศและทุกภาคส่วน ประชาชนชาวไทยจะร่วมกันประกาศเจตนารมย์ในการต่อต้านการทุจริตให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาของชาวโลก “HERO OF THE TRUTH หยุดทุจริตคอร์รัปชัน” นายสุชาติกล่าว
ทั้งนี้ ภายในงาน นายกฯ อนุทิน ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย และทุ่มเทการแก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศไทย วันนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการร่วมกันประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริต ว่าเราจะไม่ทำไม่ทนและไม่เฉยต่อการทุจริตอีกต่อไป
ในขณะที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งเป้ายกระดับความโปร่งใสของประเทศค่า CPI ได้ 57 คะแนนในปี 2570 เน้นแก้ปัญหา “สินบน” และ “การขัดกันแห่งผลประโยชน์” ผ่านการปลูกฝังความซื่อสัตย์ให้ประชาชน เด็ก ให้เจ้าหน้าที่รับ ผ่านหลักสูตรและกิจกรรมด้วยระบบเทคโนโลยี ลดดุลพินิจเปิดข้อมูลภาครัฐ และการปราบปรามคดีทุจริตอย่างมีมาตรฐานรวดเร็วโปร่งใสเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีมาตรการด้านกฎหมายในการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการทุจริต พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ Corruption Deterrence Center เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดการทุจริตและเฝ้าระวังการทุจริตโครงการขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมเปิดช่องทางร้องเรียนให้เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย
เนื้อหาที่เกียวข้อง
- ทำไม ระดับนิติธรรมไทย ต่ำกว่ามาตรฐานโลก
- ปลดล็อกข้อมูลราชการ สร้างความโปร่งใส
- 25 ชุดข้อมูลสำคัญ ขจัดคอร์รัปชันภาครัฐ


