ThaiPBS Logo

รับฟังความเห็นผ่านเว็บรัฐ 80% หนุนร่างพ.ร.บ.กาสิโนฉบับรัฐบาล

23 มี.ค. 256807:36 น.
รับฟังความเห็นผ่านเว็บรัฐ 80% หนุนร่างพ.ร.บ.กาสิโนฉบับรัฐบาล
  • ผลรับฟังความเห็น ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงฯ (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) มีผู้แสดงความเห็น 71,289 คน  ภาพรวมเห็นด้วย 80% และไม่เห็นด้วย 20%
  • แม้ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ แต่ก็มีข้อเสนอจำนวนมากให้ปรับปรุง เช่น  คณะกรรมการนโยบาย คณะกรรมการบริหาร การอนุญาตประกอบธุรกิจ มาตรการควบคุม อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ บทลงโทษ
  • สำหรับเกณฑ์นักพนันคนไทยที่ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 50 ล้านบาท มีข้อเสนอไม่เห็นด้วย และควรปรับลดลงมา หรือใช้สินทรัพย์อื่นร่วมได้ หรือพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น กำหนดวงเงินสูงสุดในการเล่นการพนัน การให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการพนันที่มีความรับผิดชอบ เท่ากับว่าผลแสดงความเห็นสอดคล้องกับร่างเดิมของรัฐบาล
เป็นไปตามคาด ผลรับฟังความเห็น ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผ่านทางระบบกลางของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ภาพรวมมีผู้เห็นด้วย 80% แต่คัดค้านข้อเสนอแนะของสำนักงานกฤษฎีกา ในประเด็นผู้เข้าเล่นพนันต้องมีเงินฝาก 50 ล้านบาท

ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ) หลังได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้มีการเปิดรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชน ผ่านทางระบบกลางของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (www.law.go.th) ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 14 มี.ค. 2568 รวมระยะเวลา 15 วัน

ในรายละเอียดของข้อมูลการรับฟังความเห็น มีการะระบุถึงสภาพปัญหาและสาเหตุของปัญหา และความจำเป็นที่ต้องตรากฎหมาย ว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวเป็นการบริการหลักที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมาก ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น รวมทั้งให้มีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน อันจะเป็นประโยชน์ก่อให้เกิดการลงทุนและนำรายได้เข้าสู่ประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการจ้างแรงงานในประเทศด้วย ดังนั้น จึงต้องมีมาตรการควบคุมและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรให้มีมาตรฐานและเหมาะสม จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ

ดังนั้นการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรมีกฎหมายรองรับการดำเนินการ เพื่อให้มีมาตรการในการควบคุม กำกับดูแลสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ มิให้การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างร้ายแรง

ล่าสุด สศค. ได้สรุปผลการรับฟังความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ ซึ่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นรวม 71,289 คน

บททั่วไป

“บททั่วไป” (กฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อใช้กับกรณีทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจง) มีผู้เห็นด้วย 57,567 คน คิดเป็นร้อยละ 80.75 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และไม่เห็นด้วย 13,722 คน คิดร้อยละ 19.25 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด

นิยาม มีข้อเสนอว่า ควรปรับปรุงคำนิยามบางคำให้มีความชัดเจนมากขึ้นเพื่อป้องกันการตีความที่คลาดเคลื่อน เช่น ควรเพิ่มรายละเอียดคำว่า “การให้บริการเพื่อการท่องเที่ยว การพักผ่อนหย่อนใจ หรือนันทนาการ” ในนิยาม “ธุรกิจ สถานบันเทิงครบวงจร” ควรอ้างอิงนิยาม “การพนัน” ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน ควรกำหนดรายละเอียดของคำว่า “ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง” ในนิยาม “พนักงานเจ้าหน้าที่” เช่น ระบุคุณสมบัติ ระบุกระบวนการแต่งตั้ง เป็นต้น

รัฐมนตรีรักษาการ มีข้อเสนอว่า ไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการร่วมกับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นคณะกรรมการ นโยบายสถานบันเทิงครบวงจรโดยตำแหน่งอยู่แล้ว ประกอบกับอาจทำให้เกิดความไม่ชัดเจนในการออกใบอนุญาต โดยเฉพาะการออกใบอนุญาตซ้อนใบอนุญาต รวมถึงการออกกฎหมายลำดับรอง และการใช้อำนาจในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

หมวด 1 คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิง ครบวงจร (คณะกรรมการนโยบายฯ)

ในหมวด 1 มีผู้เห็นด้วย 57,553 คน คิดเป็นร้อยละ 80.74 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และไม่เห็นด้วย 13,726 คน คิดเป็นร้อยละ 19.26 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด

คณะกรรมการนโยบายฯ มีข้อเสนอว่า

  • ควรเพิ่มอำนาจในการส่งเสริมการลงทุน การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ การออกหลักเกณฑ์ด้านธรรมาภิบาล ซึ่งรวมถึงการกำหนดกลไกการรับฟังความคิดเห็นอย่างเป็นระบบ
  • ควรเพิ่มอำนาจในการกำหนดให้ผู้เข้าเล่นพนันจากต่างประเทศสามารถนำเงินจากต่างประเทศเข้ามาและนำเงินออก นอกประเทศได้โดยปราศจากข้อจำกัด และอนุญาตให้ ผู้รับใบอนุญาตสามารถประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราได้ภายในสถานประกอบการกาสิโน
  • ควรมีผู้แทนจากภาคเอกชน ภาคประชาชน และผู้เชี่ยวชาญอิสระ เข้าร่วมเป็นองค์ประกอบ
  • ควรกำหนดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบอิสระ

ผู้ทรงคุณวุฒิ มีข้อเสนอว่า

  • ควรกำหนดจำนวนขั้นต่ำ เช่น ไม่น้อยกว่า 3 คน เป็นต้น
  • ควรเพิ่มสาขาความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและ ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม
  • ควรมีผู้แทนจากภาคประชาสังคมเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
  • ควรกำหนดกระบวนการสรรหาเพื่อให้มีความโปร่งใส

คณะอนุกรรมการ มีข้อเสนอว่า ควรกำหนดองค์ประกอบและหน้าที่ให้ชัดเจน

การประชุมและลงมติ มีข้อเสนอว่า ควรระบุองค์ประชุมและการลงมติให้ชัดเจน และควรเปิดช่องให้มีการประชุมในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

ผลประโยชน์ตอบแทน มีข้อเสนอว่า ควรระบุหลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมและผลตอบแทนต่าง ๆ ให้ชัดเจน

หมวด 2 คณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุม การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

ในหมวด 2 มีผู้เห็นด้วย 57,569 คน คิดเป็นร้อยละ 80.75 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และไม่เห็นด้วย 13,724 คน คิดเป็นร้อยละ 19.25 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด

กรรมการโดยตำแหน่ง มีข้อเสนอว่า ควรพิจารณาเพิ่มผู้แทนจากภาคส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรม สมาคมธนาคารไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้เชี่ยวชาญอิสระ ตัวแทนประชาชน และควรพิจารณาความจำเป็นและบทบาทของปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีข้อเสนอว่า

  • ควรกำหนดคุณสมบัติผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละด้านให้ชัดเจน เช่น เน้นด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคและการพนัน เน้นด้านสังคมวิทยาและอาชญาวิทยาที่เกี่ยวกับพนัน เน้นด้านการจัดการ การท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ เน้นด้านการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ เน้นด้านกฎหมายธุรกิจ กฎหมายการพนัน และกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นต้น
  • ควรพิจารณาเพิ่มผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยี
  • ควรมีการคัดเลือกผู้ทรงวุฒิ แล้วเปิดให้ประชาชนลงคะแนน เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเลือก

อำนาจคณะกรรมการบริหาร มีข้อเสนอว่า

  • มาตรา 20 (4) ควรเพิ่มเรื่อง “การเปิดเผยข้อมูล” โดยเป็นการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงาน การบริหารงานบุคคล การเงิน การจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบภายใน ให้สาธารณชนรับรู้
  • ควรกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการจัดทำ แผนและงบประมาณ
  • ควรกำหนดแนวทางการทำงานกับหน่วยงานกำกับดูแลเดิม
  • ควรเพิ่มอำนาจในการตรวจสอบและกับดูแลที่ชัดเจนขึ้น กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน จัดทำระบบการประเมินผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ
  • ควรพิจารณาเพิ่มอำนาจในการออกระเบียบเกี่ยวกับ การดำเนินงานของกาสิโนโดยเฉพาะ เนื่องจากการดูแลกาสิโน มีความเฉพาะเจาะจง และเพื่อให้การกำกับดูแลมีความยืดหยุ่นและทันต่อเหตุการณ์
  • ควรกำหนดกลไกในการประสานงานกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย โดยอาจกำหนดให้มีการทำ MOU (บันทึกความเข้าใจ) แลกเปลี่ยนข้อมูล ฝึกอบรมร่วมกัน และออกปฏิบัติงานร่วมกัน

หมวด 3 สำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

ในหมวด 3 มีผู้เห็นด้วย 57,568 คน คิดเป็นร้อยละ 80.75 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และไม่เห็นด้วย 13,723 คน คิดเป็นร้อยละ 19.24 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด

วัตถุประสงค์และหน้าที่ของสำนักงาน มีข้อเสนอว่า

  • ควรระบุให้ชัดเจนว่า “การส่งเสริมและสนับสนุน” นั้น รวมถึงการส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาบุคลากร การสร้างนวัตกรรม การยกระดับธุรกิจนี้ให้ทัดเทียมระดับสากล
  • ควรระบุให้ชัดเจนว่า “ผลกระทบ” ที่ต้องศึกษาและวิเคราะห์นั้น รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
  • ควรระบุว่าการ “กู้ยืมเงิน” นั้น ต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของสำนักงาน และต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง และควรกำหนดเพดาน การกู้เงิน (เช่น ไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณประจำปี เป็นต้น) และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ ทุกไตรมาส
  • ควรมีการนิยามความหมายของคำว่า ควบคุม กำกับ ดูแล ติดตาม ตรวจสอบ ส่งเสริม สนับสนุน ให้ชัดเจน
  • ควรเพิ่มบทบาทในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน เพื่อป้องกันการฟอกเงิน
  • พิจารณาให้สำนักงานมีอำนาจเสนอแนะนโยบายโดยตรง ต่อคณะรัฐมนตรีในกรณีฉุกเฉิน เพื่อลดการพึ่งพาคณะกรรมการนโยบาย
  • ควรเพิ่มหน้าที่ให้สำนักงานทำรายงานประจำปีแสดงจำนวนคนแต่ละช่วงอายุ ความถี่ในการเข้ามาเล่น และยอดการใช้จ่ายของแต่ละช่วงอายุ และรายงานผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นประจำทุกปี
  • เพิ่มหน้าที่ในการให้ความรู้และประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจ เช่น การจัดทำเว็บไซต์ให้ข้อมูลกฎหมาย ระเบียบ คู่มือการขออนุญาต ข่าวสารประชาสัมพันธ์ ช่องทาง การร้องเรียน เป็นต้น และจัดอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกฎหมายและแนวทางการปฏิบัติที่ดี เผยแพร่ข้อมูลสถิติและการดำเนินงานของสำนักงานต่อสาธารณะ

โครงสร้างองค์กรและบุคลากร มีข้อเสนอว่า

  • พิจารณาเรื่องความเป็นอิสระของสำนักงาน เช่น เป็นองค์การมหาชน เป็นต้น
  • พิจารณากำหนดโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจนในกฎหมาย และสายการบังคับบัญชา หน่วยงานภายใน จำนวนบุคลากร ที่เหมาะสม เช่น มีการแนบผังโครงสร้างองค์กรของสำนักงาน ไว้ในกฎหมาย หรือกำหนดกรอบโครงสร้างองค์กรและ ให้อำนาจคณะกรรมการบริหารในการกำหนดรายละเอียด
  • ควรระบุคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการให้ชัดเจนและรัดกุมขึ้น เช่น ต้องมีความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ เป็นต้น
  • ควรเพิ่มคุณสมบัติและคุณวุฒิผู้อำนวยการ โดยเพิ่มเงื่อนไขด้านประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศหรือความเชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยีการเงิน
  • ควรเพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับ “คณะกรรมการสรรหา” ผู้อำนวยการ เพื่อให้กระบวนการสรรหาโปร่งใสและเป็นธรรม
  • ควรเพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงาน ของผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ และให้มีการประเมินผล โดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก
  • ควรระบุให้ชัดเจนว่า การพ้นจากตำแหน่งของผู้อำนวยการนอกจากเหตุที่ระบุไว้แล้ว ยังรวมถึงกรณีที่คณะกรรมการ บริหารมีมติให้พ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุผลอื่นที่เห็นสมควร
  • การแต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการต้องผ่านการรับฟังความเห็นจากคณะกรรมการอิสระหรือสาธารณชน และระบุเหตุผลการถอดถอนให้ชัดเจน

การบริหารงานและการดำเนินงาน มีข้อเสนอว่า

  • ควรเพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของสำนักงาน การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในของสำนักงาน การรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การติดตามผลการตรวจสอบ
  • ควรระบุคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ตรวจสอบภายในให้ชัดเจน เช่น มีความรู้ความสามารถด้านการตรวจสอบบัญชี มีความเป็นอิสระ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
  • ควรระบุให้ชัดเจนว่า รายงานประจำปีต้องครอบคลุม การดำเนินงานตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน และการประเมินผลกระทบของธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ และควรกำหนดให้สำนักงานเผยแพร่รายงานประจำปี ต่อสาธารณชนในช่องทางที่หลากหลาย

อื่น ๆ มีข้อเสนอว่า

  • กำหนดให้มีการจัดสรรรายได้กาสิโนอย่างน้อยร้อยละ 2 สนับสนุนกองทุนแก้ไขปัญหาการพนันติดยาเสพติด และฟื้นฟูชุมชน
  • ควรมีระบบแจ้งเตือนการเล่นพนันเกินตัว (Self-Exclusion System) และจำกัดเวลาการเล่นต่อวัน
  • เพิ่มอำนาจในการตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมาย โดยควรกำหนดหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ครอบคลุมถึง การตรวจสอบสถานบันเทิงครบวงจรเป็นประจำ การเข้าถึงข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง การเรียกบุคคลมาให้ข้อมูล การจับกุมผู้กระทำผิด การยึดทรัพย์ และการบังคับใช้มาตรการทางปกครอง รวมถึงให้มีอำนาจในการออกคำสั่ง ทางปกครองเบื้องต้นเพื่อระงับการกระทำผิดได้ทันที ให้อำนาจ ในการเข้าตรวจสอบกาสิโนได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า มีอำนาจในการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสั่งปิดสถานบันเทิงครบวงจรเป็นการชั่วคราวหากพบ การกระทำผิดร้ายแรง

หมวด 4 การอนุญาตและการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

ในหมวด 4 มีผู้เห็นด้วย 57,552 คน คิดเป็นร้อยละ 80.73 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และไม่เห็นด้วย 13,734 คน คิดเป็นร้อยละ 19.27 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด โดยจากการสรุปความเห็นมีข้อเสนอดังนี้

  • ควรกำหนดทุนจดทะเบียนให้เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ
  • การกำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนที่ร้อยละ 10 อาจน้อยเกินไป แต่ต้องมีมาตรการกำกับที่เข้มงวดรัดกุม
  • ควรกำหนดกฎเกณฑ์เรื่องการป้องกันกลุ่มทุนที่ไม่โปร่งใส
  • ควรกำหนดระยะเวลากระบวนการอนุญาตให้ชัดเจน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการ และควรพัฒนา ระบบยื่นขออนุญาตออนไลน์
  • ควรกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตที่ชัดเจน และโปร่งใส
  • ควรเพิ่มการตรวจสอบแหล่งที่มาของทุนจดทะเบียน ที่ต้องโปร่งใสและไม่เกี่ยวกับการฟอกเงินหรืออาญชากรรม
  • ควรเพิ่มประสบการณ์และความเชี่ยวชาญขั้นต่ำเพื่อคัดกรองผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ รวมถึงประสบการณ์ขั้นต่ำ ของผู้บริหาร
  • กำหนดเงื่อนไขการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) เพื่อให้สถานบันเทิงครบวงจรสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม เช่น ต้องจัดสรรงบประมาณอย่างน้อยร้อยละ 1 ของกำไรสุทธิเพื่อกิจกรรม CSR เป็นต้น
  • ควรมีมาตรการลดความเสี่ยงจากการพนันเกินตัว เช่น กำหนดวงเงินเดิมพันสูงสุดต่อวัน มีระบบ Facial Recognition เพื่อยืนยันตัวตน และจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ ผู้มีปัญหาการพนัน เป็นต้น
  • มีวัตถุประสงค์ที่ผิดตั้งแต่ต้น ควรเน้นสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างเดียว ไม่ควรมีกาสิโน

หมวด 5 การควบคุมและมาตรการบังคับ

ในหมวด 5 มีผู้เห็นด้วย 57,558 คน คิดเป็นร้อยละ 80.74 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และไม่เห็นด้วย 13,729 คน คิดเป็นร้อยละ 19.26 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด โดยจากการสรุปความเห็นมีข้อเสนอดังนี้

  • เห็นด้วยกับการจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน
  • ควรกำหนดหลักเกณฑ์ว่า ผู้อำนวยการจะสั่งห้ามบุคคลเข้ากาสิโนได้ในกรณีใดบ้าง เพื่อป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบ
  • เพิ่มการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและสุขภาพจิต ของผู้เข้าเล่น

สำหรับประเด็นเรื่องหลักเกณฑ์การเข้าเล่นพนันของคนไทย ซึ่งกำหนดว่า ต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน มีข้อเสนอแนะหลายแนวทาง เช่น

  • ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดเกณฑ์เงินฝากที่ 50 ล้านบาท ควรมีเหตุผลที่เหมาะสมว่า ทำไมต้องเป็นตัวเลข 50 ล้านบาท เพราะจะมีผลต่อการลงทุนโดยตรง ถ้าฐานลูกค้ามีจำนวนน้อย การลงทุนในธุรกิจนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้
  • ควรลดเกณฑ์เงินฝากจาก 50 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท และอนุญาตให้ใช้หลักทรัพย์อื่นแทนได้ (เช่น หุ้น ที่ดิน เป็นต้น) รวมถึงเพิ่มทางเลือกการตรวจสอบรายได้ (เช่น การยื่นแบบภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปี เป็นต้น)
  • ลดเกณฑ์เงินฝากเป็น 5 ล้านบาท แต่เพิ่มเงื่อนไขรายได้ต่อปี เช่น ไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท
  • ข้อกำหนดเรื่องฝากเงินขั้นต่ำอาจเป็นการจำกัดสิทธิบุคคล เกินสมควร ควรพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การกำหนด วงเงินสูงสุดในการเล่นการพนัน การให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการพนันที่มีความรับผิดชอบ เป็นต้น

หมวด 6 พนักงานเจ้าหน้าที่

ในหมวด 6 มีผู้เห็นด้วย 57,546 คน คิดเป็นร้อยละ  80.6 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และมีผู้ไม่เห็นด้วย 13,737 คน คิดเป็นร้อยละ 19.4 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด โดยจากการสรุปความเห็นมีข้อเสนอดังนี้

  • การกำหนดให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในสถานบันเทิงครบวงจร หรือสถานที่ตั้งของผู้รับใบอนุญาต เพื่อ “สังเกตการณ์” มีความหมายที่กว้างมาก อาจต้องตีความและเปิดช่อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต
  • การกำหนดให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงระบบสารสนเทศของกาสิโน ยังขาดความชัดเจนว่า เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด (เช่น เพื่อตรวจสอบการพนัน ตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ เป็นต้น) และมีขอบเขตกว้างเพียงใด
  • การกำหนดให้เจ้าหน้าที่ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน ควรระบุให้ชัดเจนว่าการยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดตามกฎหมายใด
  • การกำหนดให้เจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดการให้บริการในกาสิโน ควรระบุให้ชัดเจนว่า ต้องทำโดยมีเหตุผลอย่างไร และต้องมีกระบวนการที่ชัดเจนในการแจ้งผู้รับใบอนุญาตทราบถึงการสั่งหยุดการให้บริการ
  • ควรกำหนดรูปแบบและรายละเอียดของบัตรประจำตัว เจ้าพนักงานให้ชัดเจนและระบุให้เจ้าพนักงานแสดง บัตรประจำตัวก่อนการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งเพื่อให้ง่ายต่อ การตรวจสอบ
  • ควรจัดตั้งระบบตรวจสอบข้ามพรมแดน (Cross Border Surveillance) ร่วมกับประเทศคู่ค้า
  • ธุรกิจกาสิโนต้องมี “กองทุนชดเชยผู้บริโภค” (Compensation Fund) หากมีกรณีฉ้อโกงหรือล้มละลาย
  • ควรบังคับใช้กฎหมาย PDPA อย่างเคร่งครัดกับธุรกิจกลุ่มเป้าหมาย
  • ควรจัดทำโครงการเพื่อฝึกอบรมเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง และสร้างระบบคุ้มครองและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่
  • การยึดทรัพย์ต้องได้รับอนุญาตจากศาลภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกินขอบเขต
  • ควรเพิ่มคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่า ต้องผ่าน การฝึกอบรมด้านกฎหมายและจริยธรรมอย่างน้อย 100 ชั่วโมง ก่อนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่
  • ควรเพิ่มอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น อำนาจตรวจสอบระบบบัญชีและการเงินของกาสิโน อำนาจตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด เป็นต้น
  • ไม่ควรให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการตรวจสอบอย่างกว้างขวาง เพื่อลดปัญหาการใช้ดุลพินิจที่ไม่มีเหตุอันสมควร

หมวด 7 บทกำหนดโทษ

ในหมวด 7 มีผู้เห็นด้วย 57,558 คน คิดเป็นร้อยละ 80.7 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และมีผู้ ไม่เห็นด้วย 13,725 คน คิดเป็นร้อยละ 19.3 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด

มาตรการปรับเป็นพินัย มีข้อเสนอว่า

  • การกำหนดให้ชำระค่าปรับเป็นพินัย หากผู้รับใบอนุญาต “ไม่แก้ไขให้ครบถ้วน” หรือหากผู้รับใบอนุญาตเลิกประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรโดย “ไม่แจ้ง” ให้คณะกรรมการ นโยบาย ควรกำหนดขอบเขตของ “การไม่แก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วน” และ “การไม่แจ้งให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตีความที่กว้างและนำไปสู่การลงโทษ ที่ไม่เป็นธรรม
  • ค่าปรับไม่สมดุลกับรายได้ที่เกิดขึ้นจริง เช่น กิจการมีเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท แต่หากเลิกกิจการโดยไม่แจ้ง มีค่าปรับ เป็นพินัยเพียง 1 – 10 ล้านบาท เป็นต้น
  • การกำหนดให้ชำระค่าปรับเป็นพินัยเป็นจำนวนเงิน หรือเป็นอัตราร้อยละของรายได้ของกาสิโนทั้งปี แล้วแต่ จำนวนใดจะมากกว่ากัน นั้น การคำนวณค่าปรับเป็นพินัย ในรูปแบบ “อัตราร้อยละ” เป็นวิธีการคำนวณค่าปรับ ที่ค่อนข้างรุนแรง อีกทั้งยังไม่มีการกำหนดอัตราค่าปรับ อย่างสูงไว้ทำให้อาจเกิดการใช้อำนาจเชิงดุลยพินิจของผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงขอเสนอให้คงเหลือไว้เฉพาะค่าปรับ เป็นพินัยในรูป “จำนวนเงิน” เพียงอย่างเดียว

โทษทางอาญา มีข้อเสนอว่า

  • ควรกำหนดนิยามเกี่ยวการจัดให้มีการเล่นพนันที่เชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ให้ชัดเจนว่าครอบคลุมถึงกรณีใดบ้าง (เช่น การเล่นสตรีมมิ่งสด การเล่นพนันออนไลน์ การใช้เทคโนโลยี VR/AR)
  • การกำหนดโทษในกรณีที่มีการกระทำที่เป็น “การเพิ่มยอด หรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนัน” หรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่าย ในการเล่นพนันในกาสิโน นั้น ควรกำหนดตัวอย่างหรือหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่า การกระทำใดเข้าข่ายว่า เป็นการเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนัน
  • เพิ่มบทลงโทษทางอาญาสำหรับการกระทำผิดร้ายแรงอื่น ๆ เช่น การเปิดกาสิโนโดยไม่ได้รับอนุญาต การฟอกเงิน การทุจริต เป็นต้น รวมทั้งเสนอให้เพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิด ที่เป็นผู้บริหารหรือกรรมการของบริษัท

บทเฉพาะกาล

“บทเฉพาะกาล” (บทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติให้ใช้เฉพาะในช่วงเวลาหนึ่ง หรือกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นก่อนวันใช้บังคับกฎหมายนั้น) โดยมีผู้เห็นด้วย 57,561 คน คิดเป็นร้อยละ 80.7 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด และมีผู้ไม่เห็นด้วย 13,729 คน คิดเป็นร้อยละ 19.3 ของผู้แสดงความเห็นทั้งหมด ซึ่งจากการสรุปความเห็นมีข้อเสนอดังนี้
  • ควรระบุอำนาจของ “คณะกรรมการชั่วคราว” ให้ชัดเจนว่า มีอำนาจเทียบเท่าคณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการบริหารทุกประการ เพื่อป้องกันความสับสนในการตีความ และการใช้อำนาจ รวมทั้งเสนอให้ขยายระยะเวลาการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจาก 30 วัน เป็น 60 วัน เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการสรรหาผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม
  • ควรระบุอำนาจของผู้อำนวยการชั่วคราวให้ชัดเจนว่า มีอำนาจ และข้อจำกัดในเรื่องใดบ้าง รวมทั้งเสนอให้ขยายระยะเวลา การแต่งตั้งผู้อำนวยการจาก 60 วัน เป็น 90 วัน เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการสรรหาผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม
  • เห็นควรให้สำนักงานเริ่มปฏิบัติงานภายใน 180 วัน หลังการจัดตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
  • เสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ จากการบังคับใช้กฎหมาย และควรฝึกอบรมพนักงานรัฐ ให้มีความรู้เฉพาะด้านก่อนเริ่มปฏิบัติงาน

ความเห็นอื่น ๆ

ในส่วนของความเห็นอื่น ๆ รวบรวมจาก 57 ความเห็น สรุปได้ ดังนี้

  • ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายทั้งฉบับ
  • ไม่ควรมีการพนันออนไลน์
  • ไม่ควรมีสถานบันเทิงครบวงจร
  • สถานบันเทิงครบวงจรเป็นแหล่งอโคจร มอมเมาประชาชน ทำลายชาติ
  • ควรจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ทางการเงิน
  • ให้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
  • ให้พิจารณาตั้งกองทุนเยียวยาและพัฒนาสังคม
  • การตั้งสถานบันเทิงครบวงจรอาจเป็นช่องทางให้เกิดการฟอกเงิน
  • ให้เพิ่มบทลงโทษ
  • ให้กำหนดนิยามของกาสิโนให้ชัดเจน
  • ส่งเสริมให้ประชาชนและผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมในการกำหนดนโยบาย
  • การตั้งกาสิโนทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย
  • การจัดตั้งสำนักงานกำกับดูแลสถานบันเทิงครบวงจร มีความซ้ำซ้อน
  • การพนันขัดหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา

ดูฉบับเต็ม : สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. (ร่างฯ ที่ สคก. ตรวจพิจารณาแล้ว เรื่องเสร็จที่ 261/2568)

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

สถานบันเทิงครบวงจร (บ่อนเสรี)

สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) หรือในช่วงก่อนหน้านั้นเรียกว่า "บ่อนเสรี" มีการนำเสนอและขับเคลื่อนมาหลายรัฐบาล โดยมักจะอ้างเหตุผลเพื่อแก้บ่อนการพนันผิดกฎหมายและสร้างรายได้เข้ารัฐ แต่มักจะเผชิญกับกระแสต่อต้านรุนแรงจากสังคม จนไม่มีรัฐบาลไหนกล้าผลักดัน ซึ่งยังเป็นเรื่องท้าทายสังคมไทยว่าจะมีความชัดเจนอย่างไร

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5

ผู้เขียน: