ความเคลื่อนไหวล่าสุด
18 ต.ค. 68 นิยดา เสนีย์มโนมัย โฆษกสำนักงานประกันสังคม ระบุว่าการปรับสูตรบำนาญชราภาพครั้งนี้ ยึดหลักการระบบบำนาญสากลที่คำนวณจากรายได้เฉลี่ยตลอดช่วงเวลาการส่งเงินสมทบ หรือสูตร CARE (Career Average Revalued Earnings) ซึ่งเป็นการเฉลี่ยเงินเดือนทุกเดือนและปรับตามค่าเงินปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกันตนส่วนใหญ่ได้รับบำนาญใกล้เคียงเดิม โดยคำนวณตามมูลค่าของค่าจ้างในวันที่เริ่มรับบำนาญ
ปัจจุบันมีผู้ได้รับบำนาญชราภาพรวมทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 850,000 คน ซึ่งการคำนวณบำนาญสูตรใหม่จะมีผู้ได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นประมาณ 570,000 คน และผู้ได้รับบำนาญเท่าเดิมประมาณ 280,000 คน ดังนั้น สูตรใหม่จะไม่ไปลดเงินบำนาญในปัจจุบันแม้แต่รายเดียว
สำหรับผู้รับบำนาญใหม่ภายใน 5 ปีนี้ สำนักงานประกันสังคมจะยังคำนวณเปรียบเทียบให้ทั้งสูตรใหม่และสูตรเก่า หากสูตรใหม่คำนวณได้น้อยกว่าสูตรเก่า จะมีการจ่ายชดเชยส่วนต่างให้ตลอดชีวิต (ผู้ที่เกษียณปี 2569 จะได้รับการชดเชยส่วนต่าง 100%: ปี 2570 ชดเชย 80% ; 2571 ชดเชย 60%; 2572 ชดเชย 40% และ 2573 ชดเชย 20% ตามลำดับ) ในกรณีผู้ที่รับบำนาญตั้งแต่ปี 2574 จะได้รับบำนาญตามสูตรใหม่ ซึ่งมีความสมดุลสอดคล้องกับการส่งเงินสมทบ และเป็นธรรมกับผู้ประกันตนทั้งระบบในอนาคต
ผู้รับบำนาญในอนาคต บำนาญที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับการส่งเงินสมทบในอนาคตก่อนการขอรับบำนาญในภาพรวม หากสูตรใหม่มีผลใช้บังคับ ผู้ที่จะขอรับบำนาญภายใน 10 ปีข้างหน้าจะได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 8% อย่างไรก็ตาม ผู้รับบำนาญในอนาคตบางรายอาจได้รับบำนาญน้อยลงเมื่อเทียบกับสูตรเก่า โดยเฉพาะรายที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีสุดท้ายของการส่งเงินสมทบ
3 ต.ค. 68 สำนักงานประกันสังคม ร่วมมือแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” (Application “Tang Rat”) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชน สามารถเข้าถึงข้อมูลและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของประกันสังคม ซึ่งผู้ประกันตนสามารถใช้บริการ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมบนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางภาครัฐ แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในงานบริการถึง 17 รายการ
1 ต.ค. 68 สำนักงานประกันสังคม เปิดรับฟังความเห็นจากผู้ประกันตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงการปรับสูตรการคำนวณใหม่ สำหรับบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ผ่านทางออนไลน์ระบบกลางทางกฎหมาย www.law.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 – 17 ต.ค. 68 และจะเปิดรับฟังความคิดเห็น 10 ต.ค.นี้
ล่าสุด จำนวนผู้ประกันตนทั่วประเทศล่าสุด ณ สิ้นเดือน ส.ค. 68 มีจำนวน 24.81 ล้านราย แบ่งเป็น มาตรา 33 จำนวน 12.14 ล้านราย และ มาตรา 39 จำนวน 1.64 ล้านราย และ ม.40 จำนวน 11.01 ล้านราย
ประกันสังคม เป็นการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มสมาชิกเพื่อรับผิดชอบการเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยมีคุณลักษณะ ดังนี้
- 1. เฉลี่ยทุกข์-เฉลี่ยสุข ซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิก
- 2. เงินสมทบที่เก็บไปจะสะสมเป็นกองทุน ให้สิทธิพิเศษเฉพาะผู้ส่งเงินสมทบ (ผู้ประกันตน) เท่านั้น
- 3. การเก็บเงินสมทบถือเป็นภาษีพิเศษ เก็บจากบุคคลที่กำหมายกำหนดเท่านั้น
มีเป้าหมายหลักที่จะทำให้ประกันสังคมสามารถครอบคลุมทุกตัวบุคคลของประชาชนในชาติ (Universal Coverage) ได้ในอนาคต
ประเทศไทยดำเนินการระบบประกันสังคมออกเป็น 2 กองทุน ได้แก่
1. กองทุนประกันสังคม
เป็นกองทุนที่ให้หลักประกันแก่ผู้ประกันตนให้ได้รับประโยชน์ทดแทน เมื่อต้องประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตาย ซึ่งไม่เนื่องจากการทำงาน รวมถึง คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน
โดยมีสิทธิประโยชน์ 7 กรณี (ไม่เนื่องจากการทำงาน) ได้แก่ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ว่างงาน คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร และชราภาพ
โดยแบ่งผู้ประกันตนออกเป็น 3 มาตรา ได้แก่
1. ผู้ประกันตน (มาตรา 33) ลูกจ้างผู้ซึ่งทำงานให้กับนายจ้างที่อยู่ในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ได้รับความคุ้มครองทั้ง 7 กรณี
2. ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา 39) เคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จ่ายเงินสมทบก่อนออกจากงานไม่น้อยกว่า 12 เดือน แล้วออกจากงานไม่เกิน 6 เดือนนับแต่วันที่ออกจากงาน และต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมต่อ ได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี (ไม่ได้รับกรณีว่างงาน)
3. ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา 40) ประกอบอาชีพอิสระหรือแรงงานนอกระบบไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือ 39 ได้รับความคุ้มครอง 3 – 5 กรณี ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่จ่าย
2. กองทุนเงินทดแทน
เป็นกองทุนที่จ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะหรือสมรรถภาพในการทำงานของร่างกาย ตายหรือสูญหาย อันเนื่องมาจากการทำงานให้แก่นายจ้าง โดยไม่คำนึงถึงวัน เวลา และสถานที่ แต่ดูจากสาเหตุ
มีสิทธิประโยชน์ 4 กรณี (เนื่องจากการทำงาน) ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนรายเดือน (รวม 4 กรณี ได้แก่ หยุดงาน สูญเสียสมรรถภาพในการทำงาน ทุพพลภาพ และตายหรือสูญหาย) ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน และค่าทำศพ