ThaiPBS Logo

ออมเงินเกษียณผ่านกอช. ได้มากกว่าที่คิด ดีกว่าฝากแบงก์

20 มิ.ย. 256816:27 น.
ออมเงินเกษียณผ่านกอช. ได้มากกว่าที่คิด ดีกว่าฝากแบงก์
  • กอช.เป็นกองทุนการออมของรัฐบาล ที่เปิดให้กับอาชีพอิสระที่ไม่ได้มีสวัสดิการอิ่นรองรับ เริ่มต้นออมได้ตั้งแต่อายุ 15 จนถึง 60 ปี หลังจากนั้นรับเงินเกษียณเป็นรายเดือน
  • นอกจากเงินออมแล้ว รัฐบาลช่วยออมเพิ่มให้อีกสูงสุด 100% และยังได้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่าเงินฝากธนาคาร
  • เลขาธิการ กอช. ยอมรับสมาชิกน้อย เพราะเป็นภาคสมัครใจ การสื่อสารมีข้อจำกัด คนต่างจังหวัดรู้เรื่องการเงินน้อย
รู้จักกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ระบบออมเงินแบบภาคสมัครใจ รัฐบาลสมทบสูงสุด 100% พร้อมผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เริ่มส่งเงินได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี รับเงินตอนเกษียณอายุ 60 ปี เหมาะกับอาชีพอิสระ และนักเรียนนักศึกษา 

รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนออมเงิน เพื่อรับมือกับวิกฤตสังคมสูงวัย หรือมีผู้สูงอายุเกิน 60 ปี จำนวนมากเกินกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงที่รัฐบาลจะต้องจัดสรรงบประมาณจำนวนมากขึ้นเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้ รัฐจึงได้จัดให้มีระบบการออมของประชาชนทั้งแบบภาคบังคับและภาคสมัครใจ หนึ่งในนั้น คือ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

กอช. เป็นกองทุนการออมแบบภาคสมัครใจ หรือไม่บังคับ ที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาล เพื่อให้แรงงานนอกระบบ หรือ ผู้มีอาชีพอิสระ ที่ไม่มีไม่มีสวัสดิการอื่นใดรองรับได้มีเงินบำเหน็จบำนาญไว้ใช้ในช่วงตอนเกษียณอายุ 60 ปี

โดยมีเป้าหมายลดความเลื่อมล้ำในสังคม และสร้างหลักประกันที่มั่นคงในชีวิตประชาชน สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) มุ่งเน้นด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม สร้างความมั่นคงของผู้สูงอายุให้มีรายได้ที่พอเพียงจนถึงวัยเกษียณ

กอช.

ใครมีสิทธิ-ไม่มีสิทธิสมัคร กอช.

ผู้ที่สิทธิสมัคร กอช. จะต้องมีสัญญาชาติไทย อายุ 15 – 16 ปี นักเรียน นักศึกษา ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อาสาสมัคร (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) ลูกจ้างหน่วยงานรัฐ เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า รับจ้างทั่วไป และผู้ประกันตน มาตรา 40 ทางเลือก 1 (ที่จ่ายเงินเองเดือนละ 70 บาท)

ส่วนผู้ที่ไม่มีสิทธิได้สมัคร คือ สมาชิกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้างราชการกรุงเทะมหานคร กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ผู้ประกันตน มาตรา 33 (พนักงาน/ลูกจ้างบริษัท) ผู้ประกันตน มาตรา 39 ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือก 2 และ 3 (เนื่องจากมีบำเหน็จ) สุดท้ายพนักงานบริษัท หรือองค์กรรัฐวิสาหกิจ (ที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ)

ได้เงินออมบวกดอกเบี้ยและรัฐสมทบเพิ่ม

รูปแบบการออม กอช. จะให้สมาชิกส่งเงินออมจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ เริ่มตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป จะออมเป็นรายเดือนหรือรายปี เลือกได้ตามความสมัครใจ แต่รวมทั้งปีจะออมได้ไม่เกิน 30,000 บาท โดยรัฐบาลจะช่วยจ่ายสมทบให้ทุกครั้งที่มีการส่งเงิมออมเข้าบัญชี (เงินจะเข้าในเดือนถัดไป) รวมทั้งปีไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี  ซึ่งแต่ละช่วงอายุรัฐจะจ่ายสมทบให้ไม่เท่ากัน  คือ อายุ 15-30 ปี รัฐช่วยจ่ายสมทบ 50% ของเงินออมที่ส่งเข้าไป อายุ 30-50 ปี รัฐช่วยสมทบ 80% และอายุ 50-60 ปี รัฐช่วยสมทบ 100%

เมื่ออายุครบ 60 ปี กอช.จะจ่ายคืนให้กับสมาชิกเป็นรายเดือนจนถึงอายุ 80 ปี โดยใช้เงินจากในบัญชีที่สมาชิกเก็บออม และรัฐบาลช่วยจ่ายสมทบให้ รวมถึงผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนต่าง ๆ (การันตีไม่น้อยกว่าเงินฝากประจำ 12 เดือนของธนาคาร)

กอช.,กองทุนการออมแห่งชาติ

เร่งให้ความรู้การเงิน-ตั้งเป้าสมาชิก 3 ล้านคน

ปัจจุบัน ณ สิ้นเดือน พ.ค. 68 สมาชิก กอช. มีจำนวนเพียง 2.76 ล้านคน เมื่อเทียบกับแรงงานนอกระบบปี 67 ที่มีจำนวนกว่า 21 ล้านคน จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. กล่าวกับ Policy Watch ถึงสาเหตุที่มีแรงงานนอกระบบสมัครออมเงินกับ กอช. จำนวนไม่มาก เพราะกองทุน กอช. ไม่ใช่ภาคบังคับ จำกัดอายุ 15-60 ปี ต้องเป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่มีสิทธิประกันสังคม มาตรา 33 มาตรา 39 มาตรา 40 ทางเลือกที่ 2 และทางเลือกที่ 3 รวมถึงต้องไม่เป็นข้าราชการ ส่งผลให้การหาสมาชิกเพิ่มเติมค่อนข้างลำบาก อีกทั้งแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า คนต่างจังหวัด และเกษตรกร

บางคนมองว่าเงินที่ใช้อยู่เป็นเงินออมที่เพียงพอ แต่ความจริงต้องคิดว่าเงินที่มีอยู่นั้นจะบริหารจัดการอย่างไร เช่น ต้องออมเงินก่อนใช้ โดย กอช. พยายามให้ความรู้กับประชาชน ด้วยการลงพื้นที่สอนความรู้เรื่องการเงิน เพื่อให้เข้าใจว่าการเก็บเงินสำคัญอย่างไร และการออมกับกอช. ก็จะได้เงินสมทบเพิ่มจากรัฐบาลด้วย ซึ่งเป็นสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ

จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

เลขาธิการ กอช. ยอมรับว่า การประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ทำได้ไม่ครอบคลุม เหตุผลที่หนึ่ง เพราะกลุ่มเป้าหมายอยู่ในพื้นที่ชนบทต่างจังหวัดจำนวนมาก แตกต่างจากคนในกรุงเทพมหานครที่ส่วนมากเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ข้าราชการ อาจจะมีพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนแต่อายุก็เกิน 60 ปี เหตุผลที่สอง เรื่องการจัดการเงิน คนในต่างจังหวัดไม่เข้าใจว่าเกษียณแล้วต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ และไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ จึงเป็นหน้าที่ของ กอช. ที่จะต้องไปให้ความรู้ทางการเงิน เพื่อให้คนได้เริ่มต้นออมเงิน

ที่ผ่านมา กอช. ได้หาทางเพิ่มสมาชิกด้วยการรณรงค์ผ่านโรงเรียนและมหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายต้องการให้นักเรียนอายุ 15 ปี สมัครเข้ามาเป็นสมาชิก เพราะเข้าข่ายได้สิทธิแล้ว และเมื่อจบการศึกษาออกไป แม้ทำงานก็ยังคงเป็นสมาชิกต่อได้ และอย่างน้อยเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก เพราะคนทำงานอาชีพอิสระ ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม้ค้าจำนวนมาก ซึ่งการเดินไปรณรงค์ตามถนนก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร จึงต้องใช้เครือข่ายภาคเอกชน หรือธนาคารของรัฐ เข้ามาช่วยในส่วนนี้

“เราอยากเห็นสมาชิกสัก 3 ล้านคน ในอีก 2 ปีข้างหน้า และถ้ามีนโยบายใหม่เข้ามาก็จะทำให้สมาชิกเรามากขึ้น”

สำหรับเงินสมทบที่รัฐบาลจ่ายเพิ่มให้นั้น เป็นเงินที่มาจากงบประมาณแผ่นดิน เมื่อสมาชิกมีการออมเงิน กอช.จะต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มให้ทุกคนตามสัดส่วนของอายุสมาชิกทันที ไม่สามารถค้างจ่ายได้ ทั้งนี้สมาชิกสามารถตรวจสอบสถานะเงินออมของตนเองได้ที่แอปพลิเคชั่น

เปิดพอร์ตลงทุน กอช.

นอกจากนี้ กอช.จะนำเงินออมของสมาชิก ไปลงทุนตามนโยบายการลงทุนที่มีคณะกรรมการบริหารจัดการลงทุน ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล  ตราสารหนี้เอกชน และตลาดหุ้นไทย ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนจะมอบให้กับสมาชิกทุกคน โดยรับประกันว่าจะไม่แพ้เงินฝากประจำ 1 ปี ของธนาคาร และหากบริหารได้ผลตอบแทนต่ำกว่าเงินฝากประจำ กอช.ก็จะจ่ายชดเชยให้ด้วย

ปัจจุบัน ณ สิ้นเดือน พ.ค.68  กอช.มีมูลค่าทรัพย์สิน 15,035 ล้านบาท สัดส่วนการลงทุนแบ่งเป็น

  • เงินสด เงินฝากธนาคาร มีสัดส่วน 17.81%
  • ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย มีสัดส่วน 47.89%
  • ตราสารแสดงสิทธิในหนี้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย มีสัดส่วน 1.30%
  • ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่รัฐวิสาหกิจว่าด้วยวิธีการงบประมาณเป็นผู้ออก มีสัดส่วน 4.03%
  • ตราสารแสดงสิทธิใบหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับ มีสัดส่วน 14.59%
  • ตราสารทุนเอกชน มีสัดส่วน 13.99%
  • หน่วยลงทุน มีสัดส่วน 0.39%

กอช.,กองทุนการออมแห่งชาติ

สิทธิประโยชน์สมาชิก กอช.

  • ได้รับเงินบำนาญรายเดือนตั้งแต่อายุ 60-80 ปี หรือตลอดชีพ (แล้วแต่กรณี)
  • เงินที่ออมกับ กอช. ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สูงสุด 30,000 บาทต่อปี
  • ไม่จำเป็นต้องออมเท่ากันทุกปี
  • ได้รับการค้ำประกันผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ โดยผลตอบแทนที่ได้รับจะสูงกว่าเงินฝากประจำของธนาคาร
  • ยังสามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากรัฐ หรือสวัสดิการอื่นจากรัฐตามเกณฑ์ที่กำหนดได้

วิธีสมัครผ่านแอปพลิเคชั่นกอช.

การสมัครเป็นสมาชิกกอช. สามารถสมัครได้ผ่านแอปพลิชั่น

  1. อ่านเงื่อนไขการสมัคร และกด “ยอมรับ”
  2. กรอกข้อมูลการสมัคร จากนั้นกด “ตรวจสอบข้อมูล”
  3. กรอบข้อมูลทั่วไปให้ครบถ้วน
  4. กรอกข้อมูลผู้รับผลประโยชน์ จากนั้นกด “ตกลง”
  5. กรอกข้อมูลเพิ่มบุคคลที่ติดต่อได้ จากนั้นกด “ถัดไป”
  6. เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้กด “ตกลง”
  7. ส่งเงินออมงวดแรก โดยกรอกจำนวนเงินออม เลือกวิธีการส่งเงินสะสม เลือกรหัสโครงการตามที่หน่วยงานหรือ กอช. กำหนด (ไม่จำเป็นต้องระบุหากไม่ทราบ) และสุดท้าย กดปุ่ม “บันทึก”
  8. ระบบจะออกใบส่งเงินสะสมที่มีคิวอาร์โค้ด (NSF Payment) ให้สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารกสิกรไทย
  9. การส่งเงินในงวดถัดไป ให้ทำเหมือนข้อ 7. แล้วนำใบส่งเงินสะสมที่ระบบออกให้ จ่ายผ่านเคาน์เตอร์บริการที่กำหนด หรือจ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคาร หรือจ่ายผ่านตู้ ATM และตู้รับฝากเงิน

ทั้งนี้สมาชิก กอช. สามารถไปรับสมุดเงินออมได้ที่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่ต้องมีบัญชีเงินออมกับธนาคารนั้น  ๆ

กอช

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง: 

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

นโยบายการออม

นโยบายการออม นับเป็นนโยบายที่สำคัญของการพัฒนาประเทศในยุคใหม่ เนื่องจากการพัฒนาประเทศจำเป็นต้องใช้เงินทุน ซึ่งที่ผ่านมาในอดีต ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องเงินทุนจึงต้องกู้เงินจากต่างประเทศ ดังนั้นเพื่อลดการพึ่งพาเงินทุน รัฐบาลจึงมีนโยบายส่งเสริมการออม อย่างไรก็ตาม จากสังคมสูงวัย เป้าหมายของการออมเปลี่ยนไปเพื่อวัยเกษียณ

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5

ผู้เขียน: