ผ่านมาแล้ว 2 ปี กับนโยบายสถานชีวาภิบาล ความคืบหน้าวันนี้เป็นอย่างไร สถานการณ์การดูแลประคับประคองในไทยก้าวไปสู่จุดไหน ยังมีช่องว่างตรงไหนที่ต้องอุดรอยรั่วเพื่อให้คนไทยเข้าถึงการตายดี
ละครซีรีส์การุณยฆาต ออกอากาศทางช่องวัน 31 ได้รับความสนใจจากสังคมไทยเป็นอย่างดี ละครนี้ เกิดจากนิยาย เรื่องการุณยฆาต ประพันธ์โดยนักเขียนซึ่งเป็นแพทย์ผู้ทำงานด้านเวชศาสตร์ประคับประคอง หรือเรียกกันว่า “หมอพาลิ” ผู้ให้การดูแล Palliative care
ชีวิตและความตาย คนเรานั้นควรมีชีวิตแบบที่เรียกว่า “อยู่ก็สบาย ตายก็เป็นสุข” แต่จะตายอย่างเป็นสุขได้ก็ต้องมีการเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ยังไม่ตาย เช่นเดียวกับการมีชีวิตที่สุขสบายซึ่งก็ต้องมีการเตรียมตัวมาตั้งแต่วัยเยาว์ การเตรียมเพื่อการตายที่เป็นสุข จำเป็นต้องทำตั้งแต่ก่อนตายเมื่อชีวิตและร่างกายยังแข็งแรง
e-Living Will หรือ หนังสือแสดงเจตนา เริ่มมีความสำคัญและได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคมไทย จากความคิดที่ว่า "การตายเป็นสิทธิ"ของบุคคล ดังนั้นสามารถเลือกได้ว่าจะได้รับการดูแลหรือรักษาอย่างไร ขณะนี้ระบบมีความพร้อมเปิดให้สามารถจัดทำได้ผ่านเว็บไซต์กลาง
จากจุดเริ่มต้นของแนวคิดให้ทุกคนเข้าถึง “สิทธิการตายดี” สามารถใช้เวลาช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตให้จากไปอย่างไม่ทุกข์ทรมาน ยกระดับมาสู่ “นโยบายสถานชีวาภิบาล” ที่ดำเนินต่อเนื่องมาถึง 2 รัฐบาล แม้จะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่ยังมีหลายปัญหาที่ยังสะดุด ต้องช่วยกันเร่งแก้เพื่อให้นโยบายเดินหน้าต่อได้
การออกแบบนโยบายที่เน้นเพิ่มปริมาณสถานชีวาภิบาล ทั้งที่ระบบหลักมีอยู่แล้ว สะท้อนถึงปัญหา “การขาดความเชื่อมโยง” นโยบายรัฐบาลกับคนทำงานด้านชีวาภิบาล ทำให้สายพานการทำงานเต็มไปด้วยอุปสรรคและความสับสน เปิด 6 ข้อเสนอ “นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์” ให้คนไทยเข้าถึงสิทธิการตายดีได้อย่างแท้จริง
ครบ 1 ปีนับตั้งแต่มีการแถลงเดินหน้า "นโยบายสถานชีวาภิบาล" จากรัฐบาล "เศรษฐา" สู่ "แพทองธาร" ล่าสุดมีศูนย์ชีวาภิบาลและคลินิกผู้สูงอายุในระบบโรงพยาบาล-สถานชีวาภิบาลชุมชน-บ้านชีวาภิบาลเพิ่มแล้วทั่วประเทศ Policy Watch ชวนมองโอกาสและทิศทางต่อจากนี้สู่ภาพฝัน "สิทธิการตายดี" อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์