ThaiPBS Logo

กระจายอำนาจ

ข้อเสนอเพื่อปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของกลุ่มพีมูฟ เป็น 1 ใน 10 ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ยื่นต่อรัฐบาล 'เศรษฐา ทวีสิน' สอดรับกับการเคลื่อนไหวจากหลายภาคส่วนในสังคมที่เรียกร้องกระจายอำนาจมาตลอดนับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา

อ่านเพิ่มเติม

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ข้อเสนอนโยบายปรากฏสู่สาธารณะ

วางแผน

ภาคการเมืองรับเรื่อง

ตัดสินใจ

ภาครัฐรับเรื่อง

ดำเนินงาน

ภาครัฐนำไปพิจารณาบรรจุในแผนเพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณ

ประเมินผล

ดำเนินการ

อ่านเพิ่มเติม

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  2540  มาตรา 78 กำหนดว่า รัฐจะต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นพึ่งตนเองและตัดสินใจในกิจการท้องถิ่นได้เอง พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และระบบสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ ตลอดทั้งโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศในท้องถิ่นให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกันทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนาจังหวัดที่มีความพร้อมให้เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ โดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนในจังหวัดนั้น

นับเป็นจุดเริ่มต้นการกระจายอำนาจที่สำคัญ  และเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐให้ความเป็นอิสระแก่ท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเอง ตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นทั้งอิสระในการกำหนดนโยบายการปกครอง การบริหาร การบริหารงานบุคคล การเงิน การคลัง และมีอำนาจหน้าที่ของตนเอง 

ต่อยอดมาสู่แนวคิดการ “เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด” ถูกนำเสนอต่อสังคมหลายครั้ง ตั้งแต่แนวคิดทฤษฎี มุมมองทางวิชาการ ข้อเสนอจากภาคประชาสังคม รวมถึงการยกตัวอย่างต่างประเทศ ฯลฯ หนึ่งในเหตุผลที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเสมอ คือเพื่อแก้ปัญหาการรวมศูนย์อำนาจการบริหารประเทศไว้ที่ส่วนกลาง ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศได้หลากหลายมิติมากขึ้น

แต่แทบทุกครั้งที่มีข้อเสนอให้ “เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด” เพื่อเดินหน้าปฏิรูประบบราชการและสนับสนุนการกระจายอำนาจเต็มรูปแบบ ข้อเสนอดังกล่าวมักถูกต่อต้านจาก “ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย” เป็นอย่างมาก

นอกจากการแสดงทรรศนะในระดับผู้บริหารของกระทรวงฯ ส่วนกลาง หลายครั้งยังมีความเคลื่อนไหวโดยกลุ่มข้าราชการในระดับภูมิภาค ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัด กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ

หนึ่งในเหตุผลที่มักถูกหยิบยกมาถกเถียงในเชิงวิชาการ คือ การที่ประเทศไทยเป็นรัฐเดี่ยว ประชาชนไม่พร้อม รายได้แต่ละจังหวัดไม่เพียงพอต่อการจัดการงบประมาณและค่าใช้จ่าย รวมถึงความกังวลว่าจะมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ เพราะเห็นตัวอย่างในการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ

กระทั่งปี 2565 มีการเกิดขึ้นของแคมเปญ #เลือกตั้งผู้ว่าฯทั่วประเทศ ความหวัง กระจายอำนาจสู่ต่างจังหวัด โดยกลุ่ม We’re All Voters  เพื่อรวบรวมรายชื่อประชาชนผ่าน Change.org แต่ดูเหมือนว่ากระแสของสังคมยังไม่ได้ผลักให้ข้อเสนอนี้ถูกขยายผลไปสู่การรับรู้ของประชาชนในวงกว้าง หรือท่าทีตอบรับจากภาครัฐ มีเพียงการถูกยกระดับไปสู่การจัดทำเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองหลายพรรค ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่แตกต่างกันที่รายละเอียด

ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง 2566 พรรคก้าวไกลชูนโยบายการกระจายอำนาจในการหาเสียง แต่สุดท้ายเมื่อไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนโยบายนี้จึงไม่ถูกขานรับจากภาคการเมือง ในขณะที่  ‘เศรษฐา ทวีสิน’ จากพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศได้ประกาศนโยบาย ผู้ว่าฯ CEO เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการบริหารงานในแต่ละจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

ต่อมา ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ P Move ยื่นเรื่องข้อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐบาล ด้านการกระจายอำนาจ ขอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง เพื่อปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ช่วงเลือกตั้ง นายก อบจ. 1 ก.พ. 2568  47 จังหวัด และ สมาชิก อบจ. 76 ทั่วประเทศ  หลายภาคส่วนเริ่มกลับมาเคลื่อนไหว ประเด็นการกระจายอำนาจการปกครองท้องถิ่นอีกครั้ง โดยหยิบยกเรื่องบทบาท อำนาจ หน้าที่ ตลอดจนการใช้งบประมาณของ อบจ. ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

 

 

ภาพรวม

ลำดับเหตุการณ์

  • เลือกตั้ง นายก อบจ. จุดกระแสการบริหารจัดการท้องถิ่น

    1 ก.พ. 2568

  • ครม. รับทราบข้อเสนอพีมูฟ 10 ด้าน

    10 ต.ค. 2566

  • พีมูฟชุมนุม พร้อมเสนอข้อเสนอเชิงนโยบาย 10 ด้าน หนึ่งในนั้นคือ "ขอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง"

    3 ต.ค. 2566

  • พรรคก้าวไกล เสนอนโยบาย เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ในการหาเสียงเลือกตั้ง 2566

    23 เม.ย. 2566

  • แคมเปญลงชื่อรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ โดยกลุ่ม We’re All Voters

    12 เม.ย. 2565

  • นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านยื่น สปช. ค้านเลือกตั้งพ่อเมือง เลิกอำนาจบริหารส่วนภูมิภาค อ้างสร้างความแตกแยก

    19 มิ.ย. 2558

  • เครือข่ายเชียงใหม่จัดการตนเอง จัดกิจกรรม “120 วัน ก้าวผ่าน 120 ปีของการรวมศูนย์อำนาจ” เผยแพร่ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเชียงใหม่มหานคร ให้ผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้ง

    24 มิ.ย. 2555

  • ชำนาญ จันทร์เรือง เปิดร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเชียงใหม่มหานคร ฉบับประชาชน ให้ผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้ง

    1 ม.ค. 2554

  • รัฐธรรมนูญ 2540 กำหนดว่า “รัฐจะต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นพึ่งตนเองและตัดสินใจในกิจการท้องถิ่นได้เอง

    2540

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

กลุ่ม We’re All Voters
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
เครือข่ายจังหวัดจัดการตนเอง
สถาบันพระปกเกล้า

บทความ

ดูทั้งหมด
"ภาษีบ้านเกิด" ปลดล็อกกระจายงบสู่ท้องถิ่น

"ภาษีบ้านเกิด" ปลดล็อกกระจายงบสู่ท้องถิ่น

แม้ไทยจะมีกฎหมายกระจายอำนาจการเงินการคลังสู่ท้องถิ่นมานาน แต่ยังเผชิญปัญหารัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถพัฒนาศักยภาพ นักวิชาการเสนอภาษีบ้านเกิด หวังปลดล็อกงบประมาณให้ท้องถิ่นวางแผนพัฒนาพื้นที่ของตัวเองได้

เทศบาลกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในท้องถิ่น

เทศบาลกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในท้องถิ่น

ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพียงวาระตามวัฏจักรของการเมืองท้องถิ่น หากแต่เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนจะได้ใช้สิทธิในการกำหนดทิศทางของคุณภาพชีวิตในระดับใกล้ตัวที่สุด

ถนนลูกคลื่น กับปัญหากระจายอำนาจ

ถนนลูกคลื่น กับปัญหากระจายอำนาจ

ชีวิตประจำวันของคนกรุง เจอปัญหามากมาย แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากพิจารณาลึกลงไป อาจเป็นปัญหาเดิมที่พูดกันมานาน นั่นคือ การกระจายอำนาจ ซึ่งการรวมศูนย์อำนาจการบริหาร ทำให้ไม่มีการแก้ไขปัญหา และหลายปัญหาเรื้อรัง หน่วยงานรัฐบาลกลางควรแบ่งภาระต่างให้กทม. และท้องถิ่นช่วยดูแล

สตง. กับการตรวจสอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

สตง. กับการตรวจสอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ในช่วงเวลากว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตกเป็นที่กล่าวถึงและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จากเหตุการณ์ตึกถล่มอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค. 68 ซึ่งนำไปสู่คำถามเกี่ยวกับบทบาทและการปฏิบัติหน้าที่ของ สตง.

6 วาระเร่งด่วน พัฒนาเชียงใหม่ จากประชาชน

6 วาระเร่งด่วน พัฒนาเชียงใหม่ จากประชาชน

ชาวเชียงใหม่อยากเห็น ผู้บริหาร อบจ.ชุดใหม่ เดินหน้าร่วมพัฒนาจังหวัด เปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจทุกขั้นตอน แก้ปัญหา คุณภาพชีวิต-เศรษฐกิจ-ปัญหาฝุ่นควัน-การศึกษา-สิทธิการเดินทาง และการกระจายอำนาจ

สร้างกลไกต้านโกง พัฒนาท้องถิ่นยั่งยืน

สร้างกลไกต้านโกง พัฒนาท้องถิ่นยั่งยืน

ปล่อยให้การทุจริตกัดกินสังคมไทยมานานแค่ไหน ? ถึงเวลาแล้วที่ “หลังการเลือกตั้ง อบจ. 2568” จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ทุกคนร่วมมือกันสร้างกลไกตรวจสอบผู้นำท้องถิ่น เพื่อหยุดยั้งการคอร์รัปชัน และพลิกฟื้นบ้านเราให้กลับมาสดใสอีกครั้ง