ThaiPBS Logo

การปฏิรูปการศึกษา

นโยบาย ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งจะมาแทนที่ฉบับเก่าปี พ.ศ. 2542 มุ่งสร้างระบบการศึกษาที่ครอบคลุมทุกช่วงวัยและหลักสูตรที่เท่าทันโลก รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างองค์กรทางการศึกษาให้สอดรับกับ “การปฏิรูปการศึกษา” ตามคำแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา ล่าสุดยังอยู่ในขั้นตอนการประชาพิจารณ์

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ร่างกฎหมาย การศึกษาแห่งชาติ อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

ขั้นตอนดำเนินงานตามนโยบายที่ประกาศไว้

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

ภาพรวม

อ่านเพิ่มเติม

พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ : จากรัฐบาลประยุทธ์ สู่รัฐบาลเศรษฐา

พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติเป็นมรดกตกทอดจากสมัยรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งร่างกฎหมายได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และกำลังจะเข้าวาระ 2 และ 3 แต่ประยุทธ์ประกาศยุบสภาก่อน ร่างกฎหมายจึงถูกปัดตกไป

ต่อมารัฐบาลเศรษฐาแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าจะดำเนินนโยบายปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต แม้จะไม่มีการกล่าวถึง “พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ” แต่ทางสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ก็ได้รับลูกนโยบายปฏิรูปการศึกษา และนำร่างเก่าสมัยประยุทธ์มาทำประชาพิจารณ์ใหม่ เพราะหากเริ่มต้นร่างใหม่ จะไม่ทันวาระ 4 ปี ของรัฐบาลชุดนี้

สกศ. คาดว่าจะได้ข้อสรุปผลการประชาพิจารณ์ ภายในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก่อนจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาต่อไป

ทำไมต้องมี พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ

อ้างอิงจางร่างสมัยรัฐบาลประยุทธ์ ได้กำหนดหลักการและเหตุผลไว้อย่างกว้าง ๆ โดยอ้างถึงมาตรา 54 ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้รัฐมีหน้าที่จัดการศึกษาในทุกระดับ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ตลอดชีวิต ซึ่งต้องมีการจัดทำกฎหมายและแผนการศึกษาแห่งชาติ หรือ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติอย่างที่เห็น ทั้งนี้ ยังไม่มีหลักการและเหตุผลที่แน่ชัด ปรากฎในสมัยรัฐบาลเศรษฐา

หากอ้างอิงตามถ้อยแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา จะพบว่า พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ ต้องตอบ 5 เป้าหมายสำคัญของการปฏิรูปการศึกษา ได้แก่ 

  1. แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอันเป็นต้นตอของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
  2. สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  3. กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง
  4. จัดทำหลักสูตรและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความรู้ความสนใจของผู้เรียน
  5. ให้ความสำคัญต่อความมีคุณภาพของครูทั้งประเทศ ตลอดจนพัฒนาครูแนะแนว

พรบ. การศึกษาแห่งชาติจะเป็นกฎหมายแม่บทของกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา อาทิ  

  • พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
  • พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
  • พ.ร.บ. สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
  • พ.ร.บ. การศึกษาภาคบังคับ
  • พ.ร.บ. การอาชีวศึกษา 
  • พ.ร.บ. โรงเรียนเอกชน
  • กฎหมายลูก และกฎกระทรวงอื่น ๆ

หรือนี่จะเป็นหนังสือเล่มเก่าในปกใหม่?

ปัญหาคือ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติฉบับสมัยประยุทธ์ถูกวิพากษ์ค่อนข้างมาก โดยมีมาตราที่เป็นประเด็นถกเถียงประมาณ 14 มาตรา จาก 110 มาตรา ทาง สกศ. จึงแยกกฎหมายที่ติดขัดเรื่องสิทธิประโยชน์ของบุคลากรไปอีกฉบับ จึงออกมาเป็น พ.ร.บ. 2 ฉบับ ได้แก่ 

  1. ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เนื้อหาเน้นว่าทำอย่างไรให้ผู้เรียนมีคุณภาพ สอดคล้องกับบริบทโลก
  2. ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีเนื้อหาเน้นเรื่องโครงสร้างบุคลากรและสิทธิประโยชน์ที่ยังเป็นข้อขัดแย้ง

อย่างไรก็ดี ทางพรรคก้าวไกลตั้งข้อกังวลว่า พ.ร.บ. การศึกษาฉบับประยุทธ์มีการล็อกสเป็คผู้เรียน โดยเฉพาะในมาตรา 8 ที่กำหนดเป้าหมายให้เด็กในแต่ละช่วงวัย ต้องบรรลุคุณสมบัติประการต่าง ๆ รวมกว่า 100 ข้อ ทั้งยังมีการจัดตั้ง “ซูเปอร์บอร์ด” ที่ไม่มีตัวแทนนักเรียน ครู หรือผู้ปกครอง แต่กลับมีอำนาจกำหนดคุณสมบัติต่าง ๆ ในร่างกฎหมายซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกคนในระบบการศึกษา ซ้ำร้ายกฎหมายยังไม่มีการประกันสิทธิและสวัสดิภาพของนักเรียน

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยเองก็เคยลงประกาศคัดค้านร่าง พ.ร.บ. ฉบับประยุทธ์ ไว้ว่า “เนื่องจากเนื้อหาไม่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงการศึกษาของโลก อีกทั้งยังมีจุดเริ่มต้นมาจากแนวคิดการรวบอำนาจจนเคยชินของพลเอกประยุทธ์”

ทั้งนี้ เนื้อหาภายในร่างทั้งหมดอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ โดย อรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ระบุว่า ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ โดยจะนำร่างเก่าในสมัยรัฐบาลที่แล้วนำมาทบทวนและแก้ไขเฉพาะในส่วนที่ขัดแย้ง เนื่องจากหลักการส่วนใหญ่ในร่างเดิม ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว 

เปิดเส้นทาง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ: สว. หมดวาระชะลอร่างกฎหมาย

  1. สกศ. นำพ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติสมัยประยุทธ์ มาทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนอีกครั้ง
  2. สกศ. คาดว่าจะได้ข้อสรุปผลการประชาพิจารณ์ ภายในเดือนพฤศจิกายน ก่อนเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณา
  3. สกศ. นำความคิดเห็นประกอบเสนอร่างกฎหมายต่อ ครม. และกระบวนการนิติบัญญัติ
  4. มาตราไหนเป็นที่ถกเถียง สกศ. จะนำตัวอย่างการจัดการศึกษาของประเทศที่พัฒนาแล้ว มาเปรียบเทียบกับ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และนำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาด้วย
  5. เปิดให้ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา ร่วมกันวิพากษ์อีกครั้งเพื่อหาข้อสรุป
  6. ปรับแก้รายละเอียดต่าง ๆ เสนอให้รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการพิจารณา
  7. เสนอที่ประชุม ครม. เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ
  8. เสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือน ก่อนจะนำเข้าสู่สภาในการเปิดสมัยประชุมปี 2567
  9. แต่ร่าง พ.ร.บ. อาจถูกชะลอ เพราะการลงความเห็นจำเป็นต้องใช้เสียง สว. ซึ่งจะหมดวาระใน พฤษภาคม 2567 และจะมีการเลือกตั้ง สว. ช่วงปลายปี 2567
  10. เป็นไปได้ว่า ร่าง พ.ร.บ. อาจเข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติได้ในปี 2568 และจะได้บังคับใช้เร็วที่สุดภายในปี 2569

 

แหล่งอ้างอิง

ลำดับเหตุการณ์

  • คณะรัฐมนตรี ( ครม.)มีมติเห็นชอบทิศทางการวิจัยทางการศึกษาของชาติ ปี 2568 –2570    (ทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ)ครั้งแรกของประเทศ

    13 พ.ค. 2568

  • พล.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ลงนามเสนอร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เข้า ครม.

    31 พ.ค. 2567

  • นำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ สมัยประยุทธ์ มาทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนอีกครั้ง

    6 พ.ย. 2566

  • พล.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. เป็นประธานการประชุมสภาการศึกษา พิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ

    27 ต.ค. 2566

  • สภาการศึกษาตั้งคณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ

    8 ต.ค. 2566

ความสำเร็จของนโยบาย

อินโฟกราฟิก

Image 0

บทความ

ดูทั้งหมด
เลิกส่งรายงานประเมินโรงเรียน ลดภาระงานครู

เลิกส่งรายงานประเมินโรงเรียน ลดภาระงานครู

สพฐ. ออกประกาศลดภาระงานครู ยกเลิกให้ส่งรายงานประเมินโรงเรียน 52 โครงการ จากทั้งหมด 114 โครงการ ทุกโรงเรียน ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ทั่วประเทศ หวังให้ครูมากกว่า 500,000 คนทั่วประเทศมีเวลาเตรียมการสอน และดูแลนักเรียนได้อย่างเต็มที่

มหาดไทยปลดล็อกท้องถิ่น มีอำนาจ "ส่งเสริม-สนับสนุนการศึกษา"

มหาดไทยปลดล็อกท้องถิ่น มีอำนาจ "ส่งเสริม-สนับสนุนการศึกษา"

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ส่งหนังสือคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร ยืนยันปลดล็อกอำนาจท้องถิ่นสามารถจัดการ “ รถรับส่งนักเรียน-อาหารกลางวัน-ทุนการศึกษา" สำหรับนักเรียนทุกคน เพื่อเป็นการบริการสาธารณะให้กับประชาชนในท้องถิ่น

จากนโยบายสู่การปฏิบัติ  อุปสรรคใหญ่ปฏิรูปการศึกษา

จากนโยบายสู่การปฏิบัติ อุปสรรคใหญ่ปฏิรูปการศึกษา

คำกล่าวที่ว่าการศึกษาไทยล้าหลัง ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง และแข่งขันสู้ประเทศอื่นไม่ได้ ดังนั้นจำเป็นต้องการปฏิรูป แต่นักวิชาการมองว่าแม้กฎหมายจำเป็น แต่กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน เปิดทางให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่ขาดการสื่อสารระดับปฏิบัติให้เข้าใจ

รู้จักหลักสูตรสมรรถนะ บทเรียนจาก"โรงเรียนแม่คือวิทยาเชียงใหม่" ไม่ต้องรอปฏิรูปก็ปรับเปลี่ยนได้

รู้จักหลักสูตรสมรรถนะ บทเรียนจาก"โรงเรียนแม่คือวิทยาเชียงใหม่" ไม่ต้องรอปฏิรูปก็ปรับเปลี่ยนได้

เมื่อหลักสูตรแกนกลางปี 51 ไม่ตอบโจทย์ หลักสูตรใหม่จึงเป็นทางออกในการพัฒนาเด็ก โรงเรียนแม่คือวิทยาในเชียงใหม่ แสดงให้เห็นผลลัพท์ที่ดี มีทั้งเด็กสนุกและเด็กเก่ง ด้วยการพัฒนาหลักสูตรสมรรถนะ จากพรบ.นวัตกรรมพื้นที่การศึกษา ไม่ต้องรอปฏิรูปใหญ่โต เพียงแต่ทุกฝ่ายต้องปรับเปลี่ยน ทั้งครูและผู้ปกครอง

เพศวิถีศึกษา: จะเริ่มจากจุดไหนดี? ถึงจะเป็นไปได้

เพศวิถีศึกษา: จะเริ่มจากจุดไหนดี? ถึงจะเป็นไปได้

ถึงแม้จะมีกฎหมายกำหนดให้มีการสอนเพศวิถีศึกษา แต่ในความเป็นจริงเรายังห่างไกล เนื่องจาก 'การพัฒนาครู' เป็นหนึ่งในคำตอบที่จะทำให้การเรียนการสอนเพศวิถีศึกษาเกิดขึ้นในห้องเรียน ดังนั้น รัฐบาลต้องจริงจังกับการสนับสนุนและช่วยเหลือด้านทรัพยากรการเรียนรู้ในโรงเรียน

เพศวิถีศึกษา: สะท้อนกระทรวงศึกษาธิการ "ล้าหลัง" ตามไม่ทันปัญหา

เพศวิถีศึกษา: สะท้อนกระทรวงศึกษาธิการ "ล้าหลัง" ตามไม่ทันปัญหา

เพศวิถีศึกษา เป็นหนึ่งในวิชาสำคัญตามพรบ.การป้องกันและแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ที่หวังว่าจะมีการบรรจุเป็นวิชาในโรงเรียน แต่ผ่านไปเกือบ 10 ปี ความพยายามแก้ปัญหา "ท้องไม่พร้อม"ในสังคมไทยผ่านหลักสูตรในโรงเรียนไปไม่ถึงไห เมื่อศธ.นำไปไว้ในวิชาสุขศึกษา ขณะเดียวกันก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น