ความเคลื่อนไหวล่าสุด
1 ต.ค. 68 การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติขยายเวลารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วง เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 2568 จากเดิมที่จะสิ้นสุด 30 ก.ย. นี้
ทั้งนี้ ระหว่างนี้ มีระยะเวลา 2 เดือน นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินการหาวิธีการที่ยั่งยืน เพื่อลดภาระกับประชาชน ไม่เป็นภาระกับภาครัฐ โดยหาวิธีที่เหมาะสม และให้นำกลับมาเสนอครม.ภายใน 2 เดือน
30 ก.ย. 68 ปิดฉากรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายตั้งแต่ 1 ต.ค.68 รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่เริ่มระยะแรกตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2566 และในปีที่ 2 สิ้นสุดมาตรการ วันที่ 30 ก.ย. 2568 และทั้ง2 สายต้องกลับไปเก็บค่าโดยสารในอัตราปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568
สำหรับอัตราค่าโดยสารตาม รถไฟชานเมืองสายสีแดง เริ่มต้น 12 บาทสูงสุด 42 บาท และมีส่วนลดสำหรับ นักเรียน เริ่มต้น 11 บาท สูงสุด 35 บาท ผู้สูงอายุ เริ่มต้น 6 บาท สูงสุด 21 บาท ซึ่งผู้ให้บริการจะนำบัตรโดยสารรายเดือนกลับมาจำหน่าย ประหยัดสุด 50 เที่ยว 1,250 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 25 บาท
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีค่าโดยสารสำหรับบุคคลทั่วไป เริ่มต้น 14 บาท สูงสุด 42 บาท ส่วนเด็กและผู้สูงอายุ ได้รับส่วนลด 50% ส่วนนักเรียน นักศึกษา ได้รับส่วนลด 10%
9 ก.ย . 68 อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทของรัฐบาลเพื่อไทยอาจไม่ได้เดินหน้าต่อไป เนื่องจากต้องมาดูว่า บางโปรเจ็กต์ทำแล้วขาดทุน หรือต้องไปซื้อมาก็ไม่ได้ พร้อมย้ำว่าต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง และโครงการต้องอยู่รอดและพึ่งพาตัวเองได้
“ไม่ใช่ 20 บาท แล้วมานั่งหาส่วนต่างทุกปี ตั้งเป็นงบประมาณ มันไม่ใช่ หรือไปซื้อกิจการจากลงทุนมา ก็ไม่ใช่เพราะคนที่ลงทุนก็ต้องเสี่ยง”
8 ก.ย. 68 วุฒิสภารับร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. และ ร่าง พ.ร.บ. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่..) พ.ศ. ตั้ง กมธ.วิสามัญ มีกำหนดเวลาแปรญัตติภายใน 7 วันทำการ
ทั้งนี้ เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สว. กล่าวว่า นโยบาย 20 บาทตลอดสายที่รัฐบาลชุดที่แล้วประกาศว่าจะทำให้ได้ภายในเดือน พ.ย. นี้ เป็นกำหนดการเพื่อคะแนนนิยมทางการเมือง แต่หากพิจารณาแล้วอาจทำไม่ทัน และภายใน 4 เดือนของนายกฯ คนใหม่เป็นที่น่ากังวลว่า จะทำทันหรือไม่ หากไม่ทันอาจจะต้องยืดไปเป็นการเลือกตั้งสมัยหน้า
21 ก.ค. 68 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ว่า ภายในวันที่ 1 ต.ค. ประชาชนได้ใช้แน่นอน โดยครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 8 สาย รวม 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 276.84 กิโลเมตร ทั้งสิ้น 194 สถานี
ทั้งนี้ ได้ประชุมหารือร่วมกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะทำงานรวมถึงภาคเอกชนผู้ได้รับสัมปทาน โดยในที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน
สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ.…. ในการตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม จะเตรียมนำเข้าในสภาฯ ภายในวันที่ 7 ส.ค. และจะดำเนินการทูลเกล้าฯ พร้อมกับออกกฎหมายลูกในการบังคับใช้ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อไป
ส่วนแหล่งเงินทุนหลังจากแก้ไข พ.ร.บ.ตั๋วร่วมแล้ว ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมงลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)จะนำรายได้สะสมส่งเข้ากระทรวงการคลัง และนำเข้ากองทุนภายใต้ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม เพื่อนำเงินไปชดเชยส่วนต่างของรายได้ค่าโดยสารให้แก่ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ จากการเก็บค่าโดยสารในอัตรา 20 บาทตลอดสาย
ในส่วนของมูลค่าการชดเชยนั้น จะประเมินจากจำนวนผู้ใช้บริการ ซึ่งจำนวนเงินชดเชยนั้นมั่นใจว่ามีเพียงพอในการใช้ดำเนินการ
ช่วงหาเสียง
นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย หรือมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสาย เป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเน้นย้ำถึงเรื่องการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ จะต้องสะดวกและปลอดภัย บนเวทีปราศรัย ”คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ“ เมื่อ 24 มี.ค. 66
ในรายละเอียดนโยบายหาเสียง ตามมาตรา 57 พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของพรรคเพื่อไทย ระบุวงเงินที่ต้องใช้ 40,000 ล้านบาท + 8,000 ล้านบาทต่อปี (ใช้การบริหารงบประมาณปกติ) ที่มาจากการบริหารระบบงบประมาณ การบริหารระบบภาษี เงินกู้ และเงินนอกงบประมาณ
นโยบายรัฐบาล
แม้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะไม่ปรากฎในคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย. 2566 แต่ก็มีการชี้แจงจาก สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ต่อรัฐสภา ในวันเดียวกัน ถึงนโยบายดังกล่าว โดยประกาศ
- เส้นทางการเดินรถของรัฐ ได้แก่ สายสีแดง และสายสีม่วง นำร่องผลักดันภายใน 3 เดือน
- เส้นทางอื่น ๆ ทุกเส้นทาง ภายใน 2 ปี
ครม. อนุมัติมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ตลอดสาย สำหรับ
- รถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
- สายนครวิถี (บางซื่อ – ตลิ่งชัน)
- สายธานีรัถยา (บางซื่อ – รังสิต)
- รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง : เตาปูน – คลองบางไผ่) ของการไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
- สามารถเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง-แดง ได้ที่สถานีบางช่อน ภายในระยะเวลา 30 นาที โดยต้องใช้บัตรโดยสารใบเดียวกันหรือบัตร EMV Contactless เท่านั้น
มีผลจนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2567
สถานการณ์ปัจจุบัน
- นโยบายอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566 – 14 มีนาคม 2567 (5 เดือน) ในภาพรวมทั้งสายสีแดง และสายสีม่วง พบว่า มีผู้โดยสารใช้บริการรวม 2 สาย เฉลี่ยวันละ 92,714 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 17.94% จากเดิมก่อนมีมาตรการฯ ทั้ง 2 สายรวมกัน มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 78,611 คน-เที่ยว
- รถไฟชานเมืองสายสีแดง ทั้งสายกรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน และสายกรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 27,683 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากก่อนมีมาตรการฯ 27.97% ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 21,632 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง ช่วงเตาปูน – คลองบางไผ่ พบว่า มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 65,179 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากก่อนมีมาตรการฯ 14.39% ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 56,979 คน-เที่ยว
ผลกระทบ
- มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องใช้งบประมาณอุดหนุนส่วนต่างค่าโดยสารรถไฟฟ้าปีละประมาณ 130 ล้านบาท