World Economic Forum เผยรายงาน Global Gender Gap Report ของปี 2568 โดยตัวชี้วัด Global Gender Gap Index จากการประเมิน 4 มิติหลักด้วยกันคือ
- Education การศึกษา
- Health attainment สุขภาพและการอยู่รอด
- Economic participation and opportunity โอกาสและการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ
- Political Empowerment อำนาจทางการเมือง
คะแนนของตัวชี้วัดมีการวัดบน Scale ระหว่าง 0-1 โดยหนึ่งหมายถึงคะแนนที่สูงที่สุด ซึ่งผลศึกษาของปีนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศที่อยู่อันดับ Top 10 ส่วนใหญ่ยังคงเป็นประเทศในเขตทวีปยุโรป เช่น ไอซ์แลนด์ ฟินแลนด์ นอร์เวย์ หรือสวีเดน เป็นต้น
หากมีเปรียบเทียบในระดับภาพใหญ่ กลุ่มประเทศรายได้สูง (High-income country) มีความสามารถในการลดช่องว่างของความเหลี่ยมล้ำทางเพศได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศรายได้ต่ำ (Low-income country) โดยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กัมพูชามีอันดับของ Female labor-force participation rate หรือการมีส่วนร่วมของตลาดแรงงานในผู้หญิงสูงที่สุดในเขตทวีปที่ 40%
สำหรับประเทศไทย จะเห็นว่ามีความก้าวหน้าโดยเฉพาะการศึกษาและสุขภาพของสตรีที่มีคะแนนโดดเด่น ในด้านของการศึกษาไทยสามารถคำแนนได้เต็ม 1.000 หรือเทียบได้เป็นอันดับหนึ่งของโลก และสุขภาพของผู้หญิงและการอยู่รอดก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน
ความเท่าเทียมทางเพศ ไทยทำดีด้านไหน?
หากเจาะลึกลงไปในแต่ละมิติ เราจะภาพที่ชัดเจนมากขึ้นในแต่ละด้าน
สำหรับการประเมินในเรื่องการศึกษา มีการรวบรวมสี่ปัจจัยเข้าด้วยกัน คือ การอ่านออกเขียนได้ การเข้าเรียนในระดับช่วงชั้นที่หนึ่ง การเข้าเรียนในระดับช่วงชั้นที่สองหรือมัธยม และการเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา
รายงานฉบับนี้ชี้ว่า ประเทศไทยทำดีในเรื่องของการให้เด็กทั้งเพศหญิงและเพศชายมีการเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียมทั้งในระดับชั้นมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา ซึ่งยังพบว่าเพศหญิง (53.12%) มีการเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษามากกว่าเพศชาย (39.43%) ด้วยซ้ำ
ในเรื่องของสุขภาพ ทั้งเพศหญิงและเพศชายมีค่าเฉลี่ยของอายุขัยที่คาดว่าบุคคลจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีสุขภาพดีได้ในระดับที่เท่า ๆ กัน
การศึกษาดี แต่… ขาดไม้ต่อ
การสนับสนุนเพศหญิงและเพศชายให้มีบทบาทที่เท่าเทียมกันยังบกพร่อง และไม่สามารถส่งต่อความเท่าเทียมทางเพศในเรื่องของการศึกษาไปสู่ตลาดแรงงานได้
ถึงแม้จะมีตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าเพศหญิงเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษามากกว่าเพศชาย แต่สิ่งนี้ไม่สะท้อนต่อความเป็นจริงในภาคเศรษฐกิจของไทย เพราะว่าเพศหญิงมีอัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานที่น้อยกว่าเพศชายที่ 60.61% และ 76.61% ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีช่องว่างระหว่างเพศหญิงและเพศชายอยู่มากในเรื่องของบุคลากรที่ทำงานตำแหน่งระดับสูง เช่น ผู้จัดการหรือผู้บริหาร มีจำนวนเพศหญิงที่อยู่ตำแหน่งสูงอยู่ที่ 40.64% ในขณะที่เพศชายมีสัดส่วนมากกว่าที่ 59.36%
สถานการณ์เช่นนี้กำลังเกิดขึ้นอยู่ในหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงระบบที่ไม่มีประสิทธิภาพและไม่สามารถส่งเสริมการเติบโตได้อย่างเท่าเทียม และสื่อไปถึง Return on education investment ที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะมีความไม่เชื่อมโยงระหว่างการได้รับการศึกษาและการมีส่วนรวมในภาคเศรษฐกิจ
ผู้ชายครองตำแหน่งทางการเมือง!
คะแนนด้านที่ต่ำสุดสำหรับประเทศไทย คือด้านอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ แต่เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอย่างยิ่งหากดูจากตัวเลข
- จำนวนผู้หญิงในสภา (19.60% ต่อ 80.40%)
- จำนวนผู้หญิงที่อยู่ในตำแหน่งเกี่ยวกับรัฐมนตรี (15.79% ต่อ 84.21%)
- จำนวนปีที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำประเทศ (2.76% ต่อ 47.24%)
คะแนนของอำนาจทางการเมืองคำนวณมาจาก 3 ปัจจัยด้านบน และตัวเลขเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดนี้กำลังตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำสูงในการบริหารบ้านเมือง เหตุการณ์ลักษณะนี้ที่อำนาจทางการเมืองที่ไม่มีความเท่าเทียมระหว่างเพศ และที่ผู้หญิงเป็นส่วนน้อยในการดำรงตำแหน่งผู้แทนของประชาชนกำลังเกิดขึ้นอยู่ทั่วโลก
นอกเหนือจากนี้ ผู้หญิงที่ทำงานอยู่ในกระทรวงมักจะได้รับการแต่งตั้งให้ทำงานเกี่ยวกับด้านเพศ สุขภาพ หรือสังคม มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลในเรื่องของกระทรวงที่มีอิทธิพลต่อยุธศาสตร์ระดับชาติ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ความมั่นคง หรือโครงสร้างสาธารณูปโภค
ความไม่สมดุลในจุดนี้ส่งผลต่อการเอนเอียงในการให้ความสำคัญต่างๆ ต่อการขับเคลื่อนนโยบายของชาติ และความไม่สมดุลในตำแหน่งมักจะทำให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่ได้คำนึงถึงประชากรอย่างแท้จริง
ฉะนั้นแล้วถึงภาพรวมประเทศไทยจะดูดีในบางเรื่อง แต่ยังต้องมีขับเคลื่อนส่วนอื่นๆ อย่างจริงจัง เช่นการเพิ่มสัดส่วนผู้หญิงในบทบาทระดับผู้บริหาร ผู้นำองค์กร พัฒนาและสนับสนุนสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อศักยภาพของผู้หญิง หรือปิดช่องว่างทางเพศเพื่อสร้างนวัตกรรม การเติบโต และความสามัคคีให้สังคมไทยอย่างยั่งยืน
ที่มา: Global Gender Gap Report 2025
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง: