ThaiPBS Logo

บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

"สภาวะอากาศสุดขั้ว (Extreme Weather) ที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) และได้สร้างความเสี่ยงให้กับพี่น้องเกษตรกรไทยจำนวนมากที่รัฐบาลจะต้องเตรียมความพร้อมรับมือเพื่อลดผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของประชาชน" - คำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย. 2566

อ่านเพิ่มเติม

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ขั้นตอนเริ่มต้นนโยบาย ประกาศนโยบายต่อสาธารณะ

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

สนทช.เตรียมเสนอแผนการบริหารจัดการน้ำ 3 ปี ในสิ้นเดือนส.ค. 2567

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

อ่านเพิ่มเติม

สถานการณ์ล่าสุด 30 ก.ย. 2567

  • 30 ก.ย. 2567 หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือรุนแรงหลายจังหวัด หอการค้าฯมองว่าปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ที่เกิดขึ้นถี่และขยายวงกว้างมากขึ้น อีกทั้งยังสร้างผลกระทบโดยตรงต่อผลผลิตของภาคการเกษตรที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ขณะที่รัฐบาลต้องใช้งบประมาณในการบรรเทาความเสียหายและเยียวยาประชาชนในส่วนนี้กว่าปีละแสนล้านบาท ดังนั้น จึงเห็นว่าประเทศไทยควรมีการทบทวนและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเป็นระบบ
  • 5 ส.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เผยเตรียมประกาศแผนบริหารจัดการน้ำในระยะ 3 ปี พร้อมแผนงานระยะยาว เพื่อให้น้ำถึงไร่นา ทุกหมู่บ้านมีน้ำสะอาด เป็นการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านน้ำอย่างยั่งยืน โดยมีโครงการสำคัญ 5 ด้าน คือ การเพิ่มน้ำอุปโภคบริโภค การปรับปรุงและพัฒนาระบบกระจายน้ำ การพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝน การพัฒนาพื้นที่น้ำท่วม และป้องกันพื้นที่ชุมชน

มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/67 

แผนการผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2566 ประกอบด้วยแผนงาน 3 ด้าน รวม 9 มาตรการ ได้แก่ 

  • ด้านน้ำต้นทุน (Supply)
    • เผ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำ
    • ปฏิบัติการเติมน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ 
  • ด้านความต้องการใช้น้ำ (Demand) 
    • กำหนดแผนจัดสรรน้ำและพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
    • บริหารการจัดการน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญการใช้น้ำที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด
    • เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ประหยัดน้ำและลดการสูญเสียน้ำในทุกภาคส่วน
    • เฝ้าระวังและแก้ไขคุณภาพน้ำ
  • ด้านการบริหารจัดการ (Management)
    • เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำของชุมชน / องค์กรผู้ใช้น้ำ
    • สร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์
    • ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน

โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 2567

มีแผนงานที่เกี่ยวข้องในหลายด้าน เช่น การซ่อมและปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ การสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค การเพิ่มน้ำต้นทุนเพื่อรองรับภัยแล้ง และการเตรียมความพร้อมเครื่องมือเครื่องจักร

แผนงาน/โครงการรองรับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2566/67

ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้คาดการณ์พื้นที่เกษตรที่จะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2566/67 รวมประมาณ 16.51 ล้านไร่ แบ่งเป็น

  • ในเขตชลประทาน พื้นที่ไม่มีแผนปลูกข้าวนาปรัง ในลุ่มเจ้าพระยา รวม 22 จังหวัด พื้นที่ 7.34 ล้านไร่
  • นอกเขตชลประทาน พื้นที่ทำการเกษตรมีโอกาสเกิดภัยแล้ง รวม 60 จังหวัด พื้นที่ 9.17 ล้านไร่ แบ่งเป็น มีความเสี่ยงสูง 3.32 ล้านไร่ มีความเสี่ยงปานกลาง 2.07 ล้านไร่ และมีความเสี่ยงต่ำ 3.88 ล้านไร่

วงเงินงบประมาณ : 7,770.659 ล้านบาท 

ประกอบด้วย 4 แผนงาน ได้แก่ 

1. แผนงานสร้างรายได้ หรือ ลดภาระค่าใช้จ่าย หรืออื่นๆ ในพื้นที่ที่ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ โดยสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรดำเนินกิจกรรมทางการเกษตรที่ช่วยลดรายจ่ายและสร้างรายได้ในระยะสั้น

  • ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
  • ส่งเสริมการเลี้ยงปลาดุกในกระชังบก
  • ช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร

2. แผนงานการส่งเสริมการปลูกพืชทดแทน / อาชีพทางเลือก โดยจะส่งเสริมเกษตรกรปลูกพืชทดแทนนาปรัง โดยปลูกพืชใช้น้ำน้อยในช่วงฤดูแล้ง ให้สอดคล้องกับริมาณน้ำที่มี โดยไม่ต้องใช้น้ำจากระบบชลประทาน เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชตระกูลถั่ว การเลี้ยงจิ้งหรีด การเลี้ยงผึ้ง เป็นต้น

  • ส่งเสริมการจัดการพื้นที่เพื่อรองรับผลกระทบจากภัยแล้ง (พืชใช้น้ำน้อย)
  • ฝึกอาชีพเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้งด้านเกษตร
  • ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
  • ฝึกอบรมส่งเสริมการปลูกพืชระยะสั้นใช้น้ำน้อยด้วยระบบน้ำหยด
  • ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรให้สมาชิกสถาบันเกษตรกรอย่างยั่งยืน

3. แผนงานเพิ่มน้ำต้นทุน เพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคในครัวเรือน โดยการสนับสนุนให้สมาชิกสถาบันเกษตรกร/กลุ่มเกษตรกรรวมถึงเกษตรกร พัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน และปรับปรุงระบบกักเก็บน้ำให้เพียงพอ

  • สนับสนุนการบริหารจัดการน้ำชลประทาน เพื่อเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุน
  • พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน
  • ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรให้สมาชิกสถาบันเกษตรกรอย่างยั่งยืน
  • บริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้งและเอลนีโญ

4. แผนงานเพื่อเตรียมการในช่วงฤดูฝน ปี 2567 และในระยะต่อไป โดยการเตรียมการส่งเสริมการปลูกข้าวโดยวิธีเปียกสลับแห้งเพื่อการประหยัดน้ำ สำหรับขยายผลในช่วงฤดูฝน ปี 2567

  • ส่งเสริมการปลูกข้าวโดยวิธีเปียกสลับแห้งเพื่อการประหยัดน้ำ ฤดูกาลผลิต ปี 2566/67
  • ผลิตขยายเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่ว

ธนาคารน้ำใต้ดิน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำร่องธนาคารน้ำใต้ดิน จ.ชัยนาท หรือเรียกว่า “ชัยนาทโมเดล” โดยจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ช่วยให้เกษตรกรและประชาชนปรับตัวให้อยู่รอดจากน้ำท่วม-น้ำแล้ง นำน้ำขึ้นมาใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร และช่วยลดการพึ่งพาการสูบน้ำบาดาล

สำหรับจังหวัดชัยนาท จะมีการดำเนินโครงการธนาคารน้ำใต้ดินให้ครอบคลุมทั้งจัดหวัดรวมทั้งสิ้น 834 แห่ง และมีแผนการดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดชัยนาทเพิ่มเติมอีก 56 แห่ง ในปี 2567

 

แหล่งอ้างอิง

ภาพรวม

ลำดับเหตุการณ์

  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรุงเทพมหานคร น้ำจะไม่ท่วมรุนแรงเหมือนปี 2554 แน่นอน เพราะตอนนี้แม่น้ำเจ้าพระยาสามารถรับน้ำได้ 6,000 กว่าลูกบาศก์เมตร  ดูเพิ่มเติม ›

    8 ต.ค. 2567

  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการวางแผนบริหารจัดการนำระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งของประเทศ และร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน

    7 ต.ค. 2567

  • หอการค้าไทยเสนอรัฐบาลทบทวนและวางแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ หลังมีแนวโน้มน้ำท่วมและน้ำแล้งมากขึ้น  ดูเพิ่มเติม ›

    30 ก.ย. 2567

  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำงบประจำปีงบประมาณประจำปี 2567 งบกลาง 3,045 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567   ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คาดการณ์สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ไม่รุนแรงเหมือนปี 2554 แม้ว่าจะเกิดน้ำท่วมหลักในหลายจังหวัดภาคเหนือ  ดูเพิ่มเติม ›

    26 ส.ค. 2567

  • ครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง วงเงิน 9,187.4462 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน   ดูเพิ่มเติม ›

    13 ส.ค. 2567

  • นายกรัฐมนตรีประชุมการบริหารจัดการน้ำ เตรียมแถลงใหญ่แผนบริหารจัดการน้ำสิ้นเดือนส.ค.นี้  ดูเพิ่มเติม ›

    5 ส.ค. 2567

  • ครม.รับทราบมาตรการ กนช. รับมือฤดูฝน ปี 2567 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝนปี 2567 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี 2567/2568 พร้อมให้หน่วยงานดำเนินการ   ดูเพิ่มเติม ›

    4 มิ.ย. 2567

  • กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศสิ้นสุดฤดูร้อน และเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝน  ดูเพิ่มเติม ›

    20 พ.ค. 2567

  • อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มท. กำชับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนมาตรการรองรับฤดูแล้ง 66/67 ป้องกันการขาดแคลนน้ำและลดผลกระทบ

    11 ธ.ค. 2566

  • ที่ประชุมกนช. เห็นชอบ (ร่าง) มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 66/67 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 67 และให้ สทนช. เสนอ ครม. เพื่อทราบต่อไป

    26 ต.ค. 2566

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เผยนำร่องธนาคารน้ำใต้ดินที่ชัยนาท หวังป้องกันน้ำแล้ง

    14 ต.ค. 2566

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ลงพื้นที่ อุบลฯ ยโสธร และร้อยเอ็ด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    6 - 7 ต.ค. 2566

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ตั้งเป้า 3 เดือนสถานการณ์น้ำท่วม-น้ำแล้งต้องดีขึ้น

    4 ต.ค. 2566

  • แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นรายจังหวัด

    13 ก.ย. 2566

  • กระทรวงเกษตรฯ ประชุมซักซ้อมเตรียมพร้อมแผนรองรับภัยแล้ง ปี 2566/67 คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง 16.51 ล้านไร่

    21 ส.ค. 2566

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย


บทความ

ดูทั้งหมด
สทนช.เปิดแผนป้องกัน หวังแก้น้ำท่วมใต้ซ้ำซาก

สทนช.เปิดแผนป้องกัน หวังแก้น้ำท่วมใต้ซ้ำซาก

สทนช.เผยโครงการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งการระบบป้องกันและขยายพื้นที่กักเก็บ เพื่อลดผลกระทบ แต่จากสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจเป็นเรื่องท้าทายอีกครั้งว่าโครงการดังกล่าวจะเพียงพอหรือไม่

ชาวเชียงรายวาดภาพอนาคต จัดการภัยพิบัติยั่งยืน

ชาวเชียงรายวาดภาพอนาคต จัดการภัยพิบัติยั่งยืน

คนเชียงรายปรับบทบาทจาก “ผู้ประสบภัย” เป็น “ผู้มีส่วนร่วมตัดสินใจเชิงนโยบาย” ระดมความเห็นทุกภาคส่วนจากทั้งผู้ประสบภัยพิบัติ ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ สื่อ เอกชน และหน่วยงานรัฐ ผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายให้จังหวัดเชียงรายเป็นต้นแบบรับมือภัยพิบัติอย่างยั่งยืน พร้อมเสนอรัฐบาลให้การสนับสนุน

เกษตรเสียหาย 3.54 ล้านไร่ จากอุทกภัยปี 67

เกษตรเสียหาย 3.54 ล้านไร่ จากอุทกภัยปี 67

ช่วงสุดท้ายสภานการณ์น้ำท่วมปี 67 เสียหายแล้วกว่า 3 ล้านไร่ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเชียงราย สศช.แนะรัฐบาลเร่งเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในเรื่องบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานและระบบการเตือนภัย