ThaiPBS Logo

นโยบายการคลัง (Fiscal Policy)

นโยบายการคลัง เป็นการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นหรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยใช้เครื่องมือที่สำคัญของรัฐบาล คือ การใช้จ่ายของรัฐบาล (รายจ่าย) และการเก็บภาษี (รายได้) รวมถึงการก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาล

อ่านเพิ่มเติม

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ประกาศใช้พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

วางแผน

รัฐบาลทำแผนการคลังระยะปานกลาง กรอบหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% ของจีดีพี

ตัดสินใจ

เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568-2571) ฉบับทบทวน

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

อ่านเพิ่มเติม

ความคืบหน้าล่าสุด 7 ม.ค. 68

7 ม.ค. 68 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณเสนอเพิ่มขึ้น 0.7% จากงบประมาณปี 68 โดยคาดการณ์รายได้รัฐบาลสุทธิ 2.92 ล้านล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 8.6 แสนล้านบาท คิดเป็น 4.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ซึ่งขาดดุลงบประมาณลดลงจากปี 2568

งบประมาณปี 69 อยู่ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจไทยปี 69 ขยายตัวได้ 2.3-3.3% (ค่ากลาง 2.8%) อัตราเงินเฟ้อ 0.7-1.7% (ค่ากลาง 1.2%)

โครงสร้างงบประมาณ ประกอบด้วย

  • รายจ่ายประจำ 2.64 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70% ของวงเงินงบประมาณ
  • รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 1.23 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.3% ของวงเงินงบประมาณ
  • รายจ่ายลงทุน 8.6 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.7% ของวงเงินงบประมาณ
  • รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 1.51 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.0% ของวงเงินงบประมาณ

19 พ.ย. 67 สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2567 ขยายตัว 3.0% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 2.2% ในไตรมาสที่สองของปี 2567 (%YoY) และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2567 ขยายตัวจากไตรมาสที่สอง 1.2% (QoQ_SA) รวม 9 เดือนแรกของปี 2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.3%

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัว 2.6% ปรับตัวดีขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 1.9% ในปี 2566 อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 0.5% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.5% ของ GDP

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.3 -3.3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายภาครัฐ การขยายตัวของอุปสงค์ภาคเอกชนในประเทศและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว

ปัจจุบัน การดำเนินนโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐพ.ศ. 2561 โดยมีการกำหนดรายละเอียดด้านรายจ่าย ตลอดจนเพดานหนี้สาธารณะ ตามคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังของรัฐ คือ

  • หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 60
  • ภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ไม่เกินร้อยละ 35
  • หนี้สาธารณะที่ออกด้วยสกุลเงินต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 10
  • ภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้การส่งออกสินค้าและบริการไม่เกินร้อยละ 5

แต่จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เงินกว่าล้านล้านบาท ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น จนกระทั่งคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังจึงได้มีมติเห็นชอบขยายกรอบเพดานหนี้สาธารณะจากเดิมที่กำหนดว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ต้องไม่เกินร้อยละ 60 เป็นสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ต้องไม่เกินร้อยละ 70 ต่อ GDP เมื่อเดือนก.ย. 2564

การทบทวนกรอบสัดส่วนการบริหารหนี้สาธารณะในครั้งนี้เป็นไปตามความในมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้มีการทบทวนสัดส่วนต่างๆ อย่างน้อยทุกสามปี

การขยายเพดานหนี้สาธารณะ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่อง “กรอบความยั่งยืนทางการคลัง” แต่เรื่องความยั่งยืนทางการคลังสามารถพิจารณาได้หลายมุม โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ยังมีปัจจัยอื่นมาใช้ในการพิจารณาด้วย เช่น แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ มีหน้าที่จัดทำ “แผนการคลังระยะปานกลาง” ซึ่งเป็นแผนแม่บทหลักด้านการคลังและงบประมาณ

ทั้งนี้ กำหนดให้รัฐบาลต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามเดือนนับตั้งแต่วันสิ้นปีงบประมาณทุกปี และเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ

แผนการคลังระยะปานกลางมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี และอย่างน้อยต้องประกอบด้วย

  • เป้าหมายและนโยบายการคลัง
  • สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ
  • สถานะและประมาณการการคลัง ซึ่งรวมถึงประมาณการรายได้ ประมาณการร่ายจ่าย ดุลการคลัง และการจัดการกับดุลการคลัง
  • สถานะหนี้สาธารณะของรัฐบาล
  • ภาระผูกพันทางการคลังของรัฐบาล

ภาพรวม

ลำดับเหตุการณ์

  • Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)  ดูเพิ่มเติม ›

    21 ม.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท

    7 ม.ค. 2568

  • ครม.เห็นชอบมาตรการ EasyEReceipt 2.0 ซื้อสินค้าและบริการ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท เริ่ม 16 ม.ค. - 28 ก.พ. 68  ดูเพิ่มเติม ›

    24 ธ.ค. 2567

  • คณะรัฐมนตรี(ครม.) มติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสถานบริการ จาก 10% เป็น 5% ของรายรับ ออกไปอีก 1 ปี เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล

    24 ธ.ค. 2567

  • S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)  ดูเพิ่มเติม ›

    11 ธ.ค. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เผยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% เป็นเพียงแนวคิด มองทั่วโลกก็ทำกัน ขอเวลาศึกษาข้อดี-ข้อเสีย รับส่งผลชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน  ดูเพิ่มเติม ›

    4 ธ.ค. 2567

  • สศช.รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2567 ขยาย 3.0% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 2.2% ในไตรมาสที่สองของปี 2567 (%YoY) และรวม 9 เดือนแรกของปี 2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.3%   ดูเพิ่มเติม ›

    18 พ.ย. 2567

  • Fitch Ratings (Fitch) คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ณ ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)  ดูเพิ่มเติม ›

    8 พ.ย. 2567

  • กระทรวงการคลัง รายงาน ครม. ถึงสถานะของหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ส.ค.67 มีจำนวน 11,728,149.06 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 64.02 ของจีดีพี   ดูเพิ่มเติม ›

    5 พ.ย. 2567

  • ครม.เห็นชอบแผนก่อหนี้ใหม่ปี 2568 โดยเป็นแผนการก่อหนี้ใหม่ 1,204,304.44 ล้านบาท  ดูเพิ่มเติม ›

    1 ต.ค. 2567

  • โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2568 จำนวน 3.752 ล้านล้านบาท ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป  ดูเพิ่มเติม ›

    30 ก.ย. 2567

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาล เพิ่มอีก 112,000 ล้านบาท รวมเป็น 883,458.40 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มจาก 65.06% เป็น 65.74%   ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายเวลาคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไว้ที่ 7% ต่ออีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67- 30 ก.ย.68  ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • วุฒิสภา ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ ปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ต  ดูเพิ่มเติม ›

    6 ส.ค. 2567

  • สภาฯรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบกลางปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้าน ด้วยมติ 297 ต่อ 164 เสียง

    17 ก.ค. 2567

  • ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไม่เกิน 122,000 ล้านบาท เพื่อใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต

    9 ก.ค. 2567

  • ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  ดูเพิ่มเติม ›

    19 มิ.ย. 2567

  • คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  ดูเพิ่มเติม ›

    11 มิ.ย. 2567

  • ครม.อนุมัติมาตรการทางภาษี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศช่วงโลว์ซีซันนาน 7 เดือน คาดรัฐสูญรายได้  1,781 ล้านบาท  ดูเพิ่มเติม ›

    4 มิ.ย. 2567

  • ครม. มีมติชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568 – 2571) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 เพิ่งงบดิจิทัลวอลเล็ต  ดูเพิ่มเติม ›

    28 พ.ค. 2567

  • คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท

    27 พ.ค. 2567

  • ขยายกรอบการก่อหนี้สาธารณะจากไม่เกิน 60% ของจีดีพี เป็น ไม่เกิน 70% ของจีดีพี  ดูเพิ่มเติม ›

    20 ก.ย. 2567

  • ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศขยายเพดานเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และการชำระคืนต้นเงินกู้ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ  ดูเพิ่มเติม ›

    16 เม.ย. 2567

  • ่ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนการคลัง ระยะปานกลาง (ปี งบประมาณ 2567 - 2570) เพื่อใช้เป็นแผนแม่บทหลักสำหรับการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของรัฐ  ดูเพิ่มเติม ›

    27 ธ.ค. 2565

  • ราชกิจจจานุเบกษา ประกาศใช้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561  ดูเพิ่มเติม ›

    18 เม.ย. 2567

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

เป้าหมายด้านการคลัง
ในระยะยาวจะกำหนดให้รัฐบาลมุ่งสู่การจัดทำงบประมาณสมดุลในระยะเวลาที่เหมาะสม

เชิงกระบวนการ

สัดส่วนหนี้สาธารณะ
หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 70
สัดส่วนหนี้ต่องบประมาณ
ภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ไม่เกินร้อยละ 35
สัดส่วนหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศ
หนี้สาธารณะที่ออกด้วยสกุลเงินต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 10
สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ส่งออก
ภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้การส่งออกสินค้าและบริการไม่เกินร้อยละ 5

เชิงการเมือง

ลดการขาดดุลงบประมาณ
ลดการขาดดุลงบประมาณ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายงบประมาณสมดุล

อินโฟกราฟิก

Image 0Image 1Image 2Image 3Image 4Image 5

บทความ

ดูทั้งหมด
รายจ่ายรับสังคมสูงวัย กำลังกดดันหนี้สาธารณะ

รายจ่ายรับสังคมสูงวัย กำลังกดดันหนี้สาธารณะ

หนี้สาธารณะยังเป็นประเด็นที่บรรดาสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้ความสนใจสำหรับประเทศไทย แม้ยังไม่น่าจะกังวลมาก แต่มีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากสังคมสูงวัยที่มีแนวโน้มค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

เปิดโครงสร้างเงินเดือน ข้าราชการพลเรือนกลาโหม

เปิดโครงสร้างเงินเดือน ข้าราชการพลเรือนกลาโหม

ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการ พลเรือนกลาโหม ประเภทการสอนหรือวิจัย หลังก่อนหน้านี้เทียบเคียงใช้ระเบียบข้าราชการพลเรือน กลาโหมระบุไม่เปลี่ยนไปจากเดิม

อบจ. ในกระแสการกระจายอำนาจ

อบจ. ในกระแสการกระจายอำนาจ

การเลือกตั้ง อบจ. ที่หลายคนพุ่งเป้าไปที่เกมการเมืองระหว่างผู้ลงสมัคร แต่การเลือกตั้ง อบจ. มีมากกว่านั้น เพราะเป็นเรื่องการกระจายอำนาจการเงินการคลังสู่ท้องถิ่น รวมถึงอำนาจการบริหารจัดการในพื้นที่ ที่นับเป็นความท้าทายที่สำคัญ

เช็กรายการลดหย่อน ภ.ง.ด.90/91 ก่อนยื่นภาษีปี 68

เช็กรายการลดหย่อน ภ.ง.ด.90/91 ก่อนยื่นภาษีปี 68

เริ่มแล้ว เทศกาลยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90/91 ผู้มีเงินได้ตรวจสอบรายการที่สามารถลดหย่อนได้ตามเงื่อนไข ยื่นผ่านออนไล์ยืดเวลาถึง 8 เม.ย. ขณะที่ยื่นโดยใช้เอกสารกระดาษตามกำหนดเดิมภายใน 31 มี.ค. หากใครต้องเสียเพิ่มตั้งแต่ 3,000 บาท ผ่อนได้ 3 งวด เตือนขายของออนไลน์รายได้ถึงเกณฑ์ต้องยื่นแบบฯ

เตรียมรับสงครามการค้าป่วนโลก โจทย์หินส่งออกไทยปี 68

เตรียมรับสงครามการค้าป่วนโลก โจทย์หินส่งออกไทยปี 68

ภาคส่งออกที่เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย จะเจอความเสี่ยงอย่างหนักในปี 68 หลังสหรัฐฯเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเปิดสงความการค้ารอบใหม่ 

ตอบทุกข้อสงสัย Easy E-Receipt 2.0 ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีปี 68

ตอบทุกข้อสงสัย Easy E-Receipt 2.0 ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีปี 68

รวมทุกข้อสงสัยมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ช้อปสินค้าลดหย่อนภาษีในปี 68 สูงสุด 50,000 บาท สินค้าและบริการอะไรที่นำไปลดหย่อนได้และไม่ได้ รวมถึงวิธีการลดหย่อนเป็นอย่างไร