แมว่าจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 13 ม.ค. 68 ก็เห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยมีวัตถุประสงค์แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ก่อนหน้านี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ส่งรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. และจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายเสร็จสิ้น โดยลงประกาศในเว็บไซต์ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เมื่อ 4 ต.ค. 2567
สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้ เป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรและคณะกรรมการบริหารจัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในเรื่องของการอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร
ร่าง พรบ. ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศตลอดจนแก้ปัญหาเรื่องการพนันที่ผิดกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งจะทำให้เกิดผลดีต่อสังคมในอนาคตในภาพรวม นี้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเรื่องของการท่องเที่ยวยั่งยืนหรือเป็น Man-made Destination ที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อสภา
กฤษฎีกาตั้งข้อสังเกตุ 6 ข้อ
ทั้งนี้ สำนักงานกฤษฏีกา ได้เสนอความเห็นต่อร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ โดยตั้งข้อสังเกตุ 6 ข้อ ดังนี้
1. ตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภานั้น นโยบายเร่งดวนที่ 7ระบุว่า “รัฐบาลจะเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว “โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex) นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินมหาศาลที่กระจายลงสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว”
ซึ่งหากนโยบายดังกล่าวมุ่งหมายที่จะพัฒนาพื้นที่เป้าหมายให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) เป็นหลักซึ่งเป็นไปในทำนอง เดียวกับ Integrated Resort District ของประเทศญี่ปุ่น หรือรีสอร์ทขนาดใหญ่บางแห่งในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน Sunway Resort ในมาเลเซีย Marina Bay Sandsในสิงคโปร์ เป็นต้น ซึ่งประกอบด้วยโรงแรม ศูนย์การค้า ศูนย์การแสดงเพื่อความบันเทิง ศูนย์ประชุม โดยสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เป็นเพียง “ส่วนประกอบหนึ่ง” ของแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นดังกล่าวเท่านั้น และอาจมีสถานที่ใดที่จัดให้มีการเล่นกาสิโนด้วยก็ได้
สำนักงานฯ จึงเห็นว่าการที่ร่างกฎหมายดังกล่าวมุ่งหมายเฉพาะสถานบันเทิงครบวงจรนั้นยังไม่สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล
2. หากร่างกฎหมายดังกล่าวมุ่งหมายที่จะจำกัดเฉพาะ “สถานบันเทิงครบวงจร”ก็ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า สถานบันเทิงครบวงจรคือสิ่งใด เป็นโรงแรม เป็นสถานบริการเป็นร้านอาหาร ฯลฯ เพราะแต่ละกิจกรรมดังกล่าวมีกฎหมายเฉพาะควบคุมอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายในเรื่องนี้อีกเพราะจะเป็นความซ้ำซ้อน หากควรใช้มาตรการทางบริหารในการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบกฎหมายเฉพาะแต่ละเรื่องเพื่อให้การบังคับการตามกฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งลดระยะเวลาและขั้นตอนในการให้บริการแก่ประชาชน
3.รายงานผลการศึกษา เรื่อง ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงหรือสันทนาการครบวงจร ของสภาผู้แทนราษฎรนั้นมุ่งแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย แต่สถานบันเทิงครบวงจรในความเข้าใจของประชาชนทั่วไปนั้นหมายถึงสถานที่ที่ให้บริการกิจกรรมด้านความบันเทิงหรือสันทนาการแก่ผู้ใช้บริการได้อย่างหลากหลาย มิใช่สถานที่ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เล่นการพนัน และสถานบันเทิงนั้นก็มีกฎหมายว่าด้วยสถานบริการควบคุมอยู่แล้ว ปัญหาการลักลอบเล่นพนันในสถานที่ดังกล่าวจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ และความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมายของผู้บังคับใช้กฎหมายนั้น ทั้งยังผิดกฎหมายว่าด้วยการพนัน กรณีจึงไม่ชัดเจนว่า ร่างกฎหมายที่เสนอซึ่งเป็นหลักการเดียวกับผลการศึกษาดังกล่าว จะแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมายได้อย่างไร
4. หากรัฐบาลประสงค์จะแก้ไขปัญหาเรื่องการพนันผิดกฎหมายหรือมีนโยบายที่จะ จัดให้มีการเล่นการพนันที่ชอบด้วยกฎหมายในสถานบริการหรือสถานที่อื่นใด ก็สามารถที่จะดำเนินการได้ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน หรือแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการพนันที่ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 (90ปีแล้ว) เพื่อให้ทันกับกาลสมัย ซึ่งจะแก้ไขปัญหานี้ให้ตรงจุดมากกว่าไปควบคุม การอนุญาตให้จัดตั้งและการบริหารจัดการสถานบันเทิงครบวงจร
5. โดยที่ยังไม่ขัดเจนว่าร่างกฎหมายนี้มุ่งหมายเพื่อบรรสุวัตถุประสงค์ใด สำนักงานฯ จึงให้ความเห็นข้างต้นตามหลักการทำ Requlatory Impact Assessment (RIA) หรือ การวิเคราะห์ผลกระทบในการออกกฎหมาย เท่านั้น และมีข้อเสนอแนะว่าหากจะเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อคณะรัฐมนตรี กระทรวงการคลังต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะเป็นไปเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ใด เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบได้อย่างชัดเจนว่าเป็น ร่างกฎหมายที่ทำขึ้นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการจะผลักดันนโยบายแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นหลัก หรือจะเป็นไปตามข้อเสนอแนะของสภาผู้แทนราษฎรที่มุ่งแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย เพราะมีความแตกต่างกันมากในการออกแบบกลไกตามกฎหมายและโครงสร้าง
และสมควรรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย และปรับปรุงร่างให้ตรงตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
6.มีข้อสังเกตว่าปัจจุบันมีการวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายนี้ในวงกว้างอย่างสับสนว่าจะเป็นไปเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ใดตามข้อ 5 กรณีจึงสมควรที่จะสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องแก่ ประชาชนเสียก่อนที่จะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาด้วย
ยันกฤษฎีกาไม่ได้เห็นแย้ง
อย่างไรก็ตาม มีการรายงานว่าความเห็นของกฤษฎีกา “คัดค้าน” ร่างกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการนโยบายนี้ได้ ทำให้ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าในการประชุมครม. นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ชี้แจงว่ากฤษฎีกาไม่ได้เห็นแย้งหรือไม่เห็นด้วย เป็นเพียงข้อสังเกตที่ต้องนำเรียน ครม. และจะสามารถนำไปปรับแก้เพิ่มเติมในกฤษฎีกา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างแมนเมดเดสติเนชั่น หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา
ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร ได้เสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบตามมติ คกก. และที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. ของกระทรวงการคลัง
สาระสำคัญ เป็นการกำหนดให้มี กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหาร จัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร และกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลเพื่อให้เกิดธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวมและเป็นการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อสังเกตว่า เรื่องนี้ก็ได้ผ่าน คกก.กลั่นกรองของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และให้ความเห็นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งขอให้นำไปพิจารณาในการออก พ.ร.บ. และให้พิจารณาต้นแบบในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ทำศูนย์กลางท่องเที่ยวและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในรูปแบบนี้จนประสบผลสำเร็จ ทั้งในมิติสังคมและทุก ๆ ด้านที่เกี่ยวข้องมาเป็นข้อศึกษา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทยที่ต้องอธิบายให้ประชาชนทราบถึงผลดีที่คณะกรรมการศึกษามาว่ามีผลดีมากกว่า
กาสิโนมีสัดส่วน 10%
“ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นโดยระบุว่า สัดส่วนของกาสิโนมีเพียงแค่ 10% เท่านั้น ที่เหลือก็จะเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์และศูนย์ท่องเที่ยวและบันเทิงครบวงจรที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก เช่น การจัดการประชุม การจัดนิทรรศการระดับโลก การจัดคอนเสิร์ตหรือสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สวนน้ำสวนสนุกในรูปแบบสมัยใหม่ และถือว่าประเทศไทยถึงเวลาที่จะต้องยอมรับความจริงหรือยังว่า วันนี้มีแหล่งการพนันทั้งบนดินและใต้ดินทั้งในประเทศและรอบ ๆ ประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะเน้นไปที่ การสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจการท่องเที่ยวให้กับประเทศ”
หลังจากครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ….. แล้ว จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้นำความเห็นและข้อสังเกตของ คกก.กลั่นกรองฯ คณะที่ 5 รวมทั้งความเห็นไปประกอบการพิจารณาจากนั้นรัฐบาลจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 1 เพื่อรับหลักการ และวาระ 2 การตั้งแปรญัตติ และตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณารายมาตราและจะเข้าสู่วาระที่ 3 เพื่อลงมติผ่าน พ.ร.บ. จากนั้นจะส่งต่อไปยังสมาชิกวุฒิสภาเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
ส่องร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เปิด”บ่อนเสรี”