ประกันสังคมปรับเกณฑ์และเงื่อนไขรับ “ประโยชน์ทดแทน” สำหรับ ผู้”สมัครเป็นผู้ประกันตน” หรือ ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทำให้ผู้ประกันตนมีสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นจากเงินทดแทน 5 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต บำเหน็จชราภาพ และ สงเคราะห์บุตร
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเดิม
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 คือ ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบ (ฟรีแลนซ์) ที่มีอายุ 15 – 65 ปี ซึ่งต้องไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 โดยมีเงื่อนไขเดิม คือ เงินทดแทน 5 กรณี
- เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพ
- เงินค่าทำศพ กรณีเสียชีวิต หรือเงินสงเคราะห์กรณีตาย
- เงินบำเหน็จชราภาพ
- เงินสงเคราะห์บุตร
จ่ายเงินสมทบ 3 ทางเลือก
- ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาทต่อเดือน สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย
- ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาทต่อเดือน สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีชราภาพ
- ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาทต่อเดือน สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร
สิทธิประโยชน์ประกันสังคมมาตรา 40 เดิม
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขใหม่
คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทนตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือ ผู้ประกันตน มาตรา 40 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาฯ พ.ศ. 2561 ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม
1. แก้ไขหลักเกณฑ์การได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 ทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3 ในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ โดยลดระยะเวลาให้น้อยลง หากแพทย์มีความเห็นให้หยุดพัก เพื่อการรักษาพยาบาล ตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป (200 บาท/วัน ไม่เกิน 30 วัน หรือ 90 วัน) ปรับเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตน
ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 หากไม่ได้พักรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลและไม่มีความเห็นของแพทย์ให้หยุดพักเพื่อการรักษาพยาบาล โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อสำนักงานประกันสังคม (จากครั้งละ 50 บาท ปีละไม่เกิน 3 ครั้ง เป็น ครั้งละ 200 บาท ปีละไม่เกิน 3 ครั้ง) และปรับเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตน
ทางเลือกที่ 3 หากไม่ได้พักรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล และไม่มีความเห็นของแพทย์ให้หยุดพักเพื่อการรักษาพยาบาล โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อสำนักงานประกันสังคม (จากไม่ได้กำหนดไว้ เป็น ครั้งละ 200 บาท ปีละไม่เกิน 3 ครั้ง)
2. กำหนดให้ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 ทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3 ที่เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่ออันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ รวมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) และเข้ารับการรักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขหรือตามมาตรการของรัฐ มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ (จาก ไม่ได้กำหนดไว้ เป็น 200 บาท/วัน ไม่เกิน 30 วัน หรือ 90 วัน)
3. แก้ไขหลักเกณฑ์การได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 ในกรณีทุพพลภาพ เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ต่อเดือนตลอดชีวิต (เดิม 15 ปี) และปรับเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในแต่ละเดือน (จาก 500 – 1,000 บาท/เดือน เป็น 1,000 – 2,000 บาท/เดือน) และปรับเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในแต่ละเดือนของผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 3 ในกรณีทุพพลภาพ (จาก 500 – 1,000 บาท/เดือน เป็น 1,500 – 3,000 บาท/เดือน)
4. แก้ไขระยะเวลา และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 3 ในกรณีสงเคราะห์บุตร โดยให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรซึ่งมีอายุไม่เกิน 7 ปีบริบูรณ์ (เดิม ไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์) จำนวนคราวละไม่เกิน 2 คน ในอัตรา 300 บาทต่อเดือนต่อบุตร 1 คน (เดิม 200 บาท/เดือน)
5. แก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีผู้ประกันตนทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3 ถึงแก่ความตายก่อนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือก่อนที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ โดยให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่บุคคล ซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพนั้นแต่ถ้าผู้ประกันตนมิได้ทำหนังสือระบุไว้ ให้นำมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่สามีภริยา บิดามารดา หรือบุตรของผู้ประกันตนในจำนวนที่เท่ากัน
6. กำหนดบทเฉพาะกาล เช่น ให้ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 ทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3 ที่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ตั้งแต่ 26 มี.ค. 63- 30 ก.ย. 65 และเข้ารับบริการหรือการรักษาพยาบาลตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข หรือตามมาตรการของรัฐ มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตามที่กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคมกำหนดตามกฎหมายใหม่
กำหนดให้ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 ทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3 ที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอยู่ก่อนวันที่ร่างพระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับไปจนถึงวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนเป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ตามกฎหมายใหม่
กำหนดให้ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 ทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3 ที่ได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีทุพพลภาพ เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ตามกฎหมายเดิม ซึ่งสิ้นสุดการได้รับสิทธิไปแล้วหรือยังคงได้รับสิทธิอยู่ในปัจจุบัน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีทุพพลภาพเป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ตามกฎหมายใหม่
และกำหนดให้ผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3 ที่ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรตามกฎหมายเดิม มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรเพิ่มขึ้น ตามกฎหมายใหม่ ซึ่งคณะกรรมการประกันสังคม (ชุดที่ 13 และชุดที่ 14) ได้มีมติให้ความเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ ระยะเวลา และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ ตามร่างกฎหมาย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานได้เสนอรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาด้วยแล้ว
ผู้ประกันสังคมม.40 เข้าถึงสิทธิมากขึ้น
มารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ระบุว่าการพัฒนาสิทธิประโยชน์สำหรับประกันสังคมมาตรา 40 ตามมติครม.เมื่อ 4 มิ.ย.68 มีการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์หลายกรณี และปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อการเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้นในการรับสิทธิประโยชน์กรณีต่างๆ ของผู้ประกันตน
ลำดับต่อไปสำนักเลขานุการ คณะรัฐมนตรีจะได้ส่งเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วไปยังสำนักงานประกันสังคมคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือตรวจพิจารณาร่างกฎหมาย หรือเสนอให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในหลวงทรงลงพระพระปรมาภิไธยและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
ประกันสังคมเพิ่มเงินทดแทนว่างงาน จาก 50% เป็น 60%