ThaiPBS Logo

นโยบายการเงิน (Monetary Policy)

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดำเนินนโยบายการเงินผ่าน คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยใช้เครื่องมือหลัก คือ ‘อัตราดอกเบี้ยนโยบาย’ เพื่อรักษาระดับราคาสินค้าและบริการ ไม่ให้เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปจนกระทบกับเศรษฐกิจ โดยกนง.มีการตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 ทำให้การกำหนดนโยบายการงินของไทย "ก้าวสู่ยุคใหม่"

อ่านเพิ่มเติม

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ขั้นตอนเริ่มต้นนโยบาย ประกาศนโยบายต่อสาธารณะ

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

เป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลางและเป้าหมายสำหรับปี 2568 ไว้ที่ 1-3%

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

อ่านเพิ่มเติม

ความเคลื่อนไหวล่าสุด

30 เม.ย. 68 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

กนง.ระบุว่าสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ และการตอบโต้ของประเทศเศรษฐกิจหลักจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการค้าโลกอย่างมีนัย โดยในปัจจุบันยังอยู่ในระยะเริ่มต้นที่ความไม่แน่นอนสูงมาก เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับลดลง สถานการณ์มีแนวโน้มยืดเยื้อและผลกระทบจะทอดยาวไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าการผลิตโลกที่ทำให้ประสิทธิภาพลดลงในระยะยาว ทั้งนี้ นโยบายการค้าโลกของประเทศเศรษฐกิจหลักในอนาคตยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลต่อการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะต่อไป

26 ก.พ. 68 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.25% เป็น 2.00% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 1 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก แม้ว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศและการท่องเที่ยว

นโยบายการเงิน คือ เครื่องมือของธนาคารกลางในการกำหนดต้นทุนการกู้ยืมหรือปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งต้นทุนการกู้ยืมหรือปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ จะส่งผลต่อการทำงานของระบบเศรษฐกิจและราคาสินค้าและบริการอีกทอดหนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมือหลักในการดำเนินนโยบายการเงิน

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นหนึ่งในคณะกรรมการหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งรับผิดชอบด้านการกำหนดทิศทางของนโยบายการเงิน โดยทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ ธปท. อย่างใกล้ชิดในการติดตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ การกำหนดทิศทางนโยบายการเงินของ กนง. จะพิจารณาจากข้อมูลต่าง ๆ ที่ ธปท. นำเสนอให้ทราบ จากนั้นจะนำข้อมูลดังกล่าวไปกลั่นกรองพิจารณาในที่ประชุม เพื่อกำหนดทิศทางของนโยบายการเงิน

นโยบายดอกเบี้ย

กนง.ที่ คณะกรรมการ ธปท. แต่งตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. 3 คน และ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 4 คน

อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน

อำนาจหน้าที่ของ กนง. ระบุไว้อย่างชัดเจนในกฎหมาย ดังนี้

  • กำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินของประเทศ โดยคำนึงถึงแนวนโยบายแห่งรัฐ สภาวะเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ
  • กำหนดนโยบายการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราภายใต้ระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราตามกฎหมายว่าด้วยเงินตรา
  • กำหนดมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายและนโยบายตาม (1) และ (2)
  • ติดตามการดำเนินมาตรการของ ธปท. ตาม (3) ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

พ.ร.บ. ธปท. ฉบับใหม่กำหนดให้ กนง. จัดทำเป้าหมายของนโยบายการเงินของปีถัดไปภายในเดือนธันวาคมของทุกปี เพื่อเป็นแนวทางให้แก่รัฐและ ธปท. ในการดำเนินการ เพื่อดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพด้านราคา โดยทำความตกลงร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและให้รัฐมนตรีเสนอเป้าหมายของนโยบายการเงินที่ได้ทำความตกลงร่วมนั้นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ และ กนง. มีหน้าที่รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรีทุกหกเดือน

ความถี่ในการจัดประชุมกนง.

ประมาณทุก 7-10 สัปดาห์ (ปีละ 6 ครั้ง) กนง. จะประชุมร่วมกันเพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจและการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะมีผลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อพิจารณากำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม ในการประชุม คณะเลขานุการจะรายงานข้อมูลล่าสุดทั้งด้านการเงิน การคลัง การต่างประเทศ และการผลิต ตลอดจนปัจจัยต่างๆ ที่จะกระทบราคาสินค้า อาทิ ราคาน้ำมันโลก นโยบายการเงินของประเทศอื่นๆ หรือราคาสินค้าเกษตรโลกที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพื่อให้ กนง. หารือถึงความเป็นไปได้ในการประมาณการแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

เป้าหมายนโยบายการเงิน

ธปท. ดำเนินนโยบายการเงินเพื่อให้บรรลุ 3 เป้าหมาย คือ เสถียรภาพด้านราคาในระยะปานกลาง เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และเสถียรภาพของระบบการเงิน

ตัวแปรสำคัญในการดำเนินนโยบายการเงินคือ การปรับขึ้นลงของราคาสินค้าและบริการ หรือ “อัตราเงินเฟ้อโดยอัตราเงินเฟ้อที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไปจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ธปท. จึงดำเนินนโยบายการเงินเพื่อให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมกับดูแลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ และระบบการเงินมีเสถียรภาพ หรือที่เรียกว่า การดำเนินนโยบายการเงินโดยใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น (Flexible Inflation Targeting)

ภายใต้กรอบดังกล่าว ธปท. จะผสมผสานเครื่องมือเชิงนโยบาย ทั้งเครื่องมือนโยบายการเงิน มาตรการทางการเงิน มาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน มาตรการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน และมาตรการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้าย เพื่อให้บรรลุทั้งสามเป้าหมายของนโยบายการเงิน เนื่องจากทุกเครื่องมือมีผลเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดการ โดยค่าเงินบาทถูกกำหนดโดยกลไกตลาด และ ธปท. จะเข้าดูแลในกรณีที่ค่าเงินบาทผันผวนมากเกินไป

ธปท. มีกระบวนการตั้งเป้าหมายของนโยบายการเงินอย่างไร ?

ธปท. จะจัดทำเป้าหมายของนโยบายการเงินแบบรายปี โดยจะทำนโยบายเงินล่วงหน้าสำหรับปีถัดไปในช่วงปลายปี ในกระบวนการตั้งเป้าหมายนโยบายการเงิน ธปท. จะทำความตกลงร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติภายในเดือนธันวาคมของทุกปี โดยจะกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อสำหรับปีถัดไปและสำหรับระยะปานกลางเอาไว้ หากอัตราเงินเฟ้อออกนอกกรอบเป้าหมาย ผู้ว่าการ ธปท. จะมีจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่ออธิบายสาเหตุและแนวทางเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับเข้าสู่เป้าหมาย รวมถึงระยะเวลาที่คาดว่าจะกลับเข้าสู่เป้าหมาย โดยเปิดเผยเนื้อหาในจดหมายให้ประชาชนทราบด้วย

ธปท. ตัดสินนโยบายการเงินอย่างไร ?

คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. เป็นผู้กำหนดนโยบายการเงินโดยใช้วิธีเสียงข้างมาก และเปิดเผยจำนวนคะแนนเสียงพร้อมกับผลการตัดสินนโยบายการเงินต่อสาธารณะ

ธปท. ติดตามและประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจอย่างไร ?

นโยบายการเงินใช้เวลาประมาณ 2 ปีถึงจะมีผลเต็มที่ต่อเศรษฐกิจ ธปท. จึงต้องมีการประเมินภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในอนาคตที่น่าเชื่อถือและครบถ้วนรอบด้าน โดยใช้ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ เช่นข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนและเครื่องชี้เร็วด้านเศรษฐกิจ และ ข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น การสัมภาษณ์ผู้ประกอบการเชิงลึกทั่วประเทศ เพื่อให้การตัดสินนโยบายการเงินสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นอกจากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ธปท. ยังติดตามข้อมูลภาวะการเงิน และข้อมูลเสถียรภาพของระบบการเงินในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ธุรกิจ ครัวเรือน สถาบันการเงิน รวมไปถึงสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินโลก เพื่อให้ตัดสินนโยบายบนพื้นฐานของข้อมูลที่ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ภาพรวม

ลำดับเหตุการณ์

  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จากระดับ 2.00% เป็น 1.75% ต่อปี มีผลทันที  ดูเพิ่มเติม ›

    30 เม.ย. 2568

  • ครม.มีมติเห็นชอบ สมชาย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ตามที่กระทรวงคลังเสนอ   ดูเพิ่มเติม ›

    22 เม.ย. 2568

  • ผู้ว่า ธปท. ส่งหนังสือแจ้ง รมว.คลัง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนของไทย อยู่ที่ 0.6% หลุดกรอบล่างของเป้าหมายนโยบายการเงินที่กำหนดให้เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในช่วง 1-3%

    11 เม.ย. 2568

  • ธปท.ระบุอยู่ระหว่างการประเมินผลต่อเศรษฐกิจไทยจากภาษีตอบโต้สหรัฐฯ 37% โดยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมดูแลความผันผวนในตลาดการเงินเพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวม

    3 เม.ย. 2568

  • สมชัย สัจจพงษ์ เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานบอร์ด ธปท. คนใหม่   ดูเพิ่มเติม ›

    28 ก.พ. 2568

  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.25% เป็น 2.00% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 1 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  ดูเพิ่มเติม ›

    26 ก.พ. 2568

  • ครม. มีหนังสือถึง ธปท. ก่อนการประชุม กนง. โดยกดดันลดอกเบี้ย เพื่อให้เงินเฟ้อของประเทศเข้ากรอบเป้าหมาย 1-3% หวังช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

    25 ก.พ. 2568

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน "Trust Thailand เชื่อมั่นประเทศไทย" เรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อช่วยลดค่าภาระประชาชน หลังอัตราเงินเฟ้อต่ำ

    19 ก.พ. 2568

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ในเดือน มี.ค. เตรียมเซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ แทนที่ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ที่จะหมดวาระในเดือน ก.ย  ดูเพิ่มเติม ›

    10 ก.พ. 2568

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ยอมรับส่งชื่อ สมชัย สัจจพงษ์ เข้าคัดเลือกประธานบอร์ดแบงค์ชาติ  ดูเพิ่มเติม ›

    10 ก.พ. 2568

  • คัดเลือกประธานบอร์ด ธปท. รอบใหม่ กระทรวงคลัง เสนอชื่อ สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ขณะที่ ธปท.เสนอชื่อ สุรพล นิติไกรพจน์ ศาสตราจารย์ประจำสาขากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

    5 ก.พ. 2568

  • คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอกำหนดเป้าหมายการดำเนินนโยบายการเงิน หรือ กรอบเงินเฟ้อ ในปี 2568 โดยยังคงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อขยายตัวอยู่ในกรอบ 1-3%

    24 ธ.ค. 2567

  • คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า กิตติรัตน์ ณ ระนอง ขาดคุณสมบัติเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เนื่องจากออกจากที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีไม่ถึง 1 ปี

    24 ธ.ค. 2567

  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% เตรียมรับผลกระทบสงครามการค้า  ดูเพิ่มเติม ›

    18 ธ.ค. 2567

  • ธปท.เผย ในไตรมาส 3/2567 สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2553 ช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์  ดูเพิ่มเติม ›

    26 พ.ย. 2567

  • พิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.)คัดค้านตั้ง กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดธปท.

    18 พ.ย. 2567

  • การสรรหาประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนที่ 5 ได้เสร็จสิ้นแล้ว ประธานกรรมการคัดเลือกฯ จะเสนอชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จากนั้นเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนทูลเกล้าฯแต่งตั้ง

    11 พ.ย. 2567

  • คณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลื่อนการประชุมเลือกประธานไปเป็นวันที่ 11 พ.ย.

    4 พ.ย. 2567

  • นักวิชาการและกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม 227 คน ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อการครอบงำธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยฝ่ายการเมืองเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้น เพราะกระทบต่อเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือระยะยาว

    30 ต.ค. 2567

  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 2.25% ครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี   ดูเพิ่มเติม ›

    16 ต.ค. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นัดหารือกับเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเรื่องการดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วและแรงในช่วงหลัง รวมทั้งพิจารณากรอบเงินเฟ้อ  ดูเพิ่มเติม ›

    24 ก.ย. 2567

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุ อาจมีการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่ เพื่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)สามารถลดดอกเบี้ยได้

    13 มิ.ย. 2567

  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 คงดอกเบี้ย 2.50%  ดูเพิ่มเติม ›

    12 มิ.ย. 2567

  • ธปท.เผยแพร่รายงานนโยบายการเงิน ไตรมาส 1 ปี 2567  ดูเพิ่มเติม ›

    24 เม.ย. 2567

  • ผลการประชุมกนง.ครั้งที่ 2/2567 มีมติ5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี โดย 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%  ดูเพิ่มเติม ›

    10 เม.ย. 2567

  • ผู้ว่าธปท. ทำจม.เปิดผนึก ชี้แจงเงินเฟ้อต่ำกว่ากรอบล่างตามเป้าหมายนโยบายการเงิน  ดูเพิ่มเติม ›

    9 ก.พ. 2567

  • ผลการประชุมกนง.ครั้งที่ 1/2567 มีมติ5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี โดย 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%  ดูเพิ่มเติม ›

    7 ก.พ. 2567

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

เป้าหมายนโยบายการเงิน
รมว.คลัง และ กนง. มีข้อตกลงร่วมกันโดยกำหนดให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 1-3% เป็นเป้าหมายนโยบายการเงินด้านเสถียรภาพราคาสำหรับระยะปานกลาง และเป็นเป้าหมายสำหรับปี 2567
ดูเพิ่มเติม ›

เชิงกระบวนการ

ข้อตกลงและรายงานผลของนโยบาย
กระทรวงการคลังและธปท.จะหารือร่วมกันเป็นประจำ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย และเพื่อดำเนินนโยบายการคลังและนโยบายการเงินเป็นไปในทิศทางที่สอดประสานกัน

เชิงการเมือง

ดูแลเสถียรภาพราคา (เงินเฟ้อ)
กนง. จะมีจดหมายเปิดผนึกถึงรมว.คลังทุก 6 เดือน หากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยยังคงอยู่นอกกรอบเป้าหมาย และจะรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเป็นระยะ

อินโฟกราฟิก

Image 0

บทความ

ดูทั้งหมด
กนง.ลดดอกเบี้ย รับสงครามการค้า คาดกระทบหนักครึ่งปีหลัง

กนง.ลดดอกเบี้ย รับสงครามการค้า คาดกระทบหนักครึ่งปีหลัง

กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 1.75% มีผลทันที ประเมินเศรษฐกิจปีนี้ย่ำแย่ จากนักท่องเที่ยวลดลง และผลกระทบจากสงครามการค้าในครึ่งปีหลัง อาจทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวแค่ 1.3%

จับตาสงครามการค้าลาม กระทบระบบการเงิน

จับตาสงครามการค้าลาม กระทบระบบการเงิน

ผลกระทบจากสงครามการค้ามีมากกว่าเรื่องส่งออก-นำเข้า แต่อาจลุกลามกระทบต่อระบบการเงินของประเทศ หากผลกระทบรุนแรงต่อภาคการผลิต ทำให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนมีปัญหาสภาพคล่อง จนนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้

คาดกนง.ลดดอกเบี้ยครึ่งปีหลัง รับวิกฤตสงครามการค้า

คาดกนง.ลดดอกเบี้ยครึ่งปีหลัง รับวิกฤตสงครามการค้า

ประเมิน กนง.ไม่รีบลดดอกเบี้ย แต่จะเก็บกระสุนไว้ใช้ครึ่งหลังปี 68 รับผลกระทบเศรษฐกิจไทย หลังสหรัฐฯเลื่อนขึ้นภาษีไทย 90 วัน จับผลเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐฯ

แค่เจรจาไม่พอ! ธปท.จี้รัฐบาลรับมือระยะยาวภาษีทรัมป์

แค่เจรจาไม่พอ! ธปท.จี้รัฐบาลรับมือระยะยาวภาษีทรัมป์

ธปท.คาดนโยบายภาษีทรัมป์ เปลี่ยนการค้าโลกครั้งใหญ่ ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้โตต่ำกว่า 2.5% แต่อาจไม่รุนแรงเท่าวิกฤตโควิด-19 โดยกระทบหนักธุรกิจกลุ่มส่งออกไปสหรัฐฯ แนะไทยเร่งปรับตัวควบคู่กับการเจรจา พร้อมเสนอมาตรการรับมือระยะสั้น-ระยะยาว

บาทแข็งค่าเกินพื้นฐาน จับตาเงินไหลเข้า "ผิดปกติ-ตรวจไม่พบ"

บาทแข็งค่าเกินพื้นฐาน จับตาเงินไหลเข้า "ผิดปกติ-ตรวจไม่พบ"

เงินบาทไทยเคลื่อนไหวแปลก ๆ แข็งค่าสวนทางปัจจัยเศรษฐกิจ และต่างไปจากในอดีต แข็งค่ามากสุดในภูมิภาค สวนทางปัจจัยพื้นฐานอย่างมาก แม้ดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง ดอกเบี้ยสหรัฐฯขยับขึ้นและเงินไหลออก จับตาเงินไหลเข้าตรวจสอบไม่ได้

เมื่อนักการเมือง พูดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ

เมื่อนักการเมือง พูดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ

การเมืองไทยในยุคหลัง ๆ มักจะมีการอ้างเหตุผลแปลก ๆ หลายเรื่อง เมื่อต้องการจะดำเนินนโยบายอะไรสักอย่าง โดยเหตุผลที่มักจะอ้างกันเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้าน คือ มาตรการ หรือนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่เมื่อออกนโยบายมาแล้วก็แทบจะไม่มีการประเมินผลเลยว่ากระตุ้นเศรษฐกิจตามเป้าหมายหรือไม่