ปี 68 จะเป็นความท้าทายสำคัญของการบริหารจัดการน้ำของประเทศ เมื่อสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศมีความใกล้เคียงกับช่วงที่เกิด “มหาอุทกภัย“ ในปี 54 แม้ว่าที่ผ่านมา หลายหน่วยงานมีการพัฒนาเครื่องการติดตามและการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง แต่จากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ทำให้มีความเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมใหญ่
อุตุนิยมวิทยาโลก เตือนลานีญา กำลังกลับมาในช่วงปลายปี ส่งผลให้หลายพื้นที่ในเอเชียแปซิฟิกเกิดฝนตกหนัก ขณะที่ในไทย ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์คล้ายมหาอุทกภัยปี 54 จากพายุและฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนภาคเหนือเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับ 80% ความจุอ่าง
ปีนี้น้ำจะท่วมใหญ่ เหมือนปี 54 หรือไม่ เป็นคำถามทุกครั้งเมื่อฝนตกหนัก สำรวจสภาพอากาศปี 54 กับปีนี้ พบว่ามีแบบแผนคล้ายกัน เริ่มจากเปลี่ยนผ่านจาก "เอลนีโญ" สู่ "ลานีญา" และเข้าสู่ "เอ็นโซ" จนเกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ จับตา "ลานีญา" จะกลับมาอีกหรือไม่เหมือนปี 54 ดังนั้น ไม่อาจประมาทได้ว่าจะ"เอาอยู่"
สัญญาณเตือนกระทบจากเอลนีโญ ผลผลิตภาคเกษตรที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศลดลงถ้วนหน้า ทั้งสาขาพืชและประมง ส่งผลให้จีดีพีไตรมาส 2 ปี 2567 ติดลบ แต่คาดว่าครึ่งปีหลังดีขึ้นจากเอลนีโญสิ้นสุดลง
สภาพอากาศของประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน จากเอลนีโญ ไปสู่ลานีญา หรือเรียกว่า "เอนโซ่" คาดว่าสภาพอากาศยังร้อนกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อครั้งเจอปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรง และอาจจะเผชิญกับน้ำท่วม จากปริมาณฝนมากกว่าปกติ
โลกร้อน หรือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำลังส่งผลกระทบมากกว่าเรื่องอากาศร้อนจัดและการเปลี่ยนแปลงฤดูกาล แต่กำลังคุกคามถึงสุขภาพของคนไทย เมื่อพบว่าในปีที่ผ่านมา ไข้เลือดออกและไข้มาลาเรีย ระบาดหนักในเอเชีย รวมถึงไทย
ผลกระทบเอลนีโญรุนแรง คาดผลกระทบไทยแล้งหนัก ภัยแล้งต่อเนื่องถึงปี 2567 ขณะที่ปริมาณน้ำใช้การได้จริงทั่วประเทศ น้อยกว่าปีที่แล้งที่สุด
นโยบายสิ่งแวดล้อมแทบทุกรัฐบาล มักมีความสำคัญในลำดับรองหรือไม่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ในภาวะที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุค “โลกเดือด” และเกิด “ความแปรปรวน” ยากที่จะคาดการณ์ ดังนั้นจึงถึงเวลาที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง