ผลคะแนน PISA ของนักเรียนไทยยังคงตกต่ำต่อเนื่อง แม้ปีที่มีการประเมินล่าสุด PISA 2022 คะแนนที่ได้ทั้ง 3 ด้านลดลง เมื่อเทียบกับปี 2018 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งสะท้อนนักเรียนไทยมีความสามารถต่ำกว่ามาตรฐานสากล
คะแนน PISA 2022 (เทียบกับ 2018)
- คณิตศาสตร์: 394 คะแนน (ลดลง 25 คะแนน)
- วิทยาศาสตร์: 409 คะแนน (ลดลง 17 คะแนน)
- การอ่าน: 379 คะแนน (ลดลง 14 คะแนน)
คะแนน PISA ของนักเรียนไทยลดลงในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการอ่านและคณิตศาสตร์ และเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ไทยอยู่อันดับท้าย ๆ ในอาเซียน ส่วนการประเมินด้านความคิดสร้างสรรค์ปี 2022 ไทยได้อันดับ 54/64 ประเทศ คะแนน 21 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD และถือว่าอยู่ในกลุ่มคะแนนต่ำ
เพื่อยกระดับการศึกษาให้ได้ตามมาตรฐานสากล กระทรวงศึกษาเสนอแผนแผนปฏิบัติการด้านการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาของประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล (พ.ศ. 2568 – 2570) เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกได้
เสนอเร่งปรับหลักสูตร ตามPISA
กระทรวงศึกษาธิการ เสนอรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาของประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล (พ.ศ. 2568 – 2570) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ต่อคณะรัฐมนตรีรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกุล มีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานดังกล่าว เมื่อ 16 ธ.ค. 68 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอเชิงนโยบาย ดังนี้
1.เร่งสร้าง “นโยบายแดชบอร์ด”
การพัฒนานโยบายแดชบอร์ดและ Student Tracking System โดยควรเร่งสร้าง “นโยบายแดชบอร์ด” ที่บูรณาการข้อมูลผู้เรียนรายบุคคล (Student Tracking System) ผลสอบ PISA และ O-NET ระบบ Ed-DQA
ข้อมูลการลงทุนของรัฐ โดยระบบนี้ต้องระบุเจ้าภาพข้อมูล และมีมาตรฐานกำกับคุณภาพข้อมูล (Data Quality) เพื่อให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถเห็นภาพรวมการศึกษาของทุกพื้นที่แบบเรียลไทม์ จัดสรรทรัพยากรได้อย่างแม่นยำ และติดตามความก้าวหน้าตามเป้าหมายรายไตรมาส
2.ปรับหลักสูตรสอดคล้อง PISA“วาระเร่งด่วน”
ปรับหลักสูตรและการประเมินให้สอดคล้อง PISA ควรกำหนดให้การปฏิรูปหลักสูตรและการสอนเป็น “วาระเร่งด่วน” โดยพัฒนาหลักสูตรที่เน้นทักษะคิดวิเคราะห์
การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning) และ Inquiry-Based Learning พร้อมทั้งจัดอบรมครูให้สามารถออกแบบการประเมินในชั้นเรียนที่สอดคล้องกับข้อสอบ PISA จำเป็นต้องจัดทำคลังข้อสอบตัวอย่าง คู่มือการจัดการเรียนการสอน และสื่อสร้างแรงจูงใจสำหรับนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานและท้าทาย
3.เร่งพัฒนา Credit Bank
การขยายและทำให้ Credit Bank ใช้งานได้จริง เร่งพัฒนา Credit Bank ให้มีหลักเกณฑ์มาตรฐานการเทียบโอนหน่วยกิตที่ชัดเจน และเชื่อมต่อระบบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ,สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ,กรมส่งเสริมการเรียนรู้ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้ผู้เรียนทุกระดับสามารถสะสมหน่วยกิตจากประสบการณ์ และหลักสูตรต่าง ๆ ไปสู่คุณวุฒิที่สูงขึ้นได้ต้องจัดเวทีสื่อสารเพื่ออธิบายสิทธิประโยชน์ให้ผู้เรียนและผู้ปกครองเข้าใจและติดตามผลการใช้งานรายไตรมาสเพื่อปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง
4.เชื่อมระบบข้อมูลจัดสรรงบประมาณด้วยแรงจูงใจ
พัฒนาเชื่อมระบบข้อมูลกับการจัดสรรงบประมาณและแรงจูงใจ ใช้ข้อมูลจาก Student Tracking System เป็นเงื่อนไขในการจัดสรรงบประมาณ โดยมอบรางวัลหรือแรงจูงใจเพิ่มเติมให้กับพื้นที่หรือโรงเรียนที่ลดอัตราการหลุดออกจากระบบการศึกษาและยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนได้จริง แนวทางนี้จะกระตุ้นให้หน่วยงานระดับพื้นที่ใช้ข้อมูลเชิงหลักฐานในการวางแผนและปรับกลยุทธ์การสอน
5.ปฏิบัติการรู้เท่าทันใช้ AI ในสถานศึกษา
กำหนดแนวปฏิบัติด้าน media & digital literacy สร้างหลักสูตรสั้น ๆ และแนวทางปฏิบัติด้านการรู้เท่าทันสื่อและจริยธรรมดิจิทัลสำหรับครูและนักเรียน พร้อมกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลและการใช้ AI ในสถานศึกษา นโยบายนี้จะช่วยป้องกันการใช้เทคโนโลยีอย่างไม่เหมาะสม และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการขยายตัวของสื่อดิจิทัล
แผนยกระดับการศึกษาเทียบเท่าสากล
ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้ดำเนินการติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาของประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล (พ.ศ. 2568 – 2570) จากหน่วยงานที่รับผิดชอบกิจกรรมตามแผนการดำเนินงานจำนวน 13 หน่วยงานหลัก ทั้งหน่วยงานภายในกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยได้รวบรวมข้อมูลและนำมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงาน ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะสำหรับใช้เป็นข้อมูลในการยกระดับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล รวมทั้งเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกัน (Joint KPIs) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และเป็นไปตามมติที่ประชุมสภาการศึกษา ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
ผลดำเนินการ 5 ยุทธศาสตร์
ขณะที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว และจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาของประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล (พ.ศ. 2568 – 2570) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งนำเสนอข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานตามรายยุทธศาสตร์ 5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
- การส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาการศึกษาในระดับสากล
- การพัฒนาทักษะที่จำเป็นตามมาตรฐานสากลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะแวดล้อมโลกใหม่
- การพัฒนาระบบนิเวศ ทรัพยากร และบูรณาการระบบฐานข้อมูลทางการศึกษาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาของประเทศ
- การพัฒนาระบบบริหารจัดการการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการศึกษาให้มีมาตรฐานในระดับสากล
- การพัฒนาองค์ความรู้ การสื่อสารสร้างความเข้าใจ และการเสริมพลังภาคส่วนร่วมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาสู่มาตรฐานสากล
รวมทั้งนำเสนอข้อมูลผลการติดตามและประเมินผลการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาไทยในเวทีโลก จำแนกเป็น 5 มิติ
- มิติด้านคุณภาพการศึกษา (Quality)
- มิติด้านความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity)
- มิติด้านการเข้าถึงการศึกษา (Access)
- มิติด้านประสิทธิภาพการจัดการศึกษา (Efficiency)
- มิติด้านการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง (Relevancy)
ยกระดับการศึกษาเท่าสากล 100 %
ทั้งนี้ พบว่าผลการดำเนินงานตามแผนครบถ้วน 100 %ของทุกหน่วยงาน ซึ่งความสำเร็จของการดำเนินงานโครงการเป็นไปตาม วัตถุประสงค์ที่มีจุดเน้นในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษา เกิดการบูรณาการการขับเคลื่อนส่งเสริมการจัดการศึกษาของประเทศไทย ตั้งแต่ระบบการศึกษา รูปแบบการศึกษาที่มีเป้าประสงค์เพื่อพัฒนาตัวผู้เรียน พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลสูงสุด อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาได้อย่างดียิ่ง
นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญของการยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านการศึกษาของประเทศไทย และสามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล
ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันด้านการศึกษาที่สำคัญ โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินงาน และพัฒนาความสามารถในการแข่งขันด้านการศึกษาของประเทศนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ PISA คือ โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (Programme for International Student Assessment) ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD (Organisation for Economic Co-operation and Development) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินคุณภาพของระบบการศึกษาในการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนมีศักยภาพหรือความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง
PISA ประเมินนักเรียนอายุ 15 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวัยที่สำเร็จการศึกษาภาคบังคับ โดยได้ทำการประเมินทุก 3 ปี อย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษาและมุ่งให้ข้อมูลแก่ระดับนโยบาย PISA เน้นการประเมินสมรรถนะของนักเรียนเกี่ยวกับการใช้ความรู้และทักษะในชีวิตจริงมากกว่าการเรียนรู้ตามหลักสูตรในโรงเรียน หรือเรียกว่า “ความฉลาดรู้” (Literacy) ใน 3 ด้าน ได้แก่ การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ การประเมินนักเรียนจะวัดทั้ง 3 ด้านดังกล่าวไปพร้อมกัน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:




