ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาเลื่อนการพิจารณาวาระร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของสภาผู้แทนราษฏรจากวันที่ 9 เมษายน 2568 เป็นสมัยประชุมหน้า มาจากความร้อนแรงของกระแสคัดค้านของสังคมที่พร้อมหน้ากันออกมาแถลงคัดค้าน
จากการรวบรวมของ “Policy Watch” พบว่ามีกลุ่มที่ออกมาแถลงการณ์คัดค้านและรณรงค์ไม่เห็นด้วยการ พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร มากถึง 30 กลุ่ม โดยเนื้อหาในการคัดค้านส่วนใหญ่พุ่งประเด็นไปที่ การเปิดให้มี “บ่อนกาสิโน”10 % ของพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
สำหรับเนื้อหาของการคัดค้านของแต่ละกลุ่มพบว่า เนื้อหาในการคัดค้านคล้ายคลึงกัน โดยจะเป็นเรื่องความกังวลว่าจะทำให้คนไทยติดพนัน ธุรกิจสีเทา อาชญากรรม และปัญหาการฟอกเงิน หวั่นเยาวชนติดพนัน ทำลายศีลธรรมของชาติ
กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์จุดประกาย
หากลองมาไล่เลี่ยงข้อคัดค้านของแต่ละพบว่า กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นกลุ่มแรกที่ออกมาเคลื่อนไหว โดยประกอบด้วย กลุ่มเพื่อนมหิดลเพื่อสังคม ,กลุ่มหลากวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 156 ราย ,ชมรมแพทย์อาวุโสและบุคลากรทางการแพทย์ ,กลุ่มแพทย์จุฬารุ่นที่ 23 , กลุ่มนิสิตเก่าจุฬาฯ รุ่น 2510 จำนวน 455 คน ,กลุ่มจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น 153 คน ,กลุ่มนพ.ชาติชัย อติชาติ แอดมินเพจประชาคมแพทย์ และกลุ่มแพทย์เชียงใหม่รุ่น 18
เนื้อหาของแถลงการณ์คัดค้านโดยรวมของกลุ่มแพทย์เน้นไปที่ “บ่อนกาสิโน” โดยเกรงว่าเม็ดเงินลงทุนใน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะอยู่ที่ตัวบ่อนมากที่สุด ไม่ใช่กิจกรรมสวนสนุก หรือ บันเทิงอื่น ๆ ดังนั้นเหตุผลของการคัดค้านจึงประกอบด้วย
- ธุรกิจสีเทาจะเพิ่มขึ้นนำไปสู่การฉ้อฉลและอาชญากรรมร้ายแรง
- พลเมืองไทยติดการพนัน ไม่ต่างจากการติดยาเสพติด
- การบังคับใช้ข้อกฎหมายไม่เข้มงวด กระจายและทำลายสังคม
- ส่งเสริมให้เกิดคอร์รัปชัน และปัญหาหนี้สิน
- เด็กและวัยรุ่นติดพนันส่งผลสุขภาพจิต ครอบครัวแตกแยก
กลุ่มศาสนา หวั่นทำลายศิลธรรมอันดี
ขณะที่กลุ่มศาสนา ซึ่งประกอบด้วย พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย , สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย , องค์กรเครือข่ายทางศาสนา ทั้ง 5 ศาสนา ที่ได้รับการรับรองโดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ สมาคมสถาบันศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนใต้ โดยเหตุผลในการคัดค้านของกลุ่มนี้ประกอบด้วย
- เปิดโอกาสให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อของการถูกล่อลวง
- ขัดแย้งกับหลักคำสอนของทุกศาสนาที่ต้องการรักษาไว้ซึ่งคุณค่า คุณงามความดี และ จริยธรรมของสังคมที
- สังคมไทยกำลังเผชิญกับภัยทางศีลธรรมในหลายมิติ
- ขัดแย้งกับการการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนฐานของการให้คุณค่าทางศีลธรรม
- กาสิโนหรือแหล่งการพนันจะไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดอาชญากรรมในทุกระดับ เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมระดับประเทศ
กลุ่มนักเคลื่อนไหว– กิจกรรมเพื่อสังคม
ขณะที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.), ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.), กองทัพธรรม, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน นำมวลชนไปเคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายฉบับดังกล่าวที่หน้ารัฐสภา ในวันที่ 9 เมษายน 2568 ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลถึงผลเสียของการตั้งบ่อนกาสิโนที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมไทยในระยะยาว โดยมีเหตุผลในการคัดค้านดังนี้
- นโยบายทำลายประชาชน ทำลายประเทศชาติ ทำลายหลักศาสนาทุกศาสนา
- การ พนัน อบายมุข ไม่ได้สร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศชาติ ประชาชน
99 นักวิชาการ ค้านบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย
ขณะที่กลุ่ม 99 นักวิชาการได้ร่วมกันลงรายชื่อเพื่อคัดค้านกฎหมายด้วย โดยระบุว่า
- ในทางเศรษฐศาสตร์ การพนันไม่ถือเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดผลผลิต เพราะเป็นเพียงการยักย้ายถ่ายโอนเงินจากกระเป๋าของผู้แพ้พนันไปสู่กระเป๋าของผู้ชนะพนัน ซึ่งในกรณีของกาสิโนนี้ผู้ชนะคือเจ้าของสถานกาสิโน การส่งเสริมให้มีกาสิโนจึงเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้กลุ่มทุนดูดซับเงินจากภาคครัวเรือนโดยเฉพาะครัวเรือนชั้นกลาง ผู้ใช้แรงงาน
- ในทางการแพทย์ การอยู่ในสถานพนันเป็นเวลาต่อเนื่องครั้งละนาน ๆ จะมีผลต่อการกระตุ้นอารมณ์ให้เกิดการเล่นพนันจนเกินขีดความเหมาะสม และนำมาสู่การเล่นพนันจนเป็นปัญหาที่ขยายผลไปสู่การเป็นผู้เสพติดการพนัน
- ในด้านการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มงวด เป็นช่องทางการฟอกเงินของธุรกิจผิดกฎหมาย รวมทั้งเป็นช่องทางทำมาหากินของเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่นสถานกาสิโน
ด้วยเหตุผลที่กล่าวอ้างมา จึงนำมาสู่ข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
- รัฐบาลควรเร่งเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น โดยการปฏิรูปองค์กรตำรวจ และการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง เพราะนี่คือด่านท้าทายที่สำคัญหากรัฐบาลมีแนวทางจะเปลี่ยนกิจการผิดกฎหมายต่าง ๆ ให้มาอยู่บนดินได้ทั้งหมด
- รัฐบาลควรมีข้อเสนอที่ชัดเจนต่อสังคมถึงสิ่งที่ตนต้องการผลักดัน ทั้งขนาดและจำนวนของกาสิโนพื้นที่เป้าหมาย กลุ่มเป้าหมาย และอื่น ๆ และทำการศึกษาอย่างรอบด้านให้ครบทุกมิติ
- ต้องทำการศึกษาครบถ้วนทุกมิติ รัฐบาลควรนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการประชามติ เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนทั้งประเทศ
กลุ่มการเมือง และอดีตสว.ต้องศึกษารอบด้าน
ขณะกลุ่มการเมืองออกมาเคลื่อนไหวไม่แพ้กลุ่มประชาสังคม โดยพรรคฝ่ายค้านอย่างเช่น พรรคประชาชน ออกมาแถลง 5 เหตุผล
1 รัฐบาลไม่มีหลักการและเหตุผลที่ชัดเจนในการผลักดันกาสิโนถูกกฎหมายครั้งนี้ ตอบสังคมไม่ได้ว่าต้องการอะไรกันแน่ กลับไปกลับมาระหว่างการเน้นไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกับนักพนันคนไทย กลับไปกลับมาระหว่างการใช้กาสิโนแก้ปัญหาพนันผิดกฎหมายกับการป้องกันไม่ให้คนไทยเข้าเล่นในกาสิโน ซึ่งเป้าหมายที่ต่างกันจะนำไปสู่การออกแบบกฎหมายและกลไกกำกับควบคุมที่ต่างกันด้วย
2.ศึกษาอย่างไม่รอบคอบไม่รัดกุม รัฐบาลยังไม่ได้จัดทำรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ (feasibility study) ที่ละเอียดเพียงพอ เมื่อยังไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้ที่รอบคอบ รัดกุม และเชื่อถือได้ การผลักดันกฎหมายออกมาก่อนจึงสุ่มเสี่ยงเกินไปที่จะล้มเหลว ได้ไม่คุ้มเสีย และอาจจะสร้างปัญหาอื่นในอนาคต แทนที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
3.ยังไม่มีมาตรการป้องกันผลกระทบทางสังคม รัฐบาลยังขาดแนวทางที่ชัดเจนในการปรับปรุงกฎหมายและกลไกในการป้องกันผลกระทบจากกาสิโน เช่น มาตรการในการแก้ปัญหาการติดการพนัน มาตรการในการป้องกันปัญหาอาชญากรรม
4.แผนการดำเนินการกับเอกชนไม่โปร่งใส รัฐบาลขาดความชัดเจนเรื่องเกณฑ์การออกใบอนุญาตที่จะรับประกันความโปร่งใส โดยตีเช็คเปล่าให้คณะกรรมการนโยบายมีดุลพินิจเต็มที่ในการออกแบบ ยังไม่นับข้อครหาว่ามีการเตรียมให้ใบอนุญาตแก่บริษัทกาสิโนและกลุ่มทุนใหญ่ที่ใกล้ชิดพรรคแกนนำรัฐบาลไว้ล่วงหน้ากันแล้ว
5.รัฐบาลเร่งรีบแบบไม่ตรงไปตรงมา รัฐบาลเดินหน้านโยบายกาสิโนถูกกฎหมายอย่างเร่งรีบผิดปกติ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่นโยบายที่เคยหาเสียงไว้กับประชาชน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว รัฐบาลจึงไม่สามารถตอบประขาชนได้ว่าทำไมต้องเร่งรีบเสนอร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร และใครกันแน่ที่จะได้ประโยชน์จากร่างกฎหมายนี้
พรรคร่วมเริ่มแตกแถว
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคประชาชาติ ออกแถลงการณ์ ด้วยจุดยืนร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่เห็นด้วย เพราะขัดต่อหลักศาสนาอิสลามและอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสังคม วัฒนธรรม และศีลธรรมของเยาวชนและประชาชนในพื้นที่
ส่วนกลุ่มอดีตสมาชิกวุฒิสภา 189 คน และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 102 คน มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน การพนันไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ดังที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แต่ทำลายศีลธรรมอันดีของสังคม
กล่าวโดยข้อสรุป แม้เหตุผลในการคัดค้าน พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะมีเนื้อหาคล้ายคลึงกันของแต่ละกลุ่ม คือห่วยใยปัญหาการควบคุมกฎหมายของรัฐที่จะส่งผลให้ “บ่อนกาสิโน” เป็นจุดเริ่มต้นสู่ปัญหาอื่นๆ ทั้งคอรัปชั่น ธุรกิจสีเทา และอาชญากรรม
ถึงวันนี้รัฐบาลเลื่อนการพิจารณา แต่วันหน้าก็ไม่แน่ว่าจะสามารถบรรจุวาระพิจารณาได้หรือไม่ เพราะกระแสคัดค้านได้ลุกลามไปทั่วประเทศ หรือ เรียกได้ว่า “ม็อบจุดติด” แล้ว ขณะที่เสียงสนับสนุนแผ่วเบา นั่นจึงหมายถึงการเร่งผลักดันกฎหมายอาจนะไปสู่เสถียรภาพรัฐบาลในอนาคต
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง