การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เสนอตามความเห็นของสำนักงบประมาณ อนุมัติงบประมาณสำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณพ.ศ.2569 ภายในวงเงิน 265,295.58 ล้านบาท ลดลงจากข้อเสนอของคณะกรรมการ สปสช.เสนอของบประมาณ 272,583.32 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น
(1) ค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว สำหรับประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวน 47.5 ล้านคน วงเงิน 198,367.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ
พ.ศ. 2568 จำนวน 16,526.71 ล้านบาท คิดเป็น 9.09% คิดเป็นอัตราเหมาจ่ายรายหัว 4,175.99 บาทต่อผู้มีสิทธิ ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายของหน่วยบริการในส่วนเงินเดือนค่าตอบแทนบุคลากร ลดลงจากที่คณะกรรมการสปสช.เสนอไปที่ 4,298.24 บาท
(2) ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ประกอบด้วย ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ วงเงิน 3,651.76 ล้านบาท และค่าบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี วงเงิน 877.60 ล้านบาท รวมวงเงิน 4,529.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 319.92 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.60%
(3) ค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง วงเงิน 16,074.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 2,568.81 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.02%
(4) ค่าบริการควบคุม ป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง (ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน และผู้ป่วยโรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง) ประกอบด้วย 3 รายการ ได้แก่ งบบริการควบคุมป้องกันและรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง วงเงิน 1,355.31 ล้านบาท งบบริการผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน วงเงิน 132.15 ล้านบาท และงบบริการควบคุมสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง วงเงิน 73.013 ล้านบาท รวมวงเงิน 1,560.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 261.55 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.14%
(5) ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 1,490.29 ล้านบาท
(6) ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิ รวมวงเงิน 3,770.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 1,590.25 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72.94% ประกอบด้วย
- บริการด้วยทีมแพทย์ประจำครอบครัว วงเงิน 153.52 บาท
- บริการที่ร้านยา วงเงิน 701.46 ล้านบาท
- บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกโรงพยาบาล วงเงิน 199.15 ล้านบาท
- ค่าบริการสาธารณสุขระบบทางไกล (Telehealth/Telemedicine) 171.88 ล้านบาท
- บริการด้านยาและเวชภัณฑ์สำหรับการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ไปยังผู้ป่วยที่บ้าน วงเงิน 56.90 ล้านบาท
- บริการนวัตกรรมด้านทันตกรรม วงเงิน 719.13 ล้านบาท
- ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับหน่วยบริการร่วมให้บริการด้านการพยาบาล วงเงิน 1,101.59 ล้านบาท
- บริการนวัตกรรมการแพทย์แผนไทย วงเงิน 87.83 ล้านบาท
- บริการนวัตกรรมด้านเวชกรรม วงเงิน 483.93 ล้านบาท
- บริการนวัตกรรมด้านกายภาพบำบัด วงเงิน 95.07 ล้านบาท
(7) ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย
- ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล เมืองพัทยาและกรุงเทพมหานคร วงเงิน 3,870.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 1,348.11 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.45%
- ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน วงเงิน 5,514.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 2,614.12 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90.13%
- ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด วงเงิน 541.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 10.05 ล้านบาทหรือคิดเป็น 1.89%
(8) เงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการและผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการ วงเงิน 562.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 39.31 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.52%
(9) ค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรครายบุคคลและครอบครัว สำหรับคนไทยทุกคนทุกสิทธิ
- ค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคทั่วไป จำนวน 67.63 ล้านคน วงเงิน 27,761.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 2,377.96 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.37% ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายของหน่วยบริการในส่วนเงินเดือนค่าตอบแทนบุคลากร
- ค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและควบคุมป้องกันโรคไม่ติดต่อ (NCDs) จำนวน 6,215,900 คน วงเงิน 1,252.27 ล้านบาท
สำหรับงบประมาณบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ วงเงิน 2,306.49 ล้านบาท นั้น เห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะมอบหมายให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้ตามความจำเป็นเหมาะสม ประหยัดและสอดคล้องกับภารกิจการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
Social Participation กลไกนำทุกคนเข้าถึงระบบสุขภาพที่ดี