ThaiPBS Logo

นโยบายการคลัง (Fiscal Policy)

นโยบายการคลัง เป็นการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นหรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยใช้เครื่องมือที่สำคัญของรัฐบาล คือ การใช้จ่ายของรัฐบาล (รายจ่าย) และการเก็บภาษี (รายได้) รวมถึงการก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาล

อ่านเพิ่มเติม

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ประกาศใช้พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

วางแผน

รัฐบาลทำแผนการคลังระยะปานกลาง กรอบหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% ของจีดีพี

ตัดสินใจ

เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568-2571) ฉบับทบทวน

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

อ่านเพิ่มเติม

ความคืบหน้าล่าสุด 19 พ.ย. 67

19 พ.ย. 67 สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2567 ขยายตัว 3.0% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 2.2% ในไตรมาสที่สองของปี 2567 (%YoY) และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2567 ขยายตัวจากไตรมาสที่สอง 1.2% (QoQ_SA) รวม 9 เดือนแรกของปี 2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.3%

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัว 2.6% ปรับตัวดีขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 1.9% ในปี 2566 อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 0.5% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.5% ของ GDP

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.3 -3.3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายภาครัฐ การขยายตัวของอุปสงค์ภาคเอกชนในประเทศ
และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว

8 พ.ย. 67 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Ratings (Fitch) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ณ ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

6 พ.ย. 67 กระทรวงการคลังรายงานสถานะของหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 ส.ค. 2567 มีจำนวน 11,728,149.06 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64.02% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) จากกรอบกรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่ไม่เกิน 70%

  • คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎร
  • ครม. มีมติชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568 – 2571) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 ภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน
  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง (2568-2571) เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2566

ปัจจุบัน การดำเนินนโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐพ.ศ. 2561 โดยมีการกำหนดรายละเอียดด้านรายจ่าย ตลอดจนเพดานหนี้สาธารณะ ตามคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังของรัฐ คือ

  • หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 60
  • ภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ไม่เกินร้อยละ 35
  • หนี้สาธารณะที่ออกด้วยสกุลเงินต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 10
  • ภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้การส่งออกสินค้าและบริการไม่เกินร้อยละ 5

แต่จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เงินกว่าล้านล้านบาท ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น จนกระทั่งคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังจึงได้มีมติเห็นชอบขยายกรอบเพดานหนี้สาธารณะจากเดิมที่กำหนดว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ต้องไม่เกินร้อยละ 60 เป็นสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ต้องไม่เกินร้อยละ 70 ต่อ GDP เมื่อเดือนก.ย. 2564

การทบทวนกรอบสัดส่วนการบริหารหนี้สาธารณะในครั้งนี้เป็นไปตามความในมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้มีการทบทวนสัดส่วนต่างๆ อย่างน้อยทุกสามปี

การขยายเพดานหนี้สาธารณะ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่อง “กรอบความยั่งยืนทางการคลัง” แต่เรื่องความยั่งยืนทางการคลังสามารถพิจารณาได้หลายมุม โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ยังมีปัจจัยอื่นมาใช้ในการพิจารณาด้วย เช่น แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ มีหน้าที่จัดทำ “แผนการคลังระยะปานกลาง” ซึ่งเป็นแผนแม่บทหลักด้านการคลังและงบประมาณ

ทั้งนี้ กำหนดให้รัฐบาลต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามเดือนนับตั้งแต่วันสิ้นปีงบประมาณทุกปี และเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ

แผนการคลังระยะปานกลางมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี และอย่างน้อยต้องประกอบด้วย

  • เป้าหมายและนโยบายการคลัง
  • สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ
  • สถานะและประมาณการการคลัง ซึ่งรวมถึงประมาณการรายได้ ประมาณการร่ายจ่าย ดุลการคลัง และการจัดการกับดุลการคลัง
  • สถานะหนี้สาธารณะของรัฐบาล
  • ภาระผูกพันทางการคลังของรัฐบาล

ภาพรวม

ลำดับเหตุการณ์

  • สศช.รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2567 ขยาย 3.0% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 2.2% ในไตรมาสที่สองของปี 2567 (%YoY) และรวม 9 เดือนแรกของปี 2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.3%   ดูเพิ่มเติม ›

    18 พ.ย. 2567

  • Fitch Ratings (Fitch) คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ณ ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)  ดูเพิ่มเติม ›

    8 พ.ย. 2567

  • กระทรวงการคลัง รายงาน ครม. ถึงสถานะของหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ส.ค.67 มีจำนวน 11,728,149.06 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 64.02 ของจีดีพี   ดูเพิ่มเติม ›

    5 พ.ย. 2567

  • ครม.เห็นชอบแผนก่อหนี้ใหม่ปี 2568 โดยเป็นแผนการก่อหนี้ใหม่ 1,204,304.44 ล้านบาท  ดูเพิ่มเติม ›

    1 ต.ค. 2567

  • โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2568 จำนวน 3.752 ล้านล้านบาท ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป  ดูเพิ่มเติม ›

    30 ก.ย. 2567

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาล เพิ่มอีก 112,000 ล้านบาท รวมเป็น 883,458.40 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มจาก 65.06% เป็น 65.74%   ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายเวลาคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไว้ที่ 7% ต่ออีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67- 30 ก.ย.68  ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • วุฒิสภา ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ ปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ต  ดูเพิ่มเติม ›

    6 ส.ค. 2567

  • สภาฯรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบกลางปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้าน ด้วยมติ 297 ต่อ 164 เสียง

    17 ก.ค. 2567

  • ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไม่เกิน 122,000 ล้านบาท เพื่อใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต

    9 ก.ค. 2567

  • ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  ดูเพิ่มเติม ›

    19 มิ.ย. 2567

  • คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  ดูเพิ่มเติม ›

    11 มิ.ย. 2567

  • ครม.อนุมัติมาตรการทางภาษี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศช่วงโลว์ซีซันนาน 7 เดือน คาดรัฐสูญรายได้  1,781 ล้านบาท  ดูเพิ่มเติม ›

    4 มิ.ย. 2567

  • ครม. มีมติชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568 – 2571) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 เพิ่งงบดิจิทัลวอลเล็ต  ดูเพิ่มเติม ›

    28 พ.ค. 2567

  • คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท

    27 พ.ค. 2567

  • ขยายกรอบการก่อหนี้สาธารณะจากไม่เกิน 60% ของจีดีพี เป็น ไม่เกิน 70% ของจีดีพี  ดูเพิ่มเติม ›

    20 ก.ย. 2567

  • ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศขยายเพดานเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และการชำระคืนต้นเงินกู้ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ  ดูเพิ่มเติม ›

    16 เม.ย. 2567

  • ่ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนการคลัง ระยะปานกลาง (ปี งบประมาณ 2567 - 2570) เพื่อใช้เป็นแผนแม่บทหลักสำหรับการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของรัฐ  ดูเพิ่มเติม ›

    27 ธ.ค. 2565

  • ราชกิจจจานุเบกษา ประกาศใช้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561  ดูเพิ่มเติม ›

    18 เม.ย. 2567

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

เป้าหมายด้านการคลัง
ในระยะยาวจะกำหนดให้รัฐบาลมุ่งสู่การจัดทำงบประมาณสมดุลในระยะเวลาที่เหมาะสม

เชิงกระบวนการ

สัดส่วนหนี้สาธารณะ
หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 70
สัดส่วนหนี้ต่องบประมาณ
ภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ไม่เกินร้อยละ 35
สัดส่วนหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศ
หนี้สาธารณะที่ออกด้วยสกุลเงินต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 10
สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ส่งออก
ภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้การส่งออกสินค้าและบริการไม่เกินร้อยละ 5

เชิงการเมือง

ลดการขาดดุลงบประมาณ
ลดการขาดดุลงบประมาณ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายงบประมาณสมดุล

อินโฟกราฟิก

Image 0Image 1Image 2Image 3Image 4Image 5

บทความ

ดูทั้งหมด
Fitch คงอันดับเครดิตไทย ห่วงการเมืองผันผวน

Fitch คงอันดับเครดิตไทย ห่วงการเมืองผันผวน

Fitch บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือ แต่ห่วงการเมืองผันผวน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการติดตามนโยบายของไทยมานาน รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป และประเด็นหนี้สาธารณะที่ขยับเพิ่มขึ้น ห่วงการปรับตัวทางการคลังล่าช้า

ก.พ.ร.กำหนดตัวชี้วัดร่วมปี 68 ยกระดับผลประเมินเทียบ PISA

ก.พ.ร.กำหนดตัวชี้วัดร่วมปี 68 ยกระดับผลประเมินเทียบ PISA

ครม.มีมติเห็นชอบตัวชี้วัด Joint KPIs ใหม่ ของหน่วยงานราชการ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยเพิ่มยกระดับผลการประเมินนักเรียนให้ได้ตามมาตรฐานของ PISA และมุ่งแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมถึงยกระดับธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการน้ำเพิ่มขึ้น

กู้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันหนี้สาธารณะพุ่ง 64%ของจีดีพี

กู้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันหนี้สาธารณะพุ่ง 64%ของจีดีพี

กระทรวงการคลัง รายงานสาธารณะ ส.ค. 67 แตะ 64.02% ของจีดีพี ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ยอมรับการกู้เงินของรัฐบาลทำให้มีหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น