ThaiPBS Logo

ส่งเสริมการลงทุน

การส่งเสริมการลงทุนเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลได้มีนโยบาส่งเสริมการลงทุนมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ซึ่งจากมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากภาคเกษตรไปสู่ภาคอุตสาหกรรม

อ่านเพิ่มเติม

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ขั้นตอนเริ่มต้นนโยบาย ประกาศนโยบายต่อสาธารณะ

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

รัฐบาลตั้งเป้าหมายการส่งเสริมการลงทุน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

อ่านเพิ่มเติม

ความเคลื่อนไหวล่าสุด

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เห็นชอบ “มาตรการส่งเสริมการลงทุนกิจการด้านการท่องเที่ยวในเมืองรอง” ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในเมืองรอง

สำหรับกิจการด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ กิจการสร้างแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ สวนสนุก ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ศูนย์หัตถกรรมไทย พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์เปิด ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ หอประชุมขนาดใหญ่ ท่าเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) บริการที่จอดเรือท่องเที่ยว สนามแข่งขันยานยนต์ กระเช้าไฟฟ้าและรถรางไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว

หากเป็นการลงทุนตั้งสถานประกอบการในเมืองรอง 55 จังหวัด จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม จากเดิม 5 ปี เป็น 8 ปี และสำหรับกิจการโรงแรม หากตั้งในเมืองรอง 55 จังหวัด จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม จากเดิม 3 ปี เป็น 5 ปี

 

ความเป็นมาของนโยบายส่งเสริมการลงทุนในไทย

จุดเริ่มต้น ในปี 2497

นโยบายส่งเสริมการลงทุนเริ่มขึ้นครั้งแรกในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยมี พระราชบัญญัติส่งเสริมอุตสาหกรรม พ.ศ. 2497 เป็นกฎหมายฉบับแรกที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุน   

ในช่วงนี้รัฐบาลต้องการแก้ปัญหารายได้จากการส่งออกที่ลดลง โดยส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ยังจำกัด มีเพียง 9 รายที่ยื่นขอรับการส่งเสริม และได้รับอนุมัติเพียง 6 ราย

การปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 2503

ในสมัยรัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีการยกเลิกกฎหมายเดิมและตรา พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม พ.ศ. 2503 แทนกฎหมายฉบับเดิม โดมีการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม ซึ่งมีกรรมการ 36 คน โดยมี ทวี บุณยเกตุ เป็นประธาน   ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักคือการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในปี 2509

เมื่อ 21 ม.ค. 09  รัฐบาลจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม มีฐานะเทียบเท่ากรม สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี  โดยในช่วงแรกยังไม่มีบุคลากรประจำ ต้องยืมตัวข้าราชการจากหน่วยงานอื่นมาทำงานชั่วคราว

ต่อมามีการการเปลี่ยนชื่อและปรับโครงสร้าง ในปี 2515 โดเมื่อ 21 ต.ค. 15  มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน” และ “สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน” ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 227

นับตั้งแต่นั้นมา สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)  เป็นหน่วงานที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

การปรับปรุงกฎหมายและโครงสร้างในยุคหลัง

ในปี 2520 มีการออก พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้ง (ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2534, ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2544, และฉบับที่ 4 พ.ศ. 2560)   

ต่อมาในปี 2545 รัฐบาลโอนบีโอไอไปสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ในปี 2557 ถูกโอนกลับมาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง   

ในปี 2560 มีการเปิดศูนย์บุคลากรทักษะสูงเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย

บทบาทและหน้าที่ของบีโอไอในปัจจุบัน

บีโอไอมีหน้าที่หลักในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและไม่เกี่ยวกับภาษี :

  • ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
  • อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้น 100%
  •  อำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าทำงานและใบอนุญาตทำงาน
  •  บีโอไอยังมีสำนักงานทั้งในและต่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน
  • การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

ในยุคปัจจุบัน นโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทยยังคำนึงถึง เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน) และเป้าหมายที่ 9 (การพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรม)

สรุปได้ว่า นโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทยมีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ทศวรรษ 2490 จนถึงปัจจุบัน โดยมีบีโอไอเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมของประเทศอย่างยั่งยืน

เป้าหมายส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กำหนดเป้าหมายหลักที่ต้องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้บรรลุผล 3 ประการ

  • Innovative: เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์
  • Competitive: เป็นเศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถปรับตัวได้เร็ว และสร้างการเติบโตสูง
  • Inclusive: เป็นเศรษฐกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งการสร้าง โอกาส และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ

ส่งเสริมการลงทุนในการพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค (Regional Hub) อย่างน้อยใน 5 ด้าน

  • Tech Hub เป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านดิจิทัล ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และอุตสาหกรรมอนาคต เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เป็นต้น
  • BCG Hub เป็นศูนย์กลางการลงทุนตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมชีวภาพ พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นต้น
  • Talent Hub เป็นศูนย์รวมผู้มีศักยภาพจากทั่วโลก เช่น ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทักษะสูง ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย กลุ่มสตาร์ตอัป ไปจนถึงนักลงทุนและผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจสูง เป็นต้น
  • Logistics & Business Hub เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ตลอดจนเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจระหว่างประเทศ โดยเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาค (Regional Headquarter) ธุรกิจบริการ ธุรกิจด้านการเงินและการค้าระหว่างประเทศ
  • Creative Hub เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ดิจิทัลคอนเทนต์ เกมและอีสปอร์ต โดยใช้ศักยภาพด้านวัฒนธรรมของไทย ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่เวทีโลก

7 หมุดหมายสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่ และยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค ประกอบด้วย

  1. การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีความโดดเด่น ควบคู่กับการสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ที่ไทยมีศักยภาพ และสร้างความเข้มแข็งของ Supply Chain
  2. เร่งเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ Smart & Sustainability
  3. ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศและประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค
  4. ส่งเสริม SMEs และ Startup ให้เข้มแข็งและเชื่อมต่อกับโลก
  5. ส่งเสริมการลงทุนตามศักยภาพพื้นที่ เพื่อสร้างการเติบโต อย่างทั่วถึง
  6. ส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม
  7. ส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ

บีไอไอจะใช้เครื่องมือสำคัญ 3 ด้าน เพื่อขับเคลื่อน 7 หมุดหมายให้บรรลุผลสำเร็จ คือ สิทธิประโยชน์ทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี การบริการแบบครบวงจรทั้งก่อนและหลังการลงทุน การสร้างระบบนิเวศและปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุน

ที่มา: สำนักงานส่งเสริมการลงทุน

ภาพรวม

ลำดับเหตุการณ์

  • ประกาศยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (2566-70)  ดูเพิ่มเติม ›

    12 ต.ค. 2568

  • แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2534  ดูเพิ่มเติม ›

    24 ม.ค. 2560

  • แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2534  ดูเพิ่มเติม ›

    10 พ.ย. 2544

  • จัดตั้งศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี (แหลมฉบัง) ในปี 2535 และเปิดทำการอย่างเป็นทางการ เมื่อ 17 ก.พ. 38 ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

    15 ก.พ. 2538

  • แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2534  ดูเพิ่มเติม ›

    21 พ.ย. 2534

  • จัดตั้งสำนักงานภูมิภาคแห่งแรก "ศูน์เศรษฐกิจการลงทุน ภาค 2" นครราชสีมา

    9 พ.ค. 2531

  • จัดตั้งสำนักงานในต่างประเทศ 2 แห่ง ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี

    20 พ.ค. 2524

  • ประกาศใช้พระราชบัญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520  ดูเพิ่มเติม ›

    4 พ.ค. 2520

  • ปรับปรุงกฎหมาการลงทุน ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 227 เน้นการผลิตเพื่อส่งออก

    21 ต.ค. 2516

  • ปลี่ยนชื่อเป็น "คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน" และ "สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน" ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 227

    21 ต.ค. 2516

  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ตั้งขึ้นเมื่อปี 2509 ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม

    21 ม.ค. 2509

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

งยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570)
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ( 2561-2580) แผนการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566-2570)

เชิงกระบวนการ

มุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่
สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) มุ่งส่งเสริม สนับสนุนและสร้างบรรากาศการลงทุนไปสู่เศรษฐกิจใหม่

เชิงการเมือง

เป้าหมาและตัวชี้วัดตามยุทธศาสตร์
คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนปีละ 300,000 ล้านบาท
มูลค่าการลงทุนที่ได้รับบัตรส่งเสริมปีละ 200,000 ล้านบาท
จำนวนนักลงทุนตามอุตสาหกรรมเป้าหมายปีละ 8 ราย

บทความ

ดูทั้งหมด
จุดเปลี่ยนลงทุนต่างชาติในไทย เข้าสู่ยุคภาคบริการ

จุดเปลี่ยนลงทุนต่างชาติในไทย เข้าสู่ยุคภาคบริการ

โครงสร้างการลงทุนต่างชาติในไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา เม็ดเงินลงทุนจากจีนเพิ่มเป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่จากญี่ปุ่นลดลงเรื่อย ๆ แต่กิจการลงทุนเริ่มเปลี่ยนจากภาคอุตสาหกรรมมาเป็นภาคบริการ สะท้อนเศรษฐกิจไทยกำลังเปลี่ยนไปสู่ภาคบริการมากขึ้น

นโยบายภาษีทรัมป์: คว่ำภูมิทัศน์การค้าโลก ทำเศรษฐกิจไทยเสี่ยงถดถอย

นโยบายภาษีทรัมป์: คว่ำภูมิทัศน์การค้าโลก ทำเศรษฐกิจไทยเสี่ยงถดถอย

นโยบายภาษีทรัมป์ (Trump tariffs) ที่ประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา กลายมาเป็นความท้าทายใหม่ของเศรษฐกิจไทย ที่ผลกระทบอาจแผ่เป็นวงกว้างและลากยาว และอาจทำให้พัฒนาการของเศรษฐกิจไทยถดถอย บทความนี้พาไปดูว่าทำไมทุกภาคส่วนถึงต้องจับตานโยบายภาษีทรัมป์เป็นพิเศษ

ยกแรกสงครามการค้า ไทยรอดแต่ไม่แน่นอนสูง

ยกแรกสงครามการค้า ไทยรอดแต่ไม่แน่นอนสูง

สงครามการค้ารอบแรก หลังสหรัฐประกาศมาตรการภาษีไปหลายประเทศ พร้อมเปิดให้มีการเจรจา กนง.ประเมินยังมีความเสี่ยงต่ำจากผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ 2.0 แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง นักวิเคราะห์ประเมินไทยกับอินเดียเสี่ยงสูงเจอมาตรการภาษี

ไทย-ลาว จับมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หนุนค้าชายแดน

ไทย-ลาว จับมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หนุนค้าชายแดน

ครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ไทยและสปป.ลาว นายกรัฐมนตี 2 ประเทศ หารือยกระดับความร่วมมือสร้างความมั่นคงชายแดน ปราบแก๊งคอลเซนเตอร์-ยาเสพติด เห็นพ้องวาระด่วนแก้ฝุ่น PM 2.5 พัฒนาการค้าชายแดนดันมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 70

เดือนแรกทรัมป์ 2.0 กระทบอะไรกับไทย ทั้ง"ทางตรง-ทางอ้อม"

เดือนแรกทรัมป์ 2.0 กระทบอะไรกับไทย ทั้ง"ทางตรง-ทางอ้อม"

เดือนแรกของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเดินหน้านโยบายที่ประกาศไว้ โดยเฉพาะการขึ้นภาษีกับประเทศที่สหรัฐฯเห็นว่าเอาเปรียบตนเอง โดยเฉพาะประเทศยักษ์ในเอเซียอย่างจีน ที่สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษี 10% รวมทั้งมีการปรับขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมีเนียม ซึ่งจากมาตรการทางภาษีดังกล่าวกระทบต่อไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม

วีซ่าฟรี กระตุ้นการท่องเที่ยวได้แค่ไหน

วีซ่าฟรี กระตุ้นการท่องเที่ยวได้แค่ไหน

นโยบายวีซ่าฟรีเป็นอีกความหวังสำคัญที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ รวมทั้งช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาคึกคักช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา โดยคาดการณ์ว่าปี 2568 รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะสูงถึง 2.8 ล้านล้านบาท