ThaiPBS Logo

รวมเงินกระจายก่อนเกษียณ ด้วย Pension Dashboard

7 เม.ย. 256810:18 น.
รวมเงินกระจายก่อนเกษียณ ด้วย Pension Dashboard
“การออมเพื่อการเกษียณ” อาจทำให้ใครหลายคนคิดถึงการลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณที่แตกต่างกันตามอาชีพของแต่ละคน

ไม่ว่าจะในรูปแบบของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนประกันสังคมของแรงงานในและนอกระบบ กองทุนเพื่อการออมแห่งชาติ (กอช.) ไปจนถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ซึ่งมีมากหลากหลายรูปแบบ ยังไม่นับรวมกับการออมเงินในระยะยาวรูปแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นบัญชีออมทรัพย์ บัญชีฝากประจำ หรือการเลือกซื้อทองคำหรือหุ้นที่มีอนาคตดี เพื่อให้ผลตอบแทนที่งอกเงยระหว่างเก็บออม

 

เงินออมที่กระจัดกระจายกับอคติเชิงพฤติกรรมที่ซ้ำเติม

แม้ข้อดีของการมีช่องทางที่หลากหลาย จะทำให้คนไทยมีทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการ และศักยภาพทางการเงินของแต่ละบุคคล แต่ในทางกลับกันช่องทางที่หลากหลายมักสร้างความสับสนให้กับคนทั่วไปได้เช่นเดียวกัน

จากการจัดทำ persona  หรือการสร้างบุคคลเสมือนเพื่อสะท้อนพฤติกรรมการออมของคนไทย ชี้ให้เห็นว่าการที่คนไม่ทราบสถานการณ์ทางการเงินของตัวเองจากช่องทางการออม และการลงทุนที่หลากหลาย (กระจัดกระจาย) ส่งผลต่อการวางแผนทางเงินในระยะยาว และยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขาดแรงจูงใจในการออมและการลงทุนระยะยาว รวมถึงส่งผลให้ขาดวินัยในการควบคุมค่าใช้จ่ายของตนเองได้เช่นกันในบางกรณี

ปัญหาการกระจัดกระจายของทางเลือกที่ส่งผลต่อการวางแผนทางการเงินระยะยาว ยังถูกซ้ำเติมจากอคติเชิงพฤติกรรมของคนทั่วไป ซึ่ง 89% ของกลุ่มตัวอย่างพบว่า คนไทย “กลัวไม่ได้ใช้เงิน” หรือมีลักษณะกลัวความสูญเสีย (Loss Aversion) จากการต้องเก็บออมเงินที่ควรจะใช้ได้ในปัจจุบันไปกับการเก็บเพื่อใช้ในอนาคต จึงเป็นผลให้บุคคลกลุ่มนี้เลือกที่จะใช้จ่ายมากกว่าเก็บออมเพื่ออนาคตนั่นเอง

นอกจากนั้นแล้วกลุ่มตัวอย่างกลุ่มนี้กว่า 53% ไม่รู้ถึงความสำคัญของพลังของดอกเบี้ยทบต้น (Exponential Growth Bias) ที่สามารถทวีมูลค่าของเงินฝากได้ในระยะยาว

 

 

จากข้อค้นพบทั้งสองแสดงให้เห็นว่าอคติเชิงพฤติกรรมของคนไม่ว่าการกลัวความสูญเสีย และการละเลยพลังของดอกเบี้ยทบต้น ประกอบกับการกระจัดกระจายของช่องทางการออมและการลงทุน เป็นความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความสามารถในการออมเพื่อการเกษียณในระยะยาวของคนทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จะดีเพียงใด หากทุกคนจะสามารถเห็นสถานะเงินออมของตัวเองใน “ปัจจุบัน” และ “อนาคต” ได้

หนึ่งในเครื่องมืออย่าง Pension Dashboard ที่เป็นเหมือนกระดานที่แสดงเงินออมเงินลงทุนสามารถตอบโจทย์นี้ได้ ซึ่งจะทำให้คนทั่วไปเข้าใจถึงสถานะทางการเงินของตนเอง และภาครัฐสามารถสนับสนุนการออม และการลงทุนเพื่อการเกษียณได้ อีกทั้งยังจะทำให้เห็นภาพรวม และสามารถคาดการณ์การลงทุนของประชาชนได้

 

ข้อมูลเงินออมที่ครบถ้วน ประโยชน์ที่ชัดเจนแก่ทุกฝ่าย

ดังนั้นการจัดทำ Pension Dashboard สำหรับคนไทยทุกคนที่สามารถรวบรวมข้อมูลเงินออม เงินลงทุน หรือสินทรัพย์ทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ เข้าด้วยกันจากฐานข้อมูลของภาครัฐทั้งในรูปแบบสวัสดิการ อย่าง กบข. กอช. หรือประกันสังคม รวมถึงฐานข้อมูลของเอกชนทั้งจากบัญชีเงินออม บัญชีกองทุน บัญชีสินทรัพย์ทางการเงินที่มีการลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์แหล่งต่าง ๆ ไปจนถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่แต่ละบุคคลมี จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้คนทั่วไปทราบถึงสถานะทางการเงินของตนเองในปัจจุบัน และวางแผนทางการเงินเพื่อคาดการณ์เงินออมเพื่อการเกษียณในอนาคต เพื่อการเตรียมพร้อมในการเกษียณอย่างมีคุณภาพ

ในมุมมองของภาครัฐ การจัดทำ​ Pension Dashboard เปรียบเสมือนการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพื่อรองรับการเข้ามาของสังคมสูงอายุในอนาคตที่การเตรียมเบี้ยผู้สูงอายุไม่เพียงพอต่อการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการ

ดังนั้นมาตรการที่ส่งเสริมการเตรียมการเกษียณในระดับบุคคลจึงจำเป็นอย่างยิ่ง โดยโครงสร้างพื้นฐานนี้สามารถเป็นได้ในลักษณะของฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงระหว่างสถาบันการเงิน กองทุนเพื่อการเกษียณต่าง ๆ ผ่านเลขประจำตัวประชาชน และเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบ API (ให้ระบบซอฟต์แวร์เชื่อมต่อกัน) เพื่อให้ผู้ให้บริการทางการเงินที่ใกล้ชิดกับประชาชน สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ และแสดงผลสำหรับแต่ละบุคคล (Personalization) บนแอปพลิเคชันทางการเงินที่ทุกคนใช้ในชีวิตประจำวัน

นอกจากนั้นแล้ว การจัดทำ Pension Dashboard ยังเป็นการรวบรวมฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการประมาณการความเพียงพอเงินออมยามเกษียณของแต่ละบุคคล ซึ่งภาครัฐสามารถใช้ข้อมูลชุดนี้ในการวางแผนและประมาณการณ์ความช่วยเหลือ เงินอุดหนุนต่าง ๆ ของภาครัฐให้ตรงกับความต้องการของบุคคล และเหมาะสมกับภาระทางการคลังของประเทศไทยในระยะยาวได้อีกด้วย

เห็นได้ว่าข้อเสนอการจัดทำ Pension Dashboard ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเป็นประโยชน์ทั้งในมุมมองของประชาชน และภาครัฐในคราวเดียวกัน

ในปัจจุบัน หลายประเทศทั่วโลกได้พัฒนา Pension Dashboards ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาการกระจัดกระจายของข้อมูลเกี่ยวกับเงินบำนาญ และช่วยเสริมสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับสถานะทางการเงินเพื่อการเกษียณ

จุดมุ่งหมายหลักของระบบเหล่านี้คือการจัดตั้งศูนย์กลางข้อมูลที่รวบรวมจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญภาครัฐ เงินบำนาญภาคเอกชน รวมถึงการออมส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง และตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดได้อย่างสะดวกในที่เดียว อีกทั้งยังช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการข้อมูล และส่งเสริมให้เกิดการวางแผนการเกษียณที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

จดหมายซองสีส้ม ตัวอย่างมาตรการในต่างประเทศ

การผลักดัน Pension Dashboards ให้เกิดขึ้นในระดับประเทศ พบว่าหลายประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลกมีการออกแบบแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับบริบท และความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งเงินบำนาญภาครัฐ (Pillar 1) เงินบำนาญภาคเอกชน (Pillar 2) และเงินออมส่วนบุคคล (Pillar 3) เพื่อให้ประชาชนสามารถมองเห็นภาพรวมทางการเงินหลังเกษียณได้อย่างครอบคลุม

โดยมีตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น ระบบ Pensions Dashboard ของสหราชอาณาจักร ซึ่งนอกจากแสดงข้อมูลเงินออมของแต่ละบุคคลแล้ว ยังช่วยค้นหาบัญชีเงินบำนาญที่อาจถูกลืมทิ้งไว้ได้อีกด้วย หรือระบบ PensionsInfo ของเดนมาร์กซึ่งครอบคลุมข้อมูลเงินฝากหรือเงินลงทุนถึง 99% ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการเชื่อมโยงข้อมูล

อีกตัวอย่างที่มีความน่าสนใจคือ ระบบจดหมายซองส้ม (The orange envelope) ของสวีเดนในการรายงานข้อมูลเงินลงทุนเพื่อการเกษียณให้กับประชาชนทั่วไป โดยแรกเริ่มนั้นจะเป็นในรูปแบบของซองจดหมายสีส้มที่ส่งให้กับพลเมืองสวีเดน โดยประมาณการณ์ผลตอบแทน และเงินบำนาญเมื่อผู้นั้นเกษียณ และยังระบุด้วยว่า เงินที่มีอยู่จะสามารถมีใช้อย่างเพียงพอไปจนถึงเมื่อไหร่ ในกรณีที่หยุดทำงาน และเริ่มรับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ผ่านมา

นอกจากนั้นระบบ minPension ยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการคำนวณรายได้ภายใต้สถานการณ์การออม และการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ ประเทศอย่างออสเตรเลีย และเม็กซิโกยังนำเทคโนโลยีมือถือ และระบบดิจิทัลมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการบัญชีเงินบำนาญ โดยมุ่งเน้นการลดต้นทุน และเพิ่มการเข้าถึงให้กับประชากรทุกกลุ่ม

 

ระบบจดหมายซองส้มที่มีข้อมูลเงินออมเพื่อการเกษียณของคนทั่วไปในสวีเดน

อาจถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องเร่งผลักดันการจัดตั้งระบบ Pension Dashboard อย่างเป็นรูปธรรม ในวันที่ช่องทางการออมของคนไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ “หวยเกษียณ” ซึ่งคาดการณ์ว่านักเสี่ยงโชคที่อาจเป็นผู้ออมหน้าใหม่จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นภาครัฐควรมีบทบาทหลักในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลการออม และการลงทุนที่กระจัดกระจายทั้งจากหน่วยงานรัฐ และเอกชนให้เป็นระบบเดียวกันอย่างครบถ้วน ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ระบบ API และเลขประจำตัวประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสถานะการเงินของตนเองได้แบบเรียลไทม์

การมีพื้นที่ส่วนกลางเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างวินัยทางการเงิน และการวางแผนเกษียณในระดับบุคคล แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ภาครัฐสามารถประเมินความเพียงพอของเงินออมยามเกษียณได้อย่างแม่นยำ วางแผนสวัสดิการได้ตรงจุด และบริหารภาระทางการคลังได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหากดำเนินการอย่างจริงจัง จะเป็นรากฐานสำคัญของระบบการเงินสำหรับสังคมสูงวัยในอนาคตอย่างแท้จริง

 


อ้างอิง

  • รายงานการวิจัยและนวัตกรรมฉบับสมบูรณ์ มาตรการที่ได้ผลในการส่งเสริมการวางแผนทางการเงินของประชากรไทยสำหรับสังคมอายุยืน, สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (2565)
  • จากการสำรวจแบบสอบถามด้วยชุดคำถามในการทดสอบ (experimental design survey) วัดอคติเชิงพฤติกรรมในประชากรกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้นมากกว่า 1,000 ตัวอย่าง อายุระหว่าง 20 – 40 ปี ครอบคลุมทั้งกลุ่มแรงงานในระบบที่มีนายจ้าง และแรงงานนอกระบบ ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน ถึง 28 ธันวาคม พ.ศ. 2565
  • https://commonslibrary.parliament.uk/research-briefings/cbp-8407/
  • https://www.pensions-expert.com/Law-Regulation/Outlook-2025-Dawn-of-the-Dashboards?ct=true
  • www.minpension.se/Media/MinPension/SVI/Dokument/This%20is%20minPension%20-%20in%20eng.pdf
  • www.oecd.org/content/dam/oecd/en/publications/reports/2024/12/oecd-pensions-outlook-2024_6ac7d5fd/51510909-en.pdf
  • www.sverigesradio.se/artikel/7155189

 

อ่านเพิ่มเติม 

 

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

สังคมสูงวัย

ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ผู้สูงอายุกลายเป็นนโยบายระดับรัฐบาลครั้งแรกที่มีบทบัญญัติไว้ว่าเป็นหน้าที่ของรัฐ จากนั้นมาทุกรัฐบาลก็มีนโยบายต่อประชากรผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และยิ่งสังคมไทยเริ่มเข้าสู่สังคมสูงอายุขั้นสุดยอด ทำให้รัฐบาลต้องมาดูแลมากยิ่งขึ้น

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5

ผู้เขียน: