สถานการณ์ล่าสุด
29 ก.ย.68 นโยบายรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกุล ประกาศ แก้ไขขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชนและนานาประเทศ
รักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด โดยให้ถือว่าการกระทำของเจ้าพนักงานของรัฐในกรณีเหล่านี้เป็นการกระทำความผิดทางวินัยร้ายแรง และต้องดำเนินการทางอาญาอย่างเด็ดขาด
ละเว้นการบังคับใช้กฎหมายในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บ่อนการพนันและการพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยไซเบอร์ การสร้างข่าวปลอมและการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ
พิทักษ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น โดยดำเนินมาตรการป้องกันและขจัดการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น โดยในส่วนของพระพุทธศาสนารัฐบาลจะดำเนินการโดยพระสังฆราชานุมัติด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม
6 มิ.ย. 68 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกลไกและมาตรการคุ้มครองช่วยเหลือประชาชนที่เปิดโปงแจ้งเบาะแสการทุจริต เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคประชาชนที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อต้านหรือชี้ช่องแจ้งเบาะแสการทุจริตมากยิ่งขึ้น
22 พ.ค. 68 ตุลาการศาลปกครองสูงสุดพิพากษาในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค.2559 ที่ให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่สั่งให้ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่สั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดเฉพาะในส่วนของการระบายข้าว (จีทูจี) 50% ของมูลค่า 20,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หน่วยงานที่มีบทบาทโดยตรงคือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะที่องค์กรหลักในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พยายามดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจที่ส่งผลกระทบต่อการยกระดับคะแนน ดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) โดยตรง เช่น การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อสนับสนุนงานด้านการปราบปรามการทุจริตและตรวจสอบทรัพย์สิน การพัฒนาระบบติดตามเรื่องร้องเรียนบนเว็บไซต์ของสำนักงาน ป.ป.ช.
รวมถึง การพัฒนาระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานปราบปรามการทุจริตและการตรวจสอบทรัพย์สิน เช่น ระบบฐานข้อมูลคดีทุจริต (AGMS : Agency Case Monitoring System)
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ผ่านชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต การจัดทำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และการเสนอมาตรการ ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต และประสานการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการดำเนินงานในการส่งเสริมการยกระดับคะแนน CPI ของประเทศไทยให้เป็นไปตามเป้าหมาย
แต่จากอันดับล่าสุดที่ประกาศเมื่อต้นปี 2566 แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของไทยยังไม่ดีขึ้น