ThaiPBS Logo

ส่งเสริมการลงทุน

การส่งเสริมการลงทุนเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลได้มีนโยบาส่งเสริมการลงทุนมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ซึ่งจากมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากภาคเกษตรไปสู่ภาคอุตสาหกรรม

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ขั้นตอนเริ่มต้นนโยบาย ประกาศนโยบายต่อสาธารณะ

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

รัฐบาลตั้งเป้าหมายการส่งเสริมการลงทุน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

ภาพรวม

อ่านเพิ่มเติม

ความเคลื่อนไหวล่าสุด

17 ต.ค. 68 เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานประชุมบอร์ดบีโอไอ เห็นชอบ “มาตรการเร่งรัดการลงทุน” เพื่อสนับสนุนนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล โดยบีโอไอจะตั้งทีมพิเศษเพื่อติดตามและเร่งรัดการลงทุนของโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค 3 ด้าน ได้แก่ ด้านไฟฟ้า ด้านการจัดหาพื้นที่สำหรับการลงทุน และด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน

นอกจากนี้ บีโอไอจะดำเนินการจัดทำระบบ Thailand FastPass เพื่อเป็นกลไกที่จะใช้ต่อเนื่องระยะยาวในการเร่งรัดโครงการลงทุนสำคัญ ทั้งนี้ บอร์ดบีโอไอได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกโครงการเข้าสู่ระบบ “Thailand FastPass” ซึ่งต้องเป็นโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ ยานยนต์และชิ้นส่วน เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ดิจิทัลและ AI เป็นต้น อีกทั้งเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระดับสูง เช่น การจ้างงานบุคลากรไทย การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในประเทศ และการยกระดับเทคโนโลยี

บอร์ดบีโอไอ เห็นชอบการเปิดให้การส่งเสริมการลงทุน “กิจการผลิตส่วนประกอบหลักของเซลล์แบตเตอรี่สำหรับแบตเตอรี่ความจุสูง (High Density Battery)” ได้แก่ ขั้วแคโทด (Cathode) ขั้วแอโนด (Anode) อิเล็กโตรไลต์ (Electrolyte) และตัวแยกขั้วไฟฟ้า (Separator) เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่มูลค่าอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าให้ครบวงจรและแข่งขันได้ในระดับโลก โดยการลงทุนในกิจการดังกล่าวจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี

ความเป็นมาของนโยบายส่งเสริมการลงทุนในไทย

จุดเริ่มต้น ในปี 2497

นโยบายส่งเสริมการลงทุนเริ่มขึ้นครั้งแรกในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยมี พระราชบัญญัติส่งเสริมอุตสาหกรรม พ.ศ. 2497 เป็นกฎหมายฉบับแรกที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุน   

ในช่วงนี้รัฐบาลต้องการแก้ปัญหารายได้จากการส่งออกที่ลดลง โดยส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ยังจำกัด มีเพียง 9 รายที่ยื่นขอรับการส่งเสริม และได้รับอนุมัติเพียง 6 ราย

การปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 2503

ในสมัยรัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีการยกเลิกกฎหมายเดิมและตรา พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม พ.ศ. 2503 แทนกฎหมายฉบับเดิม โดมีการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม ซึ่งมีกรรมการ 36 คน โดยมี ทวี บุณยเกตุ เป็นประธาน   ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักคือการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในปี 2509

เมื่อ 21 ม.ค. 09  รัฐบาลจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม มีฐานะเทียบเท่ากรม สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี  โดยในช่วงแรกยังไม่มีบุคลากรประจำ ต้องยืมตัวข้าราชการจากหน่วยงานอื่นมาทำงานชั่วคราว

ต่อมามีการการเปลี่ยนชื่อและปรับโครงสร้าง ในปี 2515 โดเมื่อ 21 ต.ค. 15  มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน” และ “สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน” ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 227

นับตั้งแต่นั้นมา สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)  เป็นหน่วงานที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

การปรับปรุงกฎหมายและโครงสร้างในยุคหลัง

ในปี 2520 มีการออก พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้ง (ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2534, ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2544, และฉบับที่ 4 พ.ศ. 2560)   

ต่อมาในปี 2545 รัฐบาลโอนบีโอไอไปสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ในปี 2557 ถูกโอนกลับมาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง   

ในปี 2560 มีการเปิดศูนย์บุคลากรทักษะสูงเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย

บทบาทและหน้าที่ของบีโอไอในปัจจุบัน

บีโอไอมีหน้าที่หลักในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและไม่เกี่ยวกับภาษี :

  • ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
  • อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้น 100%
  •  อำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าทำงานและใบอนุญาตทำงาน
  •  บีโอไอยังมีสำนักงานทั้งในและต่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน
  • การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

ในยุคปัจจุบัน นโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทยยังคำนึงถึง เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน) และเป้าหมายที่ 9 (การพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรม)

สรุปได้ว่า นโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทยมีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ทศวรรษ 2490 จนถึงปัจจุบัน โดยมีบีโอไอเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมของประเทศอย่างยั่งยืน

เป้าหมายส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กำหนดเป้าหมายหลักที่ต้องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้บรรลุผล 3 ประการ

  • Innovative: เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์
  • Competitive: เป็นเศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถปรับตัวได้เร็ว และสร้างการเติบโตสูง
  • Inclusive: เป็นเศรษฐกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งการสร้าง โอกาส และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ

ส่งเสริมการลงทุนในการพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค (Regional Hub) อย่างน้อยใน 5 ด้าน

  • Tech Hub เป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านดิจิทัล ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และอุตสาหกรรมอนาคต เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เป็นต้น
  • BCG Hub เป็นศูนย์กลางการลงทุนตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมชีวภาพ พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นต้น
  • Talent Hub เป็นศูนย์รวมผู้มีศักยภาพจากทั่วโลก เช่น ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทักษะสูง ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย กลุ่มสตาร์ตอัป ไปจนถึงนักลงทุนและผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจสูง เป็นต้น
  • Logistics & Business Hub เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ตลอดจนเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจระหว่างประเทศ โดยเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาค (Regional Headquarter) ธุรกิจบริการ ธุรกิจด้านการเงินและการค้าระหว่างประเทศ
  • Creative Hub เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ดิจิทัลคอนเทนต์ เกมและอีสปอร์ต โดยใช้ศักยภาพด้านวัฒนธรรมของไทย ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่เวทีโลก

7 หมุดหมายสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่ และยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค ประกอบด้วย

  1. การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีความโดดเด่น ควบคู่กับการสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ที่ไทยมีศักยภาพ และสร้างความเข้มแข็งของ Supply Chain
  2. เร่งเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ Smart & Sustainability
  3. ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศและประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค
  4. ส่งเสริม SMEs และ Startup ให้เข้มแข็งและเชื่อมต่อกับโลก
  5. ส่งเสริมการลงทุนตามศักยภาพพื้นที่ เพื่อสร้างการเติบโต อย่างทั่วถึง
  6. ส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม
  7. ส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ

บีไอไอจะใช้เครื่องมือสำคัญ 3 ด้าน เพื่อขับเคลื่อน 7 หมุดหมายให้บรรลุผลสำเร็จ คือ สิทธิประโยชน์ทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี การบริการแบบครบวงจรทั้งก่อนและหลังการลงทุน การสร้างระบบนิเวศและปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุน

ที่มา: สำนักงานส่งเสริมการลงทุน

ลำดับเหตุการณ์

  • คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมีเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเป็นประธาน เห็นชอบ "มาตรการเร่งรัดการลงทุน" เพื่อสนับสนุนนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล  ดูเพิ่มเติม ›

    17 ต.ค. 2568

  • บีโอไอ นำผู้บริหาร 30 บริษัทชั้นนำของโลกที่ลงทุนในไทย เข้าพบ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศ

    6 ส.ค. 2568

  • นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ บีโอไอ ระบุ ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนครึ่งปี 68 มี 1,880 โครงการ เพิ่มขึ้น 38% YoY มูลค่าเงินลงทุน 1,058,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138% YoY  ดูเพิ่มเติม ›

    24 ก.ค. 2568

  • คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) เห็นชอบ มาตรการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทย รับมือการค้าโลกยุคใหม่ โดยมีมาตรการสำคัญ 4 ด้าน  ดูเพิ่มเติม ›

    19 พ.ค. 2568

  • ประกาศยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (2566-70)  ดูเพิ่มเติม ›

    12 ต.ค. 2568

  • แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2534  ดูเพิ่มเติม ›

    24 ม.ค. 2560

  • แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2534  ดูเพิ่มเติม ›

    10 พ.ย. 2544

  • จัดตั้งศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี (แหลมฉบัง) ในปี 2535 และเปิดทำการอย่างเป็นทางการ เมื่อ 17 ก.พ. 38 ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

    15 ก.พ. 2538

  • แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2534  ดูเพิ่มเติม ›

    21 พ.ย. 2534

  • จัดตั้งสำนักงานภูมิภาคแห่งแรก "ศูน์เศรษฐกิจการลงทุน ภาค 2" นครราชสีมา

    9 พ.ค. 2531

  • จัดตั้งสำนักงานในต่างประเทศ 2 แห่ง ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี

    20 พ.ค. 2524

  • ประกาศใช้พระราชบัญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520  ดูเพิ่มเติม ›

    4 พ.ค. 2520

  • ปรับปรุงกฎหมาการลงทุน ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 227 เน้นการผลิตเพื่อส่งออก

    21 ต.ค. 2516

  • ปลี่ยนชื่อเป็น "คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน" และ "สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน" ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 227

    21 ต.ค. 2516

  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ตั้งขึ้นเมื่อปี 2509 ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม

    21 ม.ค. 2509

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

งยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570)
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ( 2561-2580) แผนการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566-2570)

เชิงกระบวนการ

มุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่
สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) มุ่งส่งเสริม สนับสนุนและสร้างบรรากาศการลงทุนไปสู่เศรษฐกิจใหม่

เชิงการเมือง

เป้าหมาและตัวชี้วัดตามยุทธศาสตร์
คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนปีละ 300,000 ล้านบาท
มูลค่าการลงทุนที่ได้รับบัตรส่งเสริมปีละ 200,000 ล้านบาท
จำนวนนักลงทุนตามอุตสาหกรรมเป้าหมายปีละ 8 ราย

บทความ

ดูทั้งหมด
ทีดีอาร์ไอเสนอโมเดล"ยกระดับภาคบริการ" ทางรอดเศรษฐกิจไทย

ทีดีอาร์ไอเสนอโมเดล"ยกระดับภาคบริการ" ทางรอดเศรษฐกิจไทย

ทีดีอาร์ไอเสนอโมเดล “ก้าวข้ามโลกเก่า ด้วยโมเดลใหม่ในการพัฒนาประเทศ” หลังเศรษฐกิจเติบโตช้า เรื้อรัง รั้งท้ายอาเซียน เสนอโมเดลใหม่ “พัฒนาแบบลีน” ลดความสูญเสียที่ไม่จำเป็น สร้าง “Good Jobs” ให้คนมีงานที่ดีทำ สร้างอุตสาหกรรมใหม่ เชื่อหากทำเรื่องสำคัญเหล่านี้ได้สำเร็จ ไทยจะพ้นกับดักรายได้ปานกลางได้ในอีก

งัดมาตรการบีโอไอปลุกเอสเอ็มอี แข่งขันในตลาดโลก

งัดมาตรการบีโอไอปลุกเอสเอ็มอี แข่งขันในตลาดโลก

รัฐบาลดันนโยบายที่ต้องทำเร่งด่วน หรือ Quick Big Win ผลักดันเอสเอ็มอีไทย เพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน ผ่านมาตรการบีโอไอสนับสนุนธุรกิจเปลี่ยนผ่านกิจการไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ของโลก และสนับสนุนเงินจัดอบรมเพิ่มทักษะคนเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ หลังเริ่มมีสัญญาณไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาด

ธุรกิจท่องเที่ยวไทยกำลัง "อัสดง" ใต้เงาทุนเทาต่างชาติ

ธุรกิจท่องเที่ยวไทยกำลัง "อัสดง" ใต้เงาทุนเทาต่างชาติ

ธุรกิจท่องเที่ยวไทยกำลังย่ำแย่ สภาพัฒน์เผยหลังช่วงโควิด-19 ต่างชาติทะลัก เข้าทำธุรกิจที่พักแรมและร้านอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มทุนสีเทาที่มาอย่างผิดกฎหมาย ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีต้นสูงขึ้นและโดนตัดราคา จนแข่งขันในตลาดได้ยาก แม้บางส่วนจะปรับตัวแล้ว แต่อาจไม่พอรับมือผลกระทบ หากสถานการณ์นี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น

ต่างชาติชะลอลงทุน กังวลผลกระทบภาษีทรัมป์

ต่างชาติชะลอลงทุน กังวลผลกระทบภาษีทรัมป์

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต่างชาติบางส่วนชะลอลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ของไทย พบว่ามูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนลดลง -50%YOY

WFH : วิถีชีวิตเปลี่ยน ความต้องการพื้นที่สำนักงานลด

WFH : วิถีชีวิตเปลี่ยน ความต้องการพื้นที่สำนักงานลด

คาดตลาดอาคารสำนักงานให้เช่า มีแนวโน้มผู้เช่าลดลงแตะ 73% ในปี 68 และต่ำกว่า 70% ในปี 69 หลังโควิด-19 เปลี่ยนหลายองค์กรให้พนักงานทำงานที่บ้านหรือนอกสถานที่มากขึ้น โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ

จุดเปลี่ยนลงทุนต่างชาติในไทย เข้าสู่ยุคภาคบริการ

จุดเปลี่ยนลงทุนต่างชาติในไทย เข้าสู่ยุคภาคบริการ

โครงสร้างการลงทุนต่างชาติในไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา เม็ดเงินลงทุนจากจีนเพิ่มเป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่จากญี่ปุ่นลดลงเรื่อย ๆ แต่กิจการลงทุนเริ่มเปลี่ยนจากภาคอุตสาหกรรมมาเป็นภาคบริการ สะท้อนเศรษฐกิจไทยกำลังเปลี่ยนไปสู่ภาคบริการมากขึ้น