ThaiPBS Logo

นโยบายป่าไม้แห่งชาติ

นโยบายป่าไม้แห่งชาติ กำหนดให้มีการบริหารจัดการป่าไม้ของประเทศอย่างสมดุล และนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยกำหนดให้มีพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศอย่างน้อยใน 40% ของพื้นที่ประเทศ และให้มีกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

อ่านเพิ่มเติม

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2562 เห็นชอบร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติ

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

ขั้นตอนดำเนินงานตามนโยบายที่ประกาศไว้

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

อ่านเพิ่มเติม

คณะรัฐมนตรีมีมติ (6 พ.ย. 2562) เห็นชอบร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ประกอบด้วย (1) วัตถุประสงค์ของนโยบายป่าไม้แห่งชาติ 4 ประการ และ (2) บทบัญญัตินโยบายป่าไม้แห่งชาติ จำนวน 24 ข้อ ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการป่าไม้ ด้านการใช้ประโยชน์ผลิตผลและการบริการจากป่าไม้และอุตสาหกรรมป่าไม้ และด้านการพัฒนาระบบบริหารและองค์กรเกี่ยวกับการป่าไม้

ต่อมาคณะอนุกรรมการจัดทำร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติและร่างแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ ได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ. 2560 ที่กำหนดให้มีการทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติทุกสามปี (ครบกำหนดที่ต้องทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติครั้งแรกในเดือน พ.ย. 2565) โดยคำนึงถึงหลักการสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ที่เป็นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ

ดังนั้น จึงต้องมีกลไกในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ซึ่งผลการทบทวนปรากฏว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องปรับปรุงนโยบายดังกล่าว โดยให้คงวัตถุประสงค์และบทบัญญัติของนโยบายป่าไม้แห่งชาติไว้เช่นเดิม เนื่องจากยังคงมีความเหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

ประกอบกับขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติผ่านแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติและถ่ายทอดสู่แผนของหน่วยงานเพื่อปฏิบัติตามแผนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป และคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ (คปช.) ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2566 มีมติเห็นชอบผลการทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติดังกล่าวด้วยแล้ว

วัตถุประสงค์ของนโยบายป่าไม้แห่งชาติ 4 ประการ 

  • เพื่อให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ที่เหมาะสมกับความสมดุลของระบบนิเวศและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
  • เพื่อหยุดยั้งและป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพื่อให้มีการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเหมาะสม ยั่งยืน เป็นธรรม และเป็นฐานการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยคำนึงถึงดุลยภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
  • เพื่อให้ระบบบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานองค์ความรู้และนวัตกรรม รวมทั้งกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

บทบัญญัตินโยบายป้าไม้แห่งชาติ

ด้านการจัดการป่าไม้

(1) เชื่อมโยงการทำงานของภาครัฐในการบริหารจัดการป่าไม้ทุกระดับให้มีเอกภาพและประสานกันตามห่วงโซ่การพัฒนาระหว่างการบริหารราชการทุกระดับ รวมทั้งมีการประสานความร่วมมือและพัฒนากลไกหรือเครื่องมือในการสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการในลักษณะหุ้นส่วนการพัฒนาป่าไม้ของชาติในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยดำเนินการอย่างมีเป้าหมายและต่อเนื่อง

(2) กำหนดให้มีพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศอย่างน้อยในอัตราร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ ประกอบด้วย
– ป่าอนุรักษ์ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ
– ป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 15 ของพื้นที่ประเทศโดยกำหนดให้เพิ่มและพัฒนาพื้นที่ป่าไม้ ทั้งป่าอนุรักษ์ ป่าเศรษฐกิจ และป่าชุมชน ให้ได้ตามเป้าหมายภายใต้กรอบเวลาที่กำหนดในแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ

(3) จำแนกพื้นที่ป่าไม้เพื่อการบริหารจัดการในภาพรวมของประเทศและระดับพื้นที่ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการบริหารจัดการและการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้ในแต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสม

(4) ปรับปรุงแนวเขตที่ดินป่าไม้ทุกประเภทของรัฐให้ชัดเจนและมีเอกภาพด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

(5) พัฒนาระบบสารสนเทศทรัพยากรป่าไม้ทั้งในภาพรวมของประเทศและระดับพื้นที่ให้มีมาตรฐาน เอกภาพ ทันต่อสถานการณ์ ครอบคลุมพื้นที่ป่าไม้ทุกประเภท และเชื่อมโยงกับข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม และทรัพยากรอื่นของประเทศและกำหนดหน่วยงานหรือคณะบุคคลผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนและเหมาะสม

(6) ส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทและหน้าที่ของทุกภาคส่วนให้มีจิตสำนึกและมีส่วนร่วม รวมทั้งรับผิดชอบในการอนุรักษ์ การจัดการ และการพัฒนาทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

(7) หยุดยั้งและป้องกันการทำลายทรัพยากรป่ไม้ในที่ดินป่าไม้ของรัฐทุกรูปแบบให้มีประสิทธิภาพ โดยกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินงานที่ชัดเจน

(8) บริหารจัดการป่าอนุรักษ์เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งป้องกันภัยธรรมชาติต่าง ๆ และรักษาสภาพธรรมชาติที่สวยงามหรือมีจุดเด่นเฉพาะตัว โดยให้คงไว้ซึ่งสภาพธรรมชาติรักษาดุลยภาพของระบบนิเวศให้มากที่สุด ซึ่งการใช้ประโยชน์ต้องกระทำเท่าที่จำเป็นตามศักยภาพหรือขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ ตลอดทั้งเพื่อประโยชน์ในการศึกษา การวิจัย และนันทนาการ

(9) จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการครอบครองหรือใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้ของรัฐอย่างเหมาะสม เป็นธรรม ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าไม้และสิ่งแวดล้อมจากการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้ โดยให้แล้วเสร็จภายใต้กรอบเวลา

(10) พัฒนากลไกทางเศรษฐศาสตร์และการตลาดเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรป่าไม้อย่างเหมาะสม

(11) ฟื้นฟูป่าไม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้มีความสมบูรณ์ โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการฟื้นฟูอย่างชัดเจนและต่อเนื่องมีการติดตาม ประเมินผล และเผยแพร่ผลการดำเนินงานต่อสาธารณะบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและกำหนดความรับผิดชอบของหน่วยงานภาครัฐทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น

(12) ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการป่าชุมชนให้มีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยประโยชน์ต่อชุมชน สร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ป่าไม้ของประชาชน เป็นส่วนส่งเสริมให้ชุมชนและท้องถิ่นเข้มแข็ง และเป็นการพัฒนาทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

(13) พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าทั้งระบบ รวมทั้งแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่าอย่างเป็นรูปธรรม และสัตว์ป่าได้รับการคุ้มครอง รักษา และใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมเพื่อพัฒนาระบบนิเวศ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศ

ด้านการใช้ประโยชน์ผลิตผลและการบริการจากป่าไม้และอุตสาหกรรมป่าไม้

(1) ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจทั้งในที่ดินของรัฐที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์และในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่มิใช่ของรัฐให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไม้ และตอบสนองต่อการใช้ประโยชน์ในทุกภาคส่วน

(2) ส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ใช้ผลิตผลจากป่าไม้ครบวงจรในทุกระดับและพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรป่าไม้อย่างเหมาะสมและเป็นรูปธรรม

(3) พัฒนาและส่งเสริมการรับรองป่าไม้ตามมาตรฐานการรับรองป่าไม้ให้เป็นที่ยอมรับและ ได้รับการรับรองทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

(4) ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์การบริการจากป่าไม้อย่างสมดุล ยั่งยืน และเกื้อกูล ระบบนิเวศ

ด้านการพัฒนาระบบบริหารและองค์กรเกี่ยวกับการป่าไม้

(1) ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเกี่ยวกับการป่าไม้ให้สามารถบริหารจัดการป่าอนุรักษ์ ป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีขนาดที่เหมาะสม ลดความซ้ำซ้อน และปรับปรุงวิสัยทัศน์ ภารกิจ หรือพันธกิจของหน่วยงานภาครัฐให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

(2) พัฒนาศักยภาพหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทในการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตให้กับประชาชนและการบริการอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส โดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม

(3) พัฒนาและส่งเสริมให้มีธรรมาภิบาลในการบริหารงานป่าไม้ทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม โดยภาครัฐมีการบริหารอัตรากำลังที่มีความคล่องตัว ยึดระบบคุณธรรม บุคลากรภาครัฐยึดค่านิยมในการทำงานเพื่อประชาชนและประเทศมีคุณธรรมและมีการพัฒนาตามเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ

(4) พัฒนาบุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติงานด้านทรัพยากรป่าไม้ทุกระดับให้มีความเป็นมืออาชีพในงานป่าไม้ มีความเหมาะสมกับตำแหน่งงาน รวมทั้งจัดสวัสดิการของบุคลากรหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานคุ้มครอง และรักษาทรัพยากรป่าไม้ในภาคสนามให้มีความเหมาะสมกับลักษณะงานที่ปฏิบัติและไม่น้อยกว่าบุคลากรสายงานอื่นที่มีลักษณะงานคล้ายคลึงกัน

(5) กำหนดให้มียุทธศาสตร์หรือแผนการวิจัยภาคป่าไม้ในนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือแผนการวิจัยระดับชาติ และ/หรือพิจารณาจัดตั้งสถาบันวิจัยป่าไม้ในระดับชาติ รวมทั้งสนับสนุนและพัฒนางานวิชาการ วิจัย และนวัตกรรมให้ตอบสนองต่อการปฏิรูปทรัพยากรป่าไม้ทั้งระบบ

(6) ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของสังคมและสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการป่าไม้ทั้งระบบ รวมทั้ง พัฒนาการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เท่าเทียม และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย

(7) ให้มี คปช. ที่จัดตั้งเป็นการถาวรโดยกฎหมาย มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ของประเทศทั้งระบบ รวมทั้งกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ ประสานและให้คำแนะนำแก่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและให้พิจารณาจัดตั้งสำนักงาน คปช. เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนินงานของ คปช.

ภาพรวม

ลำดับเหตุการณ์

  • ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.ฎ.ตามทส.เสนอ เพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่อยู่มาก่อนจะมีการออกกฎหมายเป็นการชั่วคราว โดยกำหนดเขตพื้นที่อยู่อาศัยหรือทำกินที่ชัดเจน และไม่ให้มีการขยายพื้นที่

    12 พ.ย. 2567

  • ครม.รับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ. 2560  ดูเพิ่มเติม ›

    20 ก.พ. 2567

  • กรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ (คปช.) มีมติทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติ

    19 เม.ย. 2566

  • คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติ

    6 พ.ย. 2562

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

พื้นที่ป่า
อย่างน้อยในอัตราร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ แบ่งเป็น ป่าอนุรักษ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ ป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละ 15

เชิงกระบวนการ

การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์
เพื่อให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ที่เหมาะสมกับความสมดุลของระบบนิเวศและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

เชิงการเมือง

การมีส่วนร่วม
บริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานองค์ความรู้และนวัตกรรม และกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

บทความ

ดูทั้งหมด
ออกพ.ร.ฎ.จัดตั้งป่าชุมชน นอกเขตป่าอนุรักษ์

ออกพ.ร.ฎ.จัดตั้งป่าชุมชน นอกเขตป่าอนุรักษ์

ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.จัดตั้งป่าชุมชนในพื้นที่อื่นของรัฐ พ.ศ. .... โดยเป็นการจัดตั้งป่าชุมชนบนพื้นที่อื่นของรัฐนอกเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อส่งเสริมชาวบ้านให้ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรรรมชาติในพื้นที่ดังกล่าว

ทส.ประกาศเพิ่ม 16 อุทยานฯ ให้ชาวบ้านเก็บของป่า

ทส.ประกาศเพิ่ม 16 อุทยานฯ ให้ชาวบ้านเก็บของป่า

ทส.ยกร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยโครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอุทยานแห่งชาติ  เพิ่มพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 16 แห่ง ให้ชาวบ้านในพื้นที่หาของป่าได้โดยไม่กระทบป่าและทรัพยากรธรรมชาติ กำหนดระยะเวลา 20 ปี

ทส.ปรับใหม่พื้นที่ "คนอยู่กับป่า" จาก 14 เหลือ 6 แห่ง

ทส.ปรับใหม่พื้นที่ "คนอยู่กับป่า" จาก 14 เหลือ 6 แห่ง

ทส.ปรับปรุงเขต "คนอยู่กับป่า" ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตาม One Map ให้ประชาชนอยู่อาศัยได้หากอยู่มาก่อนพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 รวมถึงเก็บหาหรือใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในป่าที่ฟื้นตัวได้ตามฤดูกาล จากประกาศเดิม 14 พื้นที่ เหลือ 6

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

นโยบายป่าไม้แห่งชาติป่าไม้