ณัฐนันท์ วิจิตรอักษร หัวหน้าโครงการและหัวหน้าทีมวิเคราะห์ตลาดแรงงาน ทีดีอาร์ไอ (TDRI) ระบุว่าการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนานแล้ว โดยสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มซบเซาและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นตัวผลักดันหลัก แม้การขึ้นค่าแรงอาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าแรงนี้ควรพิจารณาถึงความแตกต่างในเรื่องพื้นที่และอุตสาหกรรม ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลควรคำนึงถึงให้มาก คือ กลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีรายได้น้อย เช่น ลูกจ้างรายวัน กลุ่มนี้อาจได้รับผลกระทบมากหากนายจ้างไม่ยอมปรับขึ้นค่าแรงให้ หรือแอบใช้เหตุผล หรือมีข้ออ้างในการไม่ขึ้นค่าแรง
ดังนั้นรัฐบาลควรมีมาตรการที่เข้มงวดในการบังคับใช้เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำถือว่าเป็นสิทธิที่ลูกจ้างต้องได้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่มีต่อผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้วย
ณัฐนันท์ ยังเสนอผลการศึกษาเรื่อง “การปรับตัวด้านดิจิทัลและแรงงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงระหว่างและหลังวิกฤตโควิด19” ของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ร่วมกับ กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) พบว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ดัชนีราคาในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 บ่งชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสะท้อนถึงบรรยากาศทางธุรกิจ
นอกจากนี้ผลจากมาตรการของรัฐที่ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก ทำให้ภาพรวมตลาดแรงงานทั่วโลกมีอัตราว่างงานที่สูงขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานไทยมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากช่วงก่อนการแพร่ระบาดในปี 2562
ธุรกิจที่พบปะผู้คนน้อยได้เปรียบช่วงโควิด
ณัฐนันท์ ระบุว่า แม้กิจการต่าง ๆ จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่มีบางกิจการที่ไม่ได้รับผลกระทบเลย หรือได้รับผลเป็นบวก จากการศึกษาพบว่าธุรกิจที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น หรือลูกค้าน้อย เช่น อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และของใช้ภายในบ้าน มีความได้เปรียบในช่วงวิกฤตและมีอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ได้รับผลกระทบที่น้อยกว่า ฟื้นตัวเร็วกว่า และยังสามารถเติบโตในสภาพแวดล้อมหลังวิกฤตได้
ขณะที่ธุรกิจที่ต้องติดต่องานกับบุคคลภายนอกสูง เช่น ธนาคาร หรือลักษณะงานยืดหยุ่นน้อย เช่น ก่อสร้าง อาจได้รับความเสียหายสูงกว่า ส่วนภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก และต่อเนื่องมากกว่าวิกฤตที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
วิกฤตบีบผู้ประกอบการต้องปรับตัว
จากวิกฤตดังกล่าวทำให้ภาคธุรกิจต้องนำปัจจัยด้านดิจิทัลมาใช้ร่วมกับปัจจัยแรงงาน จนเกิดการปรับตัวด้านแรงงาน เกิดการพัฒนาทักษะของแรงงาน ทั้งการพัฒนายกระดับทักษะที่มีอยู่แล้วให้ดีกว่าเดิม (Up skill) การสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน (Re skill) และการเพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็นในอนาคต (New skill)
ทั้งนี้ จากบทเรียนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พบว่า กลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหมดมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการดำเนินงาน เช่น การปรับปรุงรูปแบบการทำงานของพนักงาน การพัฒนาทักษะความสามารถในการทำงานของพนักงาน การขยายช่องทางออนไลน์ให้แก่ลูกค้า การพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือ แพลตฟอร์มของบริษัทโดยเฉพาะ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการดำเนินงานภายในองค์กร นอกจากนั้น การแพร่ระบาดของโควิด19 ทำให้บริษัทแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมได้วางแนวทางเพื่อรับมือกับความเสี่ยงอื่น ๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย ขณะเดียวกัน บริษัทจดทะเบียนฯ ส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญกับแผนการรองรับความเสี่ยง สภาพคล่อง และวิสัยทัศน์ของผู้บริหารมากขึ้น
โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงหลังผ่านโควิด
1.การเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ไปสู่การผลิตในท้องถิ่นและการกระจายความเสี่ยง เช่น ประเทศต่าง ๆ อาจสนับสนุนการผลิตภายในประเทศ โดยเฉพาะภาคส่วนที่มีความสำคัญ เช่น การดูแลสุขภาพและบรรจุภัณฑ์อาหาร เกิดการกระจายฐานผู้จัดหาเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดการพึ่งพาประเทศใดเพียงประเทศเดียว แนวโน้มนี้อาจส่งผลดีต่อหลายประเทศ เช่น ตุรกี เม็กซิโก เวียดนาม บังกลาเทศ และโมร็อกโกที่ได้พัฒนาความสามารถพิเศษในภาคส่วนย่อยต่าง ๆ
2.การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ธุรกิจมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน การแข่งขัน และความยืดหยุ่นมากขึ้น เกิดการเติบโตของแพลตฟอร์มดิจิทัลและแบบจำลองธุรกิจดิจิทัล ปรับปรุงความโปร่งใสของราคาและการลดต้นทุนรวม ขณะที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดจากวิกฤตโควิด-19 ยังคงมีอยู่ เช่น การเพิ่มขึ้นของการสั่งซื้ออาหารออนไลน์และการใช้บริการสุขภาพทางไกล
3.ความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับการลงทุน ภาคธุรกิจสนใจเพิ่มขึ้นในด้านสุขภาพและโลจิสติกส์ ซึ่งการลงทุนอาจเน้นที่ส่งเสริมความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความจำเป็นในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่หนี้รัฐบาลในตลาดเกิดใหม่เติบโต มีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับเงินทุนจากภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ในขณะที่การปรับเปลี่ยนของแรงงานไทยนั้น แรงงานไทยต้องปรับเปลี่ยนในหลาย ๆ ด้าน เช่น การทำงานจากที่บ้าน การใช้เครื่องมือสื่อสารออนไลน์ และการมีทักษะหลายด้านเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของงาน ความยืดหยุ่นของแรงงานจะเอื้อประโยชน์ให้แก่บางธุรกิจสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ อย่างไรก็ตาม การทำงานจากที่บ้าน (WFH) อาจไม่เหมาะสมกับทุกคน เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่อาจไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
Soft Skill-ทักษะที่หลากหลายของพนักงาน พาองค์กรอยู่รอด
ผลการศึกษาดังกล่าวยังมีข้อค้นพบสำคัญจากบริษัทจดทะเบียนฯ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นบทเรียนที่มีต่อธุรกิจขนาดกลางและย่อม พบว่าสภาวะที่องค์กรต้องดำเนินการด้วยจำนวนคนจำกัด พนักงานที่มีทักษะด้าน Soft Skill (ทักษะทางสังคมที่ใช้เพื่อปฏิสัมพันธ์กับผู้คน เป็นความสามารถด้านอารมณ์ รวมไปถึงอุปนิสัย บุคลิกภาพ ทัศนคติ ที่ใช้เพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม) และทักษะที่หลากหลาย จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและรักษาการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ทักษะเหล่านี้รวมถึงการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการแก้ไขปัญหาได้
ขึ้นค่าแรงต้องบังคับใช้เข้มงวด-คำนึงผลกระทบ
ณัฐนันท์ วิจิตรอักษร หัวหน้าโครงการและหัวหน้าทีมวิเคราะห์ตลาดแรงงาน ทีดีอาร์ไอ (TDRI) ระบุว่าการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนานแล้ว โดยสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มซบเซาและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นตัวผลักดันหลัก แม้การขึ้นค่าแรงอาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าแรงนี้ควรพิจารณาถึงความแตกต่างในเรื่องพื้นที่และอุตสาหกรรม ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลควรคำนึงถึงให้มาก คือ กลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีรายได้น้อย เช่น ลูกจ้างรายวัน กลุ่มนี้อาจได้รับผลกระทบมากหากนายจ้างไม่ยอมปรับขึ้นค่าแรงให้ หรือแอบใช้เหตุผล หรือมีข้ออ้างในการไม่ขึ้นค่าแรง
ดังนั้นรัฐบาลควรมีมาตรการที่เข้มงวดในการบังคับใช้เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำถือว่าเป็นสิทธิที่ลูกจ้างต้องได้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่มีต่อผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้วย
เคาะค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ในธุรกิจโรงแรม 10 จังหวัด
ปรับค่าแรงขั้นต่ำตามหลักเศรษฐศาตร์ จะเกิดอะไรขึ้น?
ที่มา: สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ (TDRI)