ร่างกฎหมายเปิดรับฟังความเห็น วันนี้ถึง 8 ส.ค. 2568
ปัจจุบันร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น ตั้งแต่วันนี้ถึง 8 ส.ค. 2568 โดยสามารถแสดงความเห็นได้ที่ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ. บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ….
โดยหลังจากนี้จะเข้าสู่วาระที่ 3 ลงมติเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อผ่านแล้ว จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาอีก 3 วาระต่อไป
จาก 7 ร่างกฎหมาย หลอมรวมเป็นหนึ่ง
ร่างกฎหมายอากาศสะอาดที่กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นนี้ มีที่มาที่ไปจากร่างอากาศสะอาด 7 ฉบับ ทั้งจากคณะรัฐมนตรี พรรคการเมืองทั้งจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงจากภาคประชาชน ดังนี้
- ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. (คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ) – ฉบับรัฐบาล (ใช้ร่างนี้เป็นหลัก)
- ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. (ตรีนุช เทียนทอง กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับพลังประชารัฐ
- ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ. …. (อนุทิน ชาญวีรกูล กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับภูมิใจไทย
- ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พ.ศ. …. (จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับเพื่อไทย
- ร่างพระราชบัญญัติฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน พ.ศ. …. (ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับก้าวไกล
- ร่างพระราชบัญญัติกำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ พ.ศ. …. (คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 22,251 คนเป็นผู้เสนอ) – ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด (ภาคประชาชน)
- ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ พ.ศ. …. (ร่มธรรม ขำนุรักษ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) – ฉบับประชาธิปัตย์
- อ่านเพิ่มเติม : เทียบร่างกฎหมายอากาศสะอาด 7 ฉบับ | Policy Watch
โดยปัจจุบันได้หลอมรวมทั้ง 7 ฉบับ ได้มาเป็น ร่าง พ.ร.บ. บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีทั้งหมด 10 หมวดด้วยกัน ดังนี้
นิยาม
มาตรา 4 ของร่างดังกล่าว มีการกำหนดนิยามคำสำคัญ ๆ เช่น
“อากาศสะอาด” หมายความว่า อากาศที่ไม่มีสารมลพิษทางอากาศ หรือมีสารมลพิษทางอากาศเจือปนอยู่ในปริมาณที่ไม่เกินมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาด ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายเพื่ออากาศสะอาด (คล้ายกับนิยามของฉบับรัฐบาล)
“สารมลพิษทางอากาศ” หมายความว่า สิ่งใด ๆ ที่อยู่ในสภาพเป็นไอเสีย ไอระเหย กลิ่น ควัน ก๊าซ เขม่า ฝุ่นละออง ละอองลอย เถ้าถ่าน หรือมลสารอื่น ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศและสุขภาพของประชาชน (ปรับเปลี่ยนมาจากนิยาม “อากาศเสีย” ของฉบับรัฐบาล ที่หมายความว่า อากาศที่ปนเปื้อนด้วยสิ่งใด ๆ ที่อยู่ในสภาพเป็นไอเสีย กลิ่น ควัน ก๊าซ เขม่า ฝุ่น ละออง เถ้าถ่าน หรือมลสารอื่น ที่มีสภาพละเอียดบางเบาจนสามารถรวมตัวอยู่ในบรรยากาศได้ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศและสุขภาพของประชาชน)
“มลพิษทางอากาศ” หมายความว่า สภาวะที่อากาศในบรรยากาศมีการปนเปื้อนด้วยสารมลพิษทางอากาศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ สุขภาพของประชาชน และสวัสดิภาพของสาธารณะ (ปรับเปลี่ยนมาจากนิยาม “ภาวะมลพิษทางอากาศ” ของฉบับรัฐบาล ที่หมายความว่า สภาวะที่อากาศในบรรยากาศ เปลี่ยนแปลงหรือปนเปื้อนด้วยสารมลพิษหรือสารพิษเจือปน ซึ่งทำให้คุณภาพอากาศเสื่อมโทรมลง)
หมวด 1 บททั่วไป
กำหนดสิทธิของประชาชน หน้าที่ของรัฐ และกลไกพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 สิทธิในอากาศสะอาด
- สิทธิในอากาศสะอาด ทั้งสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี สิทธิในสุขภาพ สิทธิในชีวิต สิทธิมนุษยชน
- กลุ่มเปราะบางต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิ รวมถึงสิทธิการตรวจสุขภาพ การรักษาพยาบาล
- สิทธิที่จะรู้และเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับอากาศสะอาด
- สิทธิในการมีส่วนร่วมกับรัฐในการตัดสินใจ
- สิทธิในการเข้าถึงและได้ความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม
- สิทธิร้องขอให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีระบบการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ
โดยฉบับรัฐบาล ระบุสิทธิที่จะได้อากาศสะอาด สิทธิเข้าถึงข้อมูล สิทธิการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย และสิทธิฟ้องร้องดำเนินคดี
ในขณะที่สิทธิในการเข้าถึงระบบสุขภาพ และกลุ่มเปราะบางได้รับการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลรัฐฟรี มาจากฉบับก้าวไกล ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด และฉบับประชาธิปัตย์
ส่วนที่ 2 หน้าที่ของรัฐและประชาชนในการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด
- รัฐมีหน้าที่ทำให้เกิดการเคารพ คุ้มครอง และทำให้สิทธิเกิดขึ้นจริง โดยต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดบนหลักธรรมาภิบาลและการพัฒนาที่ยั่งยืน
- รัฐมีหน้าที่เคารพ คุ้มครอง และทำให้มีสิทธิที่จะรู้และเข้าถึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เข้าถึงง่าย และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
- รัฐมีหน้าที่เคารพ คุ้มครอง และทำให้มีสิทธิในการมีส่วนร่วมกับรัฐในการตัดสินใจเกี่ยวกับอากาศสะอาด
- รัฐมีหน้าที่เคารพ คุ้มครอง และทำให้มีสิทธิในการเข้าถึงและได้รับความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม
หมวด 2 คณะกรรมการและองค์กรเพื่อการบริหารจัดการอากาศสะอาด
กำหนดให้มีคณะกรรมการ 5 คณะ ได้แก่
- คณะกรรมการนโยบายเพื่ออากาศสะอาด (คณะกรรมการ) มีหน้าที่เช่น กำหนดนโยบายและเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการจัดการมลพิษทางอากาศ กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพระดับประเทศ กำหนดเครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์
- คณะกรรมการกำกับดูแลเพื่ออากาศสะอาด (คณะกรรมการกำกับ) มีหน้าที่เช่น ประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายและเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่กำหนดโดยคณะกรรมการ ให้คำแนะนำแก่หน่วยงานของรัฐ
- คณะกรรมการวิชาการเพื่ออากาศสะอาด (คณะกรรมการวิชาการ) มีหน้าที่เช่น เสนอมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพระดับประเทศต่อคณะกรรมการ เสนอมาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาดเพื่อสวัสดิภาพของสาธารณะระดับพื้นที่ต่อรัฐมนตรี
- คณะกรรมการเครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ออากาศสะอาด (คณะกรรมการเศรษฐศาสตร์) มีหน้าที่เช่น เสนอแผนการขับเคลื่อนการกำหนดมาตรการหรือกลไกการใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์
- คณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัดและคณะกรรมการอากาศสะอาดกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่เช่น จำแนกพื้นที่คุณภาพอากาศและจัดทำแผนปฏิบัติการ ประกาศเขตเฝ้าระวัง-เขตประสบมลพิษทางอากาศ
- คณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด มีนายก อบจ. เป็นประธานกรรมการ กำกับดูแลโดยผู้ว่าราชการจังหวัด
- คณะกรรมการอากาศสะอาดกรุงเทพมหานคร มีผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เป็นประธานกรรมการ
และมีเจ้าหนักงานอากาศสะอาด และผู้ช่วยเจ้าพนักงานอากาศสะอาด โดย
- เจ้าพนักงานอากาศสะอาด มีอำนาจเข้าไปในแหล่งกำเนิดมลพิษเพื่อตรวจสอบหรือควบคุม และสั่งการให้ผู้ครอบครองดำเนินการแก้ไขปรับปรุง
- ผู้ช่วยเจ้าพนักงานอากาศสะอาด ต้องเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการด้านอากาศสะอาดในจังหวัดนั้น
แต่เดิมฉบับรัฐบาล มีเพียงคณะกรรมการนโยบายฯ, คณะกรรมการบริหารจัดการฯ (หรือคณะกรรมการกำกับ), คณะกรรมการจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และเจ้าพนักงานอากาศสะอาด โดยได้มีการเพิ่มคณะกรรมการวิชาการ (จากฉบับภูมิใจไทย และฉบับเพื่อไทย) และคณะกรรมการเศรษฐศาสตร์ (จากฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด)
นอกจากนี้ยังมี สำนักงานบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด (สำนักงาน) มีหน้าที่เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดนโยบายการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดมลพิษแต่ละภาค และมีระบบให้คำปรึกษา
หมวด 3 เครื่องมือและกลไกในการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด
กำหนดเครื่องมือและกลไก เพื่อป้องกัน แก้ไข และควบคุมมลพิษทางอากาศ
- มาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพระดับประเทศ : ค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศเพื่อสุขภาพของประชาชน
- มาตรฐานคุณภาพอากาศสะอาดเพื่อสวัสดิภาพของสาธารณะระดับพื้นที่ : ค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศที่คำนึงถึงการป้องกันผลกระทบและความเสียหาย
- ดัชนีคุณภาพอากาศ : ค่าตัวเลขหรือเกณฑ์ที่ใช้แทนระดับความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ
- ดัชนีคุณภาพอากาศเพื่อสุขภาพ : ค่าตัวเลขหรือเกณฑ์ที่แสดงถึงระดับความเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากการได้รับสารมลพิษทางอากาศในระยะสั้นที่สัมพันธ์กับคำแนะนำด้านสุขภาพ
- มาตรฐานควบคุมการระบายสารมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิด : มาตรฐานที่ใช้เป็นเกณฑ์สำหรับควบคุมการระบายสารมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดมลพิษออกสู่บรรยากาศ
- ระบบฐานข้อมูลการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด : ระบบฐานข้อมูลการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดขนาดใหญ่ (Big Data) ทั้งภายใน-นอกราชอาณาจักร
- ระบบเฝ้าระวังและแจ้งเตือนคุณภาพอากาศและระบบเฝ้าระวังและแจ้งเตือนผลกระทบต่อสุขภาพจากมลพิษทางอากาศ : ระบบที่ใช้สำหรับการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนคุณภาพอากาศและผลกระทบต่อสุขภาพจากมลพิษทางอากาศ
- ระบบติดตามการรับเรื่องร้องเรียน : ระบบที่ใช้สำหรับติดตามการรับเรื่องร้องเรียน
- การจำแนกพื้นที่คุณภาพอากาศ : แบ่งเป็นพื้นที่ผ่านเกณฑ์และพื้นที่ไม่ผ่านเกณฑ์
- การประกาศเขตเฝ้าระวังและเขตประสบมลพิษทางอากาศ : คณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัดมีอำนาจประกาศให้เป็นเขตเฝ้าระวัง-เขตประสบมลพิษทางอากาศ
- นโยบายและเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศและการจัดการเพื่ออากาศสะอาด แผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษทางอากาศ : สำนักงานบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดมีหน้าที่เสนอเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ต่อ คณะกรรมการนโยบาย
- การจัดสรรงบประมาณ เครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ออากาศสะอาด กองทุน หรือมาตรการอื่นใด : คณะกรรมการกำหนดแนวทางการจัดสรรงบประมาณ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน
- ระบบการรายงานผลการปฏิบัติงาน เพื่อการตรวจประเมิน การกำกับ และการเผยแพร่ต่อประชาชน
หมวด 4 การป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดมลพิษ
ป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิด 7 ภาค ได้แก่
- ภาคอุตสาหกรรม เช่น ระบบบำบัด รายงานการใช้เชื้อเพลิงและการระบายสารมลพิษทางอากาศ
- ภาคคมนาคม เช่น แผนพัฒนาโครงข่ายคมนาคม ส่งเสริมการใช้ยานพาหนะมลพิษต่ำ-ขับเคลื่อนพลังงานสะอาด
- ภาคป่าไม้ เช่น ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และบัญชีการระบายสารมลพิษทางอากาศภาคป่าไม้
- ภาคเกษตรกรรม เช่น สินค้าเกษตรปลอดการเผา ระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร ห้ามรับซื้อสินค้าเกษตรที่มาจากการเผาที่ไม่เป็นไปตามแนวทาง
- ภาคเมือง เช่น การจัดทำแผนผังพื้นที่เพื่ออากาศสะอาด การใช้ต้นไม้ในการออกแบบพื้นที่และอาคาร
- ภาคมลพิษข้ามแดน เช่น การเจรจาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
- แหล่งกำเนิดอื่น
แต่เดิมฉบับรัฐบาล กำหนดการลดและควบคุมมลพิษทางอากาศจาก 3 ประเภท ได้แก่ การเผาในที่โล่ง ยานพาหนะ และมลพิษข้ามแดน
หมวด 5 เขตเฝ้าระวังมลพิษทางอากาศและเขตประสบมลพิษทางอากาศ
รัฐมนตรีประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับการกำหนดเขตเฝ้าระวัง-เขตประสบมลพิษทางอากาศ โดยการเสนอของคณะกรรมการวิชาการ โดยแบ่งเป็น
1. เขตเฝ้าระวังมลพิษทางอากาศ
โดยคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด มีอำนาจประกาศพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศไม่เป็นไปตามมาตรฐานและมีแนวโน้มจะเกิดมลพิษทางอากาศที่กระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
หลังประกาศแล้ว ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่นั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ครอบครองแหล่งกำเนิด ควบคุมหรือหยุดการกระทำ
โดยฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ มีการกำหนดกลไกที่คล้ายกัน คือคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัดประกาศเขตเฝ้าระวัง (ไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อหา)
2. เขตประสบมลพิษทางอากาศ
คณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด (หรือเลขาธิการสำนักงานบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด) มีอำนาจประกาศพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศเกินเกณฑ์มาตรฐาน เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้น และไม่สามารถแก้ไขโดยแผนที่มีอยู่ได้
คณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด ต้องจัดทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษทางอากาศภายใน 60 วัน และหลังประกาศแล้ว ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่นั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ครอบครองแหล่งกำเนิด ควบคุมหรือหยุดการกระทำ
สำนักงานบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดร่วนตรวจสอบและวิเคราะห์สาเหตุ และจัดทำข้อเสนอต่อคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด และคณะกรรมการวิชาการและคณะกรรมการเศรษฐศาสตร์ต้องสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหา และคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัดต้องจัดทำรายงานผลการดำเนินงานทุก 3 เดือนและเสนอต่อสำนักงานจนกว่าจะมีการยกเลิกเขตประสบมลพิษทางอากาศ
โดยฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ มีการกำหนดกลไกที่ต่างกันออกไป คือกรมควบคุมมลพิษ เสนอต่อ คณะกรรมการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด เพื่อพิจารณาประกาศเขตมลพิษทางอากาศ (เปลี่ยนแปลงเนื้อหา โดยคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัดเป็นผู้ประกาศ)
หมวด 6 เครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ออากาศสะอาด
กำหนดเครื่องมือและมาตราการทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลไกตลาดและลดมลพิษ ผ่านการสร้างแรงจูงใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกันและส่งเสริมอากาศสะอาด ทั้งหมด 7 เครื่องมือและมาตรการ ได้แก่
- ภาษีอากรเพื่ออากาศสะอาด : กำหนดมาตรการทางภาษีเพื่อจูงใจให้เกิดการป้องกันและลดมลพิษ
- ค่าธรรมเนียมเพื่ออากาศสะอาด : เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากสินค้า-บริการที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และรายได้เข้ากองทุนอากาศสะอาด
- การจัดสรร ซื้อขาย โอนสิทธิในการระบายสารมลพิษทางอากาศในพื้นที่ควบคุม : ควบคุมปริมาณการระบายมลพิษโดยรวม ในพื้นที่ที่มีมลพิษเกินศักยภาพจะรองรับหรือพื้นที่ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพอากาศ โดยกำหนดปริมาณรวมที่อนุญาตให้ระบายได้
- หลักประกันความเสี่ยงหรือความเสียหายอันเนื่องมาจากมลพิษทางอากาศ : มีการวางหลักประกันก่อนได้รับอนุญาตประกอบกิจการที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อมลพิษร้ายแรง
- ระบบฝากไว้ได้คืน : ระบบเรียกเก็บเงินชั่วคราว สำหรับสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อมลพิษ เพื่อประกันว่าจะมีการนำไปจัดการอย่างเหมาะสม
- มาตรการอุดหนุน สนับสนุน ส่งเสริม หรือช่วยเหลือกิจกรรมเพื่ออากาศสะอาด : จัดทำมาตรการเพื่อส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้เกิดอากาศสะอาด
- การลดหย่อน ยกเว้น ขอคืน และการแจ้งประเมินเรียกเก็บค่าธรรมเนียม : กำหนดสิทธิของผู้มีหน้าที่เสียค่าธรรมเนียมในการขอลดหย่อน ยกเว้น หรือขอคืนค่าธรรมเนียม
โดยเครื่องและมาตรการส่วนใหญ่ มีในฉบับรัฐบาล และฉบับพลังประชารัฐ ยกเว้นระบบฝากไว้ได้คืน ที่มาจากฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด
หมวด 6/1 กองทุนอากาศสะอาด
ตั้ง “กองทุนอากาศสะอาด” ในสำนักงานบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ซึ่งตั้งขึ้นใหม่ตามฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด (ต่างจากฉบับรัฐบาล ฉบับพลังประชารัฐ และฉบับก้าวไกล ที่ใช้กองทุนสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่แล้ว) โดยมีช่องทางเงินจากเงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้ เงินค่าธรรมเนียม เงินค่าปรับ ฯลฯ
กำหนดให้เงินกองทุนใช้จ่ายเพื่อ สนับสนุนการใช้เครื่องมือ-มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ สนับสนุนการดำเนินงานเพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศ สื่อสารสร้างความรู้ ส่งเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายประชาชน-ความร่วมมือกับต่างประเทศ ให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมอากาศสะอาดโดยคิดดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ช่วยเหลือการถูกฟ้องคดี เยียวยาความเสียหายเบื้อ’ต้นให้ผู้ได้รับผลกระทบระหว่างการฟ้องร้อง รวมถึงสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม
หมวด 7 เจ้าพนักงานอากาศสะอาด
ในหมวดนี้ คณะกรรมการธิการได้ตัดออกจากร่างฉบับรัฐบาล และได้กำหนดรวมไว้ในหมวด 2 คณะกรรมการและองค์กรเพื่อการบริหารจัดการอากาศสะอาด แทน
หมวด 8 ความรับผิดทางแพ่ง
กำหนดความรับผิดทางแพ่ง เช่น
- ผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ (ทั้งจากในราชอาณาจักร และมลพิษข้ามแดนจากนอกราชอาณาจักร) ซึ่งทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย-ทรัพย์สินเสียหาย ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และค่าฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
- ผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ความเสียหายต่อทรัพยากร สาธารณสมบัติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ เศรษฐกิจและสังคม ต้องรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่หน่วยงานรัฐใช้ และมีหน้าที่ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
- ผู้ออกแบบ-ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุม และสถาบันการเงินที่ให้กู้ยืมเงินหรือให้คำปรึกษา ต้องร่วมรับผิดชอบ
หมวด 9 โทษอาญา
กำหนดโทษอาญาสำหรับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ เช่น
- ส่งข้อมูลจากระบบติดตามตรวจสอบหรือตรวจวัดมลพิษทางอากาศเป็นเท็จ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท
- ระบายสารมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานควบคุม จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 50,000,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 500,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
- ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานอากาศสะอาด ตาม ม.30/5 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1,000,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
- จัดทำรายงานการใช้เชื้อเพลิงและการระบายสารมลพิษทางอากาศเป็นเท็จ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท
- มีส่วนก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศนอกราชอาณาจักรที่แพร่เข้ามาในราชอาณาจักรจนเกิดความเสียหาย ปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1,000,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
หมวด 10 มาตรการปรับเป็นพินัย
กำหนดมาตรการปรับเป็นพินัยสำหรับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ในความผิดที่ไม่ร้ายแรง เช่น
- ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานอากาศสะอาด ปรับไม่เกิน 200,000 – 1,000,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 20,000 – 100,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง (แล้วแต่กรณี)
- ไม่นำส่งข้อมูล ปรับไม่เกิน 500,000 – 1,000,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 50,000 – 100,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง (แล้วแต่กรณี)
- ไม่ติดตั้งหรือปรับปรุงระบบติดตามตรวจสอบหรือตรวจวัดสารมลพิษ ตามที่ คกก.อากาศสะอาดจังหวัดกำหนด ปรับไม่เกิน 500,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
- ไม่จัดทำรายงานการใช้เชื้อเพลิงและการระบายสารมลพิษทางอากาศ ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท
- ไม่จัดให้มีระบบบำบัด ปรับไม่เกิน 500,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
- ซื้อสินค้าเกษตรที่มาจากการเผาไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท
โดยค่าปรับที่ได้ นำส่งเข้ากองทุนอากาศสะอาด
อ้างอิง