ThaiPBS Logo

การเกษตร การเกษตร

นโยบายภาคการเกษตรที่สำคัญของรัฐบาล ภายใต้หลักการ "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าเกษตรกรทั้งประเทศจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 4 ปี โดยมาตรการที่เป็นรูปธรรมที่ประกาศในนโยบายของรัฐบาลเป็นมาตรการด้านด้านเงิน "พักหนี้เกษตรกร" และ การจักสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร

อ่านเพิ่มเติม

ตามนโยบายด้านการเกษตรของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ยังมุ่งเน้นไปที่การลดภาระและเพิ่มรายได้ของเกษตรกรเป็นสำคัญ รวมทั้งเรื่องที่ดินทำกินของเกษตรกรในพื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดิน(สปก.) และที่ดินในการดูแลของกระทรวงกลาโหม

เกษตรกรมีหนี้สูง

ระบบเศรษฐกิจคือภาคการเกษตร ประชากรจำนวนไม่น้อยของประเทศไทยกว่า 10 ล้านคน หรือราว 1 ใน 3 ของก าลังแรงงาน อยู่ในภาคนี้ที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงชีพ แต่กลับสะท้อนออกมาเป็นมูลค่าเพียงร้อยละ 7 ต่อ GDP ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารูปแบบการทำการเกษตรที่ยังคงพึ่งพาวัฏจักรธรรมชาติและมีประสิทธิภาพของผลผลิตต่ำแต่ค่าใช้จ่ายในการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้เกษตรกรไทยมีหนี้สินเฉลี่ยครัวเรือนละกว่า 3 แสนบาท

นโยบายเร่งด่วนพักหนี้ 3 ปี

นโยบายแรก คือ การแก้ปัญหาหนี้สินทั้งในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน รัฐบาลจะลดภาระพี่น้องเกษตรกรด้วยการพักหนี้เกษตรกรตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการช่วยประคองภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงินสำหรับภาคประชาชนที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ได้มีโอกาสในการฟื้นตัวและกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง นอกจากนี้รัฐบาลจะมีมาตรการ ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของกลุ่มอื่น ๆ ภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัดต่อวินัยทางการเงินและไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม (Moral Hazard) ของผู้มีภาระหนี้สิน

ตลาดนำ-นวัตกรรมเสริม-เพิ่มรายได้

สำหรับประชาชนในภาคการเกษตร รัฐบาลจะสร้างรายได้ในภาคการเกษตรโดยใช้หลักการ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ โดยการสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคการเกษตรควบคู่ไปด้วยกัน จะมีการบูรณาการองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ ใช้การบริหารจัดการแปลงเกษตร

ด้วยนวัตกรรมเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) การวิจัย พัฒนาพันธุ์ เพื่อเพิ่มผลผลิตและเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนต่อไร่ให้สูงขึ้น ตลอดจนการหาตลาดให้สินค้าเกษตรได้ขายในราคาที่เหมาะสม สนับสนุนให้เปลี่ยนแปลงการปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและเศรษฐกิจ และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลจะฟื้นชีวิตอุตสาหกรรมประมงให้กลับมาเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประชาชนอีกครั้งด้วยการแก้ไขข้อกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายให้เหมาะสมอันเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลให้อยู่กับประเทศอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการภาคการเกษตรที่ครบถ้วนทุกด้านตั้งแต่ดิน น้ำ พันธุ์พืชพันธุ์สัตว์กลไกราคา แหล่งเงินทุน นวัตกรรม และกรรมสิทธิ์ที่ดินของเกษตรกรผู้ปลูกพืช ผู้เลี้ยงปศุสัตว์ และกลุ่มประมง มีเป้าหมายทำให้รายได้ของเกษตรกรทั้งประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในระยะเวลา 4 ปี

ใช้ประโยชน์ที่ดินกองทัพ

ภายใต้นโยบาย “พัฒนาร่วมกับกองทัพ” รัฐบาลจะนำพื้นที่ของหน่วยทหารที่เกินความจำเป็นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะการใช้เพื่อการเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค การเพิ่มพูนความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และการใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมของประเทศ

นโยบายภาคการเมือง

นโยบายป่าไม้แห่งชาติ

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ดำเนินงาน
  • ตรวจสอบ
  • ประเมินผล

ความสำเร็จของนโยบาย

พื้นที่ป่า
อย่างน้อยในอัตราร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ แบ่งเป็น ป่าอนุรักษ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ ป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละ 15
การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์
เพื่อให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ที่เหมาะสมกับความสมดุลของระบบนิเวศและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
การมีส่วนร่วม
บริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานองค์ความรู้และนวัตกรรม และกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ทหาร

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ดำเนินงาน
  • ตรวจสอบ
  • ประเมินผล

ความสำเร็จของนโยบาย

จัดสรรที่ดินของกองทัพ
นำร่อง 3 จังหวัด คือ อุดรธานี 20,000 ไร่ กาญจนบุรี 3,000 ไร่ และป้อมพระจุลจอมเกล้า 300 ไร่
วันที่: 31 ต.ค. 2566
ขั้นตอนดำเนินการ
กองทัพบกร่วมกับกรมธนารักษ์ สำรวจและทำสัญญา โดยให้ประชาชนทำสัญญาเช่าในราคาถูก
แก้ปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่ทหาร
เป็นเพียงส่วนน้อยจากพื้นที่ของกองทัพที่อยู่ในเป้าหมายจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร

แจกโฉนดที่ดิน ส.ป.ก.

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ดำเนินงาน
  • ตรวจสอบ
  • ประเมินผล

ความสำเร็จของนโยบาย

โฉลดเพื่อการเกษตร
เปลี่ยนที่ดินในพื้นที่ส.ป.ก. เป็นโฉนด สำหรับประชาชนในพื้นที่ เป็นโครงการแจก "โฉนดเพื่อการเกษตร"
กำหนดเกณฑ์ผู้มีสิทธิ
การจัดที่ดินยังคงเป็นไปเพื่อประกอบเกษตรกรรมตามศักยภาพของพื้นที่ โดยสามารถเปลี่ยนมือได้ระหว่างเกษตรกรที่มีคุณสมบัติด้วยกันตามที่กฎหมายกำหนด ต้องปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ตามสัดส่วนที่ ส.ป.ก. กำหนด สามารถใช้ค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินได้ทุกแห่ง โดยเฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ ต้องถือครอง ส.ป.ก. 4-01 และทำประโยชน์มาไม่น้อยกว่า 5 ปี
แก้ปัญหาไม่มีที่ดินทำกิน
ช่วยแก้ปัญหาเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกินและไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลต้องการออกเอกสารสิทธิ์ 50 ล้านไร่

พักหนี้เกษตรกร

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ดำเนินงาน
  • ตรวจสอบ
  • ประเมินผล

ความสำเร็จของนโยบาย

ลูกหนี้รายย่อยที่เป็นเกษตรกร
2.69 ล้านราย คิดเป็น 70% ของลูกหนี้รายย่อยธ.ก.ส. รายละไม่เกิน 300,000 บาท มูลหนี้รวมประมาณ 280,000 ล้านบาท
เปิดเข้าร่วมโดยสมัครใจ
สมัครใจเข้าร่วมโครงการ โดยมีการประเมินทุกปี และมีการฝึกอบรมเพิ่มทักษะหารายได้เพิ่ม
แก้ปัญหาหนี้เกษตรกร
เป้าหมายแก้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรรายย่อย โดยตั้งเป้าหมายจะมีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังเสร็จสิ้นโครงการ

แก้กฎหมายประมง

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ดำเนินงาน
  • ตรวจสอบ
  • ประเมินผล

ความสำเร็จของนโยบาย

ฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมง
เพื่อแก้ปัญหาข้อกฎหมายในอุตสาหกรรมการประมง ที่ออกมาควบคุมการทำประมงของไทยจากรัฐบาลก่อน
ออกฎหมายการประมงฉบับใหม่
ร่างกฎหมายและเสนอครม. จากนั้นจะเสนอสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผ่านร่างกฎหมาย
ปัญหาอุตสาหกรรมประมง
ยังมีข้อขัดแย้งต่อการทำประมงไทย ทั้งการใช้แรงงานและการจับปลาผิดกฎหมาย

บทความ/บทวิเคราะห์

ดูทั้งหมด
แนวเขตทับลาน เทียบแผนที่3ฉบับ เหลือพื้นที่เท่าไร

แนวเขตทับลาน เทียบแผนที่3ฉบับ เหลือพื้นที่เท่าไร

ปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ เมื่อประกาศเขตอุทยานแห่งชาติและมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งภาครัฐพยายามแก้ไขด้วยการ "ขีดเส่นแบ่ง" เพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่ที่สำคัญคือ มีการใช้แผนที่หลายฉบับ ทำให้เกิดปัญหาว่าจะใช้แผนที่ฉบับไหน แม้แต่หน่วยงานรัฐ
เปิดบันทึกบอร์ดอุทยาน ค้านผู้ตรวจการแผ่นดิน “เฉือนป่าทับทาน”

เปิดบันทึกบอร์ดอุทยาน ค้านผู้ตรวจการแผ่นดิน “เฉือนป่าทับทาน”

เปิดผลการประชุมบอร์ดอุทยานแห่งชาติ ครั้งหลังสุดเมื่อปี 2563 ค้านแนวทางผู้ตรวจการแผ่นดิน เพิกถอนแนวเขตทับลานบางส่วน เผยเสี่ยงกระทบมรดกโลกและการดำเนินคดีบุกรุกป่า โดยเฉพาะพวกนายทุนกลุ่มรีสอร์ทและโรงแรม เทียบความแตกต่างพื้นที่อุทยานจากแผนที่ 3 ฉบับ หากใช้ One Map ผืนป่าทับลานจะเหลือราว 1.1 ล้านไร่
ฟ้องศาลปกครอง”คุ้มครอง” ช่องทางทุนบุกรุกพื้นที่ป่า

ฟ้องศาลปกครอง”คุ้มครอง” ช่องทางทุนบุกรุกพื้นที่ป่า

ประเด็นความขัดแย้งการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทเข้าไปก่อสร้างกันได้อย่างไร จนเกิดการบุกรุกโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจากการประชุมบอร์ดอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2563 พบว่าผู้ประกอบการใช้วิธียื่นศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราว