ThaiPBS Logo

ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

มีเป้าหมายเพื่อให้จำนวนเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา ‘เป็นศูนย์’ โดยเฉพาะในการศึกษาภาคบังคับ (ป.1 - ม.3) เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เด็กมีโอกาสพัฒนาชีวิต ออกจากความยากจน ประเทศจะได้แรงงานคุณภาพ เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ และจัดเก็บรายได้มากขึ้น โดยกุญแจสำคัญเพื่อให้ทำนโยบายเป็นจริงได้คือ ‘ระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น'

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ขั้นตอนเริ่มต้นนโยบาย ประกาศนโยบายต่อสาธารณะ

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

มติ ครม. ประกาศให้แต่ละจังหวัดสามารถตั้งทีมตามหาเด็กตกหล่นให้กลับมาเรียน และในเดือน ก.ค. 2567 จะเริ่มปูพรมค้นหาเด็ก นำร่องใน 25 จังหวัดและพื้นที่ กทม.

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

ภาพรวม

อ่านเพิ่มเติม

ความเคลื่อนไหวล่าสุด

  • 18 มี.ค. 68 คณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,838.64 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา ด้วยการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนหรือนักศึกษา ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

จากการเชื่อมฐานข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทย ทำให้รู้ว่าปัจจุบันมีเด็กอยู่นอกระบบการศึกษาทั้งสิ้น 1.02 ล้านคน โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา ได้แก่ ความยากจน ปัญหาครอบครัว การต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว และการขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา

การศึกษาเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและพัฒนาอนาคตของประเทศ การที่เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาขาดโอกาสในการพัฒนาตนเอง แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ นโยบาย Zero Dropout จึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้และส่งเสริมการศึกษาให้แก่เด็กทุกคน โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้

1. การค้นหาและติดตามเด็กนอกระบบการศึกษา:

  • ใช้ข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และอื่น ๆ  เพื่อค้นหาและติดตามเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา
  • จัดทำฐานข้อมูลที่เป็นระบบและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้สามารถติดตามเด็กที่อยู่ในความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอัปเดตทุก ๆ ภาคเรียน
  • ประกาศมติคณะรัฐมนตรีเพื่อกระจายอำนาจให้แต่ละจังหวัดสามารถจัดตั้งทีมติดตามเด็กกลับมาเรียน เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างคล่องตัว

2. การสร้างการศึกษาที่ยืดหยุ่น หนุนให้เด็กเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา มีวุฒิฯ รองรับ:

  • จัดทำโครงการทุนการศึกษาและความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับเด็กที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ที่มีความยากจน
  • จัดหาอุปกรณ์การศึกษา ชุดนักเรียน และอาหารกลางวันฟรีสำหรับเด็กที่มีความจำเป็น
  • พัฒนาหลักสูตรที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการของเด็กในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ตามความสามารถและความสนใจของตนเอง
  • ส่งเสริมการเรียนรู้แบบออนไลน์ และการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา เน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้กำหนดรูปแบบการเรียนรู้เอง
  • ให้คำปรึกษาและสนับสนุนทางด้านจิตวิทยาสำหรับเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัวหรือปัญหาทางอารมณ์
  • เชื่อมต่อสถานศึกษากับสถานประกอบการเพื่อประกันการได้มีงานทำ สร้างรายได้ขณะเรียนรู้ ตอบโจทย์หลายครอบครัวยากจน

3. การประสานงานระหว่างหน่วยงานและองค์กรต่างๆ:

  • จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อกำกับดูแลและประสานงานการดำเนินนโยบาย Zero Dropout
  • ทำงานร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มทรัพยากรในการดำเนินนโยบาย และให้สังคมเห็นเป้าหมายร่วมกัน

 

เป้าหมายความสำเร็จ

1. ลดจำนวนเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา:

  • ปีงบประมาณ 2567 เริ่มนำร่องปูพรมค้นหาเด็กในพื้นที่ 25 จังหวัด และพาเด็กกลับเข้าสู่ระบบได้ 20,000 คน
  • ปีงบประมาณ 2568 ขยายมาตรการให้คลอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัด พาเด็กกลับเข้าสู่ระบบได้ 100,000 คน
  • ปีงบประมาณ 2569 พาเด็กกลับเข้าสู่ระบบได้ 500,000 คน
  • ปีงบประมาณ 2570 พาเด็กกลับเข้าสู่ระบบได้ 1,000,000 คน ซึ่งจะทำให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

2. พัฒนาคุณภาพการศึกษาและความสามารถของเด็ก:

  • เพิ่มอัตราการจบการศึกษาขั้นพื้นฐานและลดอัตราการเลื่อนชั้นที่ล่าช้า
  • ส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิตของเด็ก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตในอนาคต

3. สร้างเครือข่ายการสนับสนุนและการมีส่วนร่วมของชุมชน:

  • ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน โรงเรียน และครอบครัวในการสนับสนุนการศึกษา
  • สร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการศึกษา นำไปสู่การออกแบบระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

ลำดับเหตุการณ์

  • ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสัมภาษณ์ ODOS รอบคัดเลือก เพื่อรายงานตัวและทำสัญญา

    1 ส.ค. 2568

  • ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก ODOS ครั้งที่ 3 ต้องเข้าร่วมการจับสลากเลือกหลักสูตร/ประเทศ และสอบสัมภาษณ์

    26 ก.ค. 2568

  • ODOS ประกาศผลคัดเลือกครั้งที่ 3 สำหรับผู้ที่ต้องจับสลากเลือกหลักสูตร/ประเทศ และสอบสัมภาษณ์  ดูเพิ่มเติม ›

    18 ก.ค. 2568

  • ODOS ประกาศผลการคัดเลือกครั้งที่ 1 สำหรับเข้ารับการทดสอบภาษาอังกฤษและทักษะดิจิทัลพื้นฐาน  ดูเพิ่มเติม ›

    27 มิ.ย. 2568

  • โครงการ ODOS เปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 16 มิ.ย.  ดูเพิ่มเติม ›

    24 มี.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายฉุกเฉิน หรือจำเป็น 2,838.64 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาด้วยการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาแก่นักเรียน

    18 มี.ค. 2568

  • ครม.เห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 7,987 ล้านบาท   ดูเพิ่มเติม ›

    28 ม.ค. 2568

  • พาเด็กกลับเข้าระบบการศึกษาแล้ว 139,690 คน คิดเป็น 13.6% ของจำนวนเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษากว่า 1.02 ล้านคน  ดูเพิ่มเติม ›

    13 พ.ย. 2567

  • พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ประชุมติดตามโครงการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ พบเด็กหลุดจากระบบ 394,039 คน

    6 พ.ย. 2567

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ออกหนังสือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 373/2567 แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) ระดับชาติ

    22 ต.ค. 2567

  • ศึกษาธิการ 25 จังหวัดประชุมแผน Zero Dropout ตั้งเป้าเด็กนอกระบบการศึกษาเป็นศูนย์ในปี 2570  ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ค. 2567

  • ศธ. ลงนามข้อตกลงกับ 11 หน่วยงานภายใต้โครงการ Thailand Zero Dropout เพื่อเริ่มค้นหาและนำเด็กกลับเข้าสู่ระบบ  ดูเพิ่มเติม ›

    28 มิ.ย. 2567

  • ครม. รับทราบมาตรการแก้ปัญหาเด็กนอกระบบการศึกษา และให้แต่ละจังหวัดเริ่มตั้งทีมค้นหาเด็ก  ดูเพิ่มเติม ›

    28 พ.ค. 2567

  • กสศ. ประกาศเป้าหมาย Thailand Zero Dropout และพบข้อมูลเด็กนอกระบบการศึกษาจำนวน 1.02 ล้านคน  ดูเพิ่มเติม ›

    20 พ.ค. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แถลงในวันเด็กแห่งชาติว่ารัฐบาลตั้งเป้าหมาย Zero Dropout ให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษา  ดูเพิ่มเติม ›

    13 ม.ค. 2567

  • กสศ. เปิดตัวโครงการ Zero Dropout จ. ราชบุรี โดยร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเป็นโมเดลนำร่อง  ดูเพิ่มเติม ›

    15 ก.ย. 2566

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มอบนโยบายให้ กสศ. ทำงานร่วมกับกระทรวงต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา  ดูเพิ่มเติม ›

    6 ก.ย. 2566

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

ลดจำนวนเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา

เชิงกระบวนการ

พัฒนาคุณภาพการศึกษาและความสามารถของเด็ก

เชิงการเมือง

สร้างเครือข่ายการสนับสนุนและการมีส่วนร่วมของชุมชน

บทความ

ดูทั้งหมด
นโยบายแก้จน ต้องไม่ใช่แค่หวังผลสำเร็จทางเศรษฐกิจ

นโยบายแก้จน ต้องไม่ใช่แค่หวังผลสำเร็จทางเศรษฐกิจ

นโยบายที่มุ่งผลลัพธ์รวดเร็ว กำลังสร้าง 'ช่องว่าง' ผลักให้ 'คนจน' ยิ่งจมดิ่ง ในขณะที่ปัญหาความยากจนซับซ้อน เกินกว่าจะแก้ไขได้ด้วยตัวเลขเพียงอย่างเดียวหรือ แก้โดยใครคนใดคนหนึ่ง 'ท้องถิ่น' จึงเป็นอีกกลไกสำคัญ ที่จะช่วยเติมเต็มช่องว่างรัฐและสังคม ให้เกิดการแก้ปัญหาที่สอดคล้องกับ "ชีวิตจริง" ของคนจน

ดัชนีเท่าเทียมทางเพศไทยร่วงที่ 66 ของโลก เหลื่อมล้ำอำนาจการเมือง "สูง"

ดัชนีเท่าเทียมทางเพศไทยร่วงที่ 66 ของโลก เหลื่อมล้ำอำนาจการเมือง "สูง"

เปิดรายงานดัชนีช่องว่างทางเพศโลก ประจำปี 2568 ความเหลื่อมล้ำทางเพศในประเทศกำลังพัฒนายังสูง ไทยติดอันดับ 66 ของโลก แม้ความเท่าเทีมการศึกษาได้อันดับ 1 แต่ตลาดและตำแหน่งแรงงานถูกปิดกั้น ทำให้ลงทุนการศึกษาไม่คุ้มค่า ขณะที่ตำแหน่งทางการเมืองย่ำแย่ ติดอันดับ 105 ผู้หญิงก้าวถึงบทบาทสำคัญน้อยมาก

ครึ่งทศวรรษคนจนเมือง: ไขปริศนาความจน สู่สังคมเท่าเทียม

ครึ่งทศวรรษคนจนเมือง: ไขปริศนาความจน สู่สังคมเท่าเทียม

ครึ่งทศวรรษของสารคดี “คนจนเมือง” ชี้ชัดว่าความจนไม่ใช่เรื่องปัจเจกบุคคล แต่เป็นผลพวงของโครงสร้างและวัฒนธรรมที่ทำให้คนจนต้องอยู่ในกรอบแห่งความเปราะบาง ขณะที่สังคมเคยชินกับการช่วยเหลือแบบเวทนานิยม โดยมองข้ามรากเหง้าของปัญหา

เช็กผล ODOS ทุนเรียนนอกสาขาวิทย์-เทคโนโลยี 928 ทุน

เช็กผล ODOS ทุนเรียนนอกสาขาวิทย์-เทคโนโลยี 928 ทุน

ODOS ประกาศผลนักเรียน 928 คน ผ่านการคัดเลือกรอบจับสลากสุ่มหลักสูตร/สถานศึกษาและสอบสัมภาษณ์ ได้เดินทางไปศึกษาต่อในต่างประเทศ สาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศไทย

เปิดร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฉบับใหม่ ตีกรอบสิทธิพื้นฐาน-เพิ่มบทบาทท้องถิ่น

เปิดร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฉบับใหม่ ตีกรอบสิทธิพื้นฐาน-เพิ่มบทบาทท้องถิ่น

รัฐบาลไฟเขียว ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฉบับใหม่ ใช้แทนฉบับเดิมที่บังคับใช้มายาวนานกว่า 20 ปี กำหนดสิทธิพื้นฐานของเด็กให้ชัดเจนขึ้น และให้หน่วยงานรัฐมีหน้าที่ดูแล พร้อมดึงองค์กรส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทและหน้าที่ดูแล ขณะที่นักกฎหมายชี้ต้องออกกฏหมายและระเบียบโดยยึด "ประโยชน์สูงสุดของเด็ก" เป็นสำคัญ

นโยบายที่ใช้ไม่ได้ ยังวนหลอน แนวคิดดี ๆ ไม่ได้เกิด

นโยบายที่ใช้ไม่ได้ ยังวนหลอน แนวคิดดี ๆ ไม่ได้เกิด

“ผี” เป็นเรื่องเล่าขานนานมานานปี หลายคนกลัวผีเพราะ “เชื่อว่ามี” แต่กลับ “ไม่เคยเห็น” เรามีประสบการณ์ผ่านเรื่องผีๆ หนึ่งใน “ผี” ยอดนิยมคือ “ซอมบี้” ผีดิบที่ฆ่าไม่ตาย และเรื่องผี ๆ มีอยู่ในแทบทุกบริบท ไม่เว้นแม้แต่ ใน “นโยบายสาธารณะ”