มีอะไรใหม่ใน“การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” กับการกลับมาการทูตยุค”ทักษิณ”
รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ปัดฝุ่นไอเดีย "Team Thailand" ซึ่งเป็นนโยบายตั้งแต่สมันนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร วางกรอบนโยบาย “การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” ให้กระทรวงการต่างประเทศ ขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศสู่ยุคใหม่ เป็น “การต่างประเทศที่คนไทยจับต้องได้”
ความเท่าเทียมในสวัสดิการ “คลุมเครือ คาดหวังสูง”
ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาหลายพรรคการเมืองชูนโยบายเกี่ยวกับ “รัฐสวัสดิการ” แม้ว่าแต่ละพรรคมุ่งเน้นนโยบายต่างกัน แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า “สวัสดิการจากภาครัฐ” ได้ปักหลักอย่างมั่นคงในนโยบายของรัฐบาลนับจากนี้ไป
ปฏิรูปการศึกษา เส้นทางยังอีกยาวไกล
ปัญหาการศึกษาของไทยกำลังเข้าขั้นน่าเป็นห่วง สะท้อนผ่านดัชนีชี้วัดหลายตัว ทั้งจำนวนเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาที่เพิ่มขึ้นเป็นปีละกว่าแสนคน ไปจนถึงคะแนนสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (PISA) ที่ค่าเฉลี่ยคะแนนนักเรียนไทยต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
หนี้สิน-ที่ดินทำกิน-ราคาพืชผล นโยบาย“ไม่เคยเปลี่ยน”
รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2566 มีทั้งกรอบนโยบายระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ที่มุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเป้าหมายสำคัญ และนโยบายภาคเกษตร นับว่าเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่นเดียวกับรัฐบาลชุดก่อน ๆ
ทุจริตคอร์รัปชัน กฎหมายดี แต่ปัญหายังหนัก
การปฏิรูประบบราชการและการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นนโยบายของทุกรัฐบาล แต่ยังไม่มีรัฐบาลไหนสามารถแก้ปัญหาได้ โดยประเด็นดังกล่าวในความรู้สึกของประชาชนจากการสำรวจของสำนักวิจัยต่าง ๆ กลับพบว่าประชาชนมีความเห็นว่าสถานการณ์รุนแรงขึ้น
นโยบายต่างประเทศ ความท้าทายในโลกยุคแบ่งขั้ว-เลือกข้าง
ในช่วงเวลากว่า 9 ปีภายใต้รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นโยบายทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการดำเนินการทางการทูตของไทยถูกจับจ้องและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งท่าทีต่อวิกฤติในเมียนมา การวางตัวท่ามกลางการแข่งขันในด้านภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical rivalry) แม้แต่บทบาทของไทยในเวทีอาเซียน
ผลวิจัยชี้ชัดนโยบายพักหนี้ “ยิ่งพัก หนี้ยิ่งเพิ่ม”
“มาตรการพักหนี้เกษตรกร” นับว่าเป็นมาตรการ”การเมือง” ที่ทุกรัฐบาลต้องออกมาเพื่อช่วยเหลือหนี้สินภาคเกษตร แต่ที่ผ่านมามักจะไม่มีการประเมินผลว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ และแทบจะไม่มีใครท้วงติงว่าเป็นมาตรการสำเร็จ หรือ ล้มเหลว