ความเคลื่อนไหวล่าสุด
4 ก.พ. 68 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะกรรมการและเลขานุการ พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2568 – 2570) และระยะ 5 ปี
มีเป้าหมายที่มุ่งเน้นให้ค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และพื้นที่เผาไหม้ (Burnt scar) ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
28 ม.ค. 68 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ภายใต้มาตรการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2568 วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 620,691,360 บาท โดยมีรายละเอียดแยกรายหน่วยงาน ดังนี้
- กรมป่าไม้ วงเงิน 187,022,330 บาท
- กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช วงเงิน 433,669,030 บาท

24 ม.ค. 68 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย มีคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ให้บังคับใช้กฎหมาย กวดขันการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร หากพบให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที ขู่สั่งย้ายเข้ากรุง หากปล่อยให้มีการเผา โดยจะตรวจจุด HOT SPOT ในพื้นที่ว่ามากผิดปกติหรือไม่
24 ม.ค. 68 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ออกมาตรการเพื่อลดปัญหา PM 2.5 ดังนี้
1. รถไฟฟ้าทั้งบนดิน และใต้ดินให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่ 25 ม.ค.- 31 ม.ค. 68 โดยได้สั่งการให้องค์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ในสังกัดของกระทรวงคมนาคมให้บริการฟรี ทุกเส้นทาง
ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้เจรจากับผู้ประกอบการที่ให้บริการประชาชน ซึ่งได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้รถไฟฟ้าฟรีทุกสายในระยะ 7 วัน ตั้งแต่ 25-31 ม.ค. 68 สำหรับรายได้ของทางเอกชนที่สูญเสียไปนั้น ทางรัฐบาลจะชดเชยตามค่าเฉลี่ย 7 วัน รวมประมาณ 140 ล้านบาท โดยมาจากงบกลาง
2.เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ และลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล จึงให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ( ขสมก.) ให้ประชาชนใช้บริการรถเมย์ ฟรี ทุกสาย ในระยะเวลา 7 วันเช่นกัน ตั้งแต่ วันที่ 25 มกราคม ถึง 31 มกราคม 2568
3.กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ลงพื้นที่ตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 8 จุด ประกอบด้วย 1.บริเวณหน้าฟิวเจอพาร์ครังสิต 2.ท่าเรือคลองเตย 3.หน้าสวนจตุจักร ถ.พหลโยธิน 4. ถ.บางนา-ตราด กม.1 5. ถ.สุวินทวงศ์ หน้าการประปามีนบุรี 6. ถ.พระรามสอง ขาออก หน้าแขวงการทางบางขุนเทียน 7.ถ.รังสิต-นครนายก กม.4 หน้าโลตัส 8. ถ.บรมราชชนนี ขาเข้า -ออก โดยหลังจากนี้ จะให้เจ้าพนักงานกระจายตามจุดต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าควบคุมมลภาวะทางรถยนต์ให้ได้มากที่สุด
4.ให้ กรมทางหลวง(ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมต่าง ๆ เข้าบริหารจัดการพื้นที่ทันที เบื้องต้นให้ ผู้รับเหมาฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาดล้อรถที่เข้า – ออกพื้นที่ก่อสร้าง กวาดล้างถนนที่เปื้อนดินจากการก่อสร้าง ปิดคลุมวัสดุก่อสร้างในการเก็บกองและขนย้าย และจัดการขยะอย่างเหมาะสม ห้ามเผาเด็ดขาด นายจิรายุกล่าว
23 ม.ค. 68 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งสถานการณ์ฝุ่นรุนแรงในสัปดาห์นี้ ด้วยการใช้เทคนิคลดอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศผกผันด้วยการโปรยน้ำ และโปรยน้ำแข็งแห้ง โดยแผนปฏิบัติการของกรมฝนหลวงฯ จะทำการบินทุกวันในช่วงเช้าตั้งแต่ 10.00 น. และช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 14.00 น. ใช้เวลาบินประมาณ 20-30 นาที และนับเป็นปีแรกที่ใช้ทำฝนหลวงช่วย
29 ต.ค. 67 กทม.เตรียมใช้มาตรการห้ามรถบรรทุกดีเซล 6 ล้อขึ้นไป เข้าพื้นที่ชั้นใน 22 เขต ช่วงฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับสีแดง แต่เปิดทางให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 1 พ.ย.67 โดยมีเงื่อนไขจะต้องเข้ากระบวนการบำรุงรักษารถ ได้แก่ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรองอากาศ และการติดตั้งตัวกรองอนุภาคไอเสียดีเซล
ราชกิจจานุเบกษาประกาศประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2 ฉบับ ให้ช่วยและสนับสนุนในด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่า และด้านการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าที่ก่อให้เกิดผลกระทบหรือสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้ใช้เชียงใหม่โมเดลไปทุกจังหวัด ที่ดูแลฝุ่นควันได้ผลปีนี้ จากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีการประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฝ่ายความมั่นคง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกฝ่ายมีการร่วมมือ
- 19 ธ.ค. 2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการแก้ปัญหา PM2.5 พร้อมกำหนดตัวชี้วัดให้ผู้ว่าราชการทั้ง 17 จังหวัด ผลงานจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการลดปัญหาหมอกควัน PM 2.5
ยกเครื่องปรับแผน แก้ปัญหา PM 2.5 แบบยั่งยืน
วันที่ 16 ต.ค. 2566 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง คณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการ และมีกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานคณะกรรมการ มีผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นกรรมการ พร้อมเห็นชอบ มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปี 2567 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ทบบทวนมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน บรรเทาและแก้ไขปัญหามลพิษอันเกิดจาก PM 2.5
- ยกระดับเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ปี 2567
- เสนอให้มีกลไกการบริหารจัดการทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่
- กลไกการบริหารจัดการระดับพื้นที่ในรูปแบบศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่งหมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ
มาตรการ แก้ฝุ่น PM 2.5 คุมเชิงพื้นที่ – ปิดป่าจุดเสี่ยง
- กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการแก้ปัญหา เน้นพื้นที่เผาซ้ำซาก 50%
- ลดการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรลงให้ได้ร้อยละ 50 หรือ 3.25 ล้านไร่จากปี 2566 ที่มีพื้นที่เผาไหม้ 66% หรือ 6.5 ล้านไร่ ทั้งใน 10 ป่าอนุรักษ์ และ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ ด้วยการทำแนวกันไฟ และแนวกันคน
- จัดระเบียบการเก็บหาของป่า อนุญาตเฉพาะคนในพื้นที่ โดยต้องผ่านการลงทะเบียนรายบุคคลในพื้นที่
- ปิดป่าเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง
- ให้จัดการเชื้อเพลิงในช่วงเวลาที่เหมาะสม ตั้งจุดเฝ้าระวังเพื่อกระจายกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าป่า โดยเน้นป่าอนุรักษ์ต้องมีจุดตรวจและจุดสกัดเพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบเผาป่า และใช้หมู่บ้านเครือข่ายดับไฟป่าหรืออาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชรวมดับไฟป่า
- ลดจำนวนวันที่ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานต้องลดลงเป็นรายภาค เช่น 17 จังหวัดภาคเหนือ จาก 40% เป็น 30% ขณะที่ กทม.-ปริมณฑล และ ภาคกลาง ลดลงจาก 20% เป็น 5% ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จาก 10% เป็น 5%
มาตรการที่มาพร้อมกับ ‘การบังคับใช้กฎหมาย’
- บังคับใช้มาตรฐานน้ำมันยูโร 5 อย่างเป็นทางการ 1 มกราคม 2567 ในเมืองใหญ่
- มีมาตรการตรวจอย่างเข้มข้น ทั้งการเพิ่มจุดตรวจสอบ ตรวจจับควันดำให้ครอบคลุมพื้นที่วิกฤต เข้มงวดวินัยการจราจร ใช้อัตราโทษสูงสุด
- ดำเนินการเชิงรุกในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ห้ามไม่ให้มีการเผาเด็ดขาด
- ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน และจัดตั้งศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PHEOC) ในทุกระดับ
- ยกระดับการเจรจาให้เข้มข้นจากระดับภูมิภาคอาเซียนไปสู่ระดับทวิภาคี และใช้เงื่อนไขทางการค้า ใช้การสื่อสารเชิงรุกแจ้งเตือน และตั้งคณะกรรมการแห่งชาติ เพื่อสั่งการระดับชาติสู่ศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดแบบถาวร
แจ้งเตือนประชาชน – ประกาศ WFH ลดฝุ่นรายวัน
กทม. มีการแจ้งเตือนในระกับท้องถิ่น และลดฝุ่นจากแหล่งกำเนิด ไม่ว่านะเป็นจากการจราจร การก่อสร้าง หากจำนวนวันและฝุ่นเกิน 15 เขต อยู่ในระดับสีแดง จะให้มีมาตรการทำงานที่บ้าน (Work From Home) โดยมีแนวทางการแจ้งเตือน 4 ระดับ-ส่ง SMS ถึงประชาชน ดังนี้
- ระดับที่ 1 รายงานประจำวัน
ให้รายงานสถานการณ์และผลการคาดการณ์ปริมาณ PM 2.5 ทุกวันของช่วงเวลา 14.00 น. เพื่อให้ประชาชนได้ทราบแนวทางการปฏิบัติตัวผ่านช่องทางเฟซบุ๊กของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) และสื่อต่างๆ
- ระดับที่ 2 รายงานประจำสัปดาห์
ให้รายงานการพยากรณ์สถานการณ์ฝุ่น 7 วันล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชนสามารถวางแผนล่วงหน้าในการปฏิบัติตัวช่วงอาทิตย์นั้น โดยจะเป็นการรายงานร่วมกัน 4 หน่วยงาน คือ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด และกรมประชาสัมพันธ์
- ระดับที่ 3 รายงานกรณีพิเศษเมื่อมีเหตุการณ์วิกฤติ
หากสถานการณ์ PM 2.5 เข้าขั้นส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ หรือมีเหตุการณ์สำคัญ เช่น ปัญหาหมอกควันข้ามแดนเข้ามามีผลกระทบต่อประเทศไทย จะให้ ศกพ. รายงานสถานการณ์ต่อประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบและแนวทางการปฏิบัติตน
- ระดับที่ 4 กรณีมีประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ
จะให้สื่อสารและจัดเสวนา ศกพ.จะเชิญนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆมาให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ นอกจากนี้ให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อเพิ่มการแจ้งเตือนประชาชนในระบบ SMS Alert มาใช้สำหรับแจ้งเตือนประชาชนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
แหล่งอ้างอิง