ThaiPBS Logo

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่อรัฐสภา ย้ำจุดยืนทางการทูตของไทยในเรื่องการใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ทั้งเปิดตลาดใหม่และเร่งเจรจากรอบความร่วมมือ ในขณะที่รักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างสมดุล ทั้งในระดับภูมิภาคและความร่วมมือกับกลุ่มประเทศ

อ่านเพิ่มเติม

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ในส่วนที่เกี่ยวกับแนวนโยบายการต่างประเทศ) โดยรัฐบาลมีแนวทางที่จะสร้างรายได้ โดยการใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุกเพื่อเปิดประตูการค้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ให้สินค้าและบริการของประเทศไทย อาทิ กลุ่มสหภาพยุโรปกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง อินเดีย แอฟริกา อเมริกาใต้ รวมถึงการให้ความสำคัญกับตลาดเดิมที่รวมถึงประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง โดยการออกไปพบผู้นำประเทศต่าง ๆ เพื่อชักชวนให้มาค้าขายสินค้าและบริการของกันและกัน ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้กับสินค้าและบริการที่คิดและผลิตจากฝีมือของคนไทยมากขึ้น เร่งการเจรจากรอบความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศ (FTA) และเจรจาเพื่อยกระดับหนังสือเดินทางไทย (Passport) ให้สามารถเดินทางได้หลายประเทศมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ปรับปรุงกระบวนการพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อดึงดูดการลงทุนที่จะช่วยเพิ่มความสามารถทางการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและวางรากฐานให้เศรษฐกิจในระยะยาว

รัฐบาลจะดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าที่ถูกกฎหมายตามแนวชายแดน เพื่อสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน และเป็นการสนับสนุนเสถียรภาพให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศ ตลอดจนการเป็นผู้นำในการส่งเสริมสันติภาพและผลประโยชน์ร่วมกันของโลก และบริหารสถานการณ์ภูมิศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศอย่างเหมาะสม

รัฐบาลจะเปิดประตูค้าขายและเปิดโอกาสของประเทศไทยให้เพิ่มขึ้น และเป็นการสร้างประโยชน์จากสินทรัพย์ของประเทศและของประชาชน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ของโลก

รัฐบาลจะสร้างบทบาทในเวทีโลก ให้ความสำคัญกับการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่าง ๆ อย่างสมดุล ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ กระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและรักษาบทบาทนำของประเทศไทยในภูมิภาคและอนุภูมิภาค รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศ องค์กรทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระหว่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงของประเทศไทย

รัฐบาลจะสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ การพัฒนาที่ยั่งยืนจะเปิดประตูบานใหญ่สู่การค้าโลก ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยและสร้างข้อได้เปรียบให้ผู้ผลิตสินค้าและบริการในประเทศ ทำให้รัฐบาลสามารถเจรจาการค้าระหว่างประเทศภายใต้กฎกติกาใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และรัฐบาลจะใช้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นพลังส าคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในภาคการผลิต ภาคบริการและภาคการเงิน

นโยบายภาคการเมือง

การทูตแบบสมดุล

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ดำเนินงาน
  • ตรวจสอบ
  • ประเมินผล

ความสำเร็จของนโยบาย

การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ดำเนินงาน
  • ตรวจสอบ
  • ประเมินผล

ความสำเร็จของนโยบาย

บทบาทด้านต่างประเทศ
ประเมินภาพลักษณ์นโยบายต่างประเทศของไทย

บทความ/บทวิเคราะห์

ดูทั้งหมด
คว่ำบาตรเมียนมาสะเทือนไทย เตรียมรับค่าไฟฟ้าแพง

คว่ำบาตรเมียนมาสะเทือนไทย เตรียมรับค่าไฟฟ้าแพง

การคว่ำบาตรเมียนมาของชาติตะวันตก กระทบต่อไทยในการซื้อก๊าซฯจากเมียนมาเพื่อนำมาผลิตไฟฟ้า เพราะต้องนำเข้าก๊าซฯจากที่อื่นมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าแพงขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นค่า Ft
ไทย-นิวซีแลนด์ หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ สร้างความร่วมมือรอบด้าน

ไทย-นิวซีแลนด์ หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ สร้างความร่วมมือรอบด้าน

ไทยและนิวซีแลนด์ ใกล้ครบรอบ 70 ปี ตั้งเป้ายกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ในปี 2569 โดยลงนามสร้างความร่วมมือในด้านกลาโหมและความมั่นคง เศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว
ไทย-สหราชอาณาจักรกระชับสัมพันธ์ สู่”หุ้นส่วนยุทธศาสตร์”

ไทย-สหราชอาณาจักรกระชับสัมพันธ์ สู่”หุ้นส่วนยุทธศาสตร์”

ความสัมพันธ์ทางการฑูตของไทยและสหราชอาณาจักร ใกล้ครบรอบ 170 ปี ทั้งสองประเทศจึงทำร่างแผนการความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ แลกเปลี่ยนความร่วมมือกันใน 8 สาขาเชี่ยวชาญ อีกทั้งเป็นการกระชับความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้นระหว่างสองชาติ