ครบ 6 เดือนการให้ ‘วีซ่าฟรี’ 93 ประเทศ/ดินแดน อีกหนึ่งมาตรการที่รัฐบาลเพื่อไทยตั้งความหวังฟื้นการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลเศรษฐาแถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและเกิดการจ้างงาน เพราะการยกเว้นการตรวจลงตราหรือ ‘วีซ่าฟรี’ ทำให้ประเทศนั้น ๆ สามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่าจึงเชื่อว่าจะดึงดูดให้มาเที่ยวมากขึ้น
จากนั้นได้ให้วีซ่าฟรีแบบชั่วคราวแก่ 6 ประเทศ ก่อนจะมีการปรับปรุงและประกาศรายชื่อ 93 ประเทศได้รับวีซ่าฟรีเมื่อ 15 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นการฟื้นความสัมพันธ์และยกระดับความสัมพันธ์กับหลายประเทศ
แต่สถานการณ์การท่องเที่ยวภายใต้นโยบายวีซ่าฟรี ทำให้ชาวต่างชาติกลับมาเที่ยวมากขึ้นจริงหรือไม่ ประเทศใดที่พร้อมเที่ยวไทยเต็มที่ในขณะนี้ แล้วควรกระตุ้นส่งเสริมในประเทศใดอีก
30 ปี ไทยให้วีซ่าฟรีประเทศไหนบ้าง
ตั้งแต่ปี 2538 – 2567 มีการปรับปรุงรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่ได้รับวีซ่าฟรีเพื่อการท่องเที่ยวครั้งสำคัญใน 4 รัฐบาล มักเป็นมาตรการที่เร่งดำเนินการในปีแรกของการเป็นรัฐบาล
- รัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา มีผลบังคับใช้ปี 2539 จำนวน 56 ประเทศ/ดินแดน
- รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มีผลบังคับใช้ปี 2545 จำนวน 39 ประเทศ/ดินแดน โดยรายชื่อเดิมจากปี 2539 ได้รับวีซ่าฟรีต่อ 35 ประเทศ/ดินแดน อีก 19 ประเทศ/ดินแดนไม่ได้รับต่อ จากนั้นจนถึงปี 2557 มีการประกาศให้เพิ่มเติมและทำความตกลง จึงมีประเทศได้รับวีซ่าฟรีรวม 51 ประเทศ เป็นประเทศที่ไม่ได้รับในรัฐบาลบรรหาร 11 ประเทศ/ดินแดน
- รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศเพิ่มเติมและทำความตกลงรวมอีก 7 ประเทศ/ดินแดน
- รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำความตกลงกับเมียนมาก่อนจะประกาศรายชื่อปรับปรุงที่บังคับใช้ปี 2562 จำนวน 56 ประเทศ/ดินแดน และมีที่ให้เพิ่มเติมภายหลังจึงรวมเป็น 59 ประเทศ เป็นประเทศที่ไม่ได้รับในรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลอภิสิทธิ์จำนวน 7 ประเทศ/ดินแดน
- รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มีผลบังคับใช้ปี 2567 จำนวน 93 ประเทศ/ดินแดน และที่มีบันทึกความตกลงอยู่แล้วอีก 3 ประเทศ/ดินแดน รวมเป็น 96 ประเทศ/ดินแดนที่ได้วีซ่าฟรีในขณะนี้ เป็นประเทศที่ไม่ได้รับในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ 35 ประเทศ/ดินแดน
การประกาศเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 มีประเทศ/ดินแดนใหม่ที่ไม่เคยได้รับวีซ่าฟรีจากไทยมาก่อนเลยในช่วง 30 ปีนี้จำนวน 26 ประเทศ/ดินแดน และพบว่า 35 ประเทศ/ดินแดน ได้รับวีซ่าฟรีตลอดมา ขณะที่ 10 ประเทศ/ดินแดนไม่ได้รับวีซ่าฟรีอีกเลยหลังการปรับปรุงในรัฐบาลทักษิณ ซึ่งบางประเทศที่ถูกยกเลิกไปในครั้งนั้นใช้เวลาถึง 20 ปีจึงได้รับวีซ่าฟรีอีกครั้งในปีนี้
ปี 67 การท่องเที่ยวฟื้น รายได้แตะ 1.8 ล้านล้านบาท
ก่อนสถานการณ์ของโควิด-19 นับเป็นยุคทองของการท่องเที่ยวไทย ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินทะยานสูงขึ้นทุกปี สถิติสูงสุดแตะเกือบ 40 ล้านคน สร้างเม็ดเงิน 1.91 ล้านล้านบาทในปี 2562
แม้โรคระบาดจะทำวูบมา 3 ปี แต่ดูเหมือนว่าในที่สุดการท่องเที่ยวไทยก็กลับมาได้ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2566 มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.2 ล้านล้านบาท และปี 2567 คาดจะแตะ 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน
ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซียยังเป็นตลาดหลักของไทยตลอด 14 ปีที่ผ่าน
นักท่องเที่ยวชาติไหนกลับมาเที่ยวไทยมากที่สุด
เมื่อสำรวจว่านักท่องเที่ยวแต่ละชาติมาเที่ยวไทยในปี 2567 ใกล้เคียงกับยุคทองมากน้อยแค่ไหน โดยเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2558-2562 ใน 41 ประเทศ/ดินแดนจาก 96 ประเทศ/ดินแดนที่ได้รับวีซ่าฟรีในขณะนี้ พบว่า
- จีน การฟื้นฟูในกลุ่มนี้ยังรั้งท้ายนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมามาก โดยปี 2567 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 36% มาเที่ยว 6.2 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวเคยแตะถึงหลัก 10 ล้านคนติดต่อกัน 2 ปี
- มาเลเซีย จำนวนนักท่องเที่ยวอันดับ 2 ของไทย นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 20% จากค่าเฉลี่ย
- ซาอุดิอาระเบีย ได้รับวีซ่าฟรีอีกครั้งเมื่อปี 2562 หลังผ่านไป 20 ปี จากเดิมมีนักท่องเที่ยวหลักหมื่นคนต่อปี พุ่งสูงถึง 5.8 แสนคนในปี 2566 แล้วลดลงในปี 2567 เหลือ 2.1 แสนคน จากค่าเฉลี่ย 34,535 คน ทำให้อัตราเปลี่ยนแปลงสูงกว่าค่าเฉลี่ยมากถึง 515%
- อัตราเปลี่ยนแปลงมาเที่ยวมากขึ้นที่สุดรองลง คือ แอฟริกาใต้ 148% และไต้หวัน 63%
- อัตราเปลี่ยนแปลงมาเที่ยวลดลงมากที่สุดคือ อาร์เจนตินา สวีเดน ฟินแลนด์ ตามลำดับ ซึ่งลดลงเกือบครึ่ง
- อินเดีย อีกตลาดที่ไทยให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 38% จากค่าเฉลี่ย
- กลุ่มประเทศตะวันออกกลางและเอเชียมีอัตราเปลี่ยนแปลงดีที่สุด ขณะที่กลุ่มประเทศในโอเชียเนียและยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มนอร์ดิก ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย หมายความว่ายังไม่กลับมาเที่ยวมากนัก
เปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวก่อน – หลังวีซ่าฟรี
ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศวีซ่าฟรี 93 ประเทศในปี2567 ได้มีการให้วีซ่าฟรีชั่วคราวในปี 2566 แก่ กัมพูชา จีน คาซัคสถาน ไต้หวัน อินเดีย และขยายเวลาพำนักในประเทศชั่วคราวแก่รัสเซีย ซึ่งทั้งหมดได้รับวีซ่าฟรีใน 93 รายชื่อนี้ด้วย เมื่อนำ 6 ประเทศ/ดินแดนนี้เป็นตัวอย่างในการเปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวก่อน-หลังได้วีซ่าฟรี ซึ่งมีผลบังคับใช้ช่วงท้ายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ของปี 2566 พบว่าวีซ่าฟรีอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ขึ้นกับสถานการณ์ประเทศต้นทางและตามฤดูกาลท่องเที่ยวปกติ ขณะที่ประเทศ/ดินแดนกลุ่มนี้ก็มีแนวโน้มเข้ามาเที่ยวมากขึ้นตั้งแต่ก่อนโควิด-19
จีน หลังรัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการซีโรโควิด ตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 ก็ทำให้ชาวจีนมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นทันที แต่ไตรมาส 4 ที่ได้วีซ่าฟรีแบบชั่วคราว กำหนดระยะเวลา 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 นั้นชะลอตัวลงเล็กน้อยและมีค่าเฉลี่ยจำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้า
สาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนที่เป็นตลาดที่ถูกคาดหวังมากที่สุดกลับชะลอตัวลง จากข้อมูลตามรายงานภาวะเศรษฐกิจการท่องที่ยวไตรมาส 3-4 ปี 2566 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า เศรษฐกิจภายในประเทศจีนยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงรัฐบาลจีนได้เปิดให้ชาวจีนท่องเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์เพิ่มเติม 78 ประเทศทำให้เกิดการแข่งขันในการดึงตลาดนักท่องเที่ยวจีน
อีกทั้งช่วงต้นเดือนตุลาคม 2566 เกิดเหตุความรุนแรงในห้างสรรพสินค้าและมีชาวจีนเสียชีวิต ส่งผลต่อการตัดสินใจเที่ยวไทย หน่วยงานรัฐและเอกชนต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นทำให้ปลายไตรมาส 4 มีชาวจีนมาเที่ยวเพิ่มขึ้น จนถึงปี 2567 ที่ช่วงมกราคม-พฤศจิกายน มีชาวจีนมาเที่ยวไทย 6.2 ล้านคน แต่ยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในยุคทอง
ไต้หวัน นักท่องเที่ยวกลับมาในช่วงปลายปี 2565 เพราะได้อานิสงส์จากการเพิ่มระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ จากเดิม 30 วัน เป็น 45 วัน ในช่วง 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566
จากนั้นไทยให้วีซ่าฟรีแบบชั่วคราว 2 ครั้ง ครั้งแรกกำหนดระยะเวลา 10 พฤศจิกายน 2566 – 10 พฤษภาคม 2567 ครั้งที่สองคือต่ออายุของครั้งแรกไปจนถึง 11 พฤศจิกายน 2567
The Better รายงานว่า เซีย ซิ่ว เม่ย อุปทูตสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และในฐานะรองผู้แทนรัฐบาลไต้หวัน เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดนิยมของชาวไต้หวัน
สอดคล้องตัวเลข 2 ปีล่าสุดที่หลังโควิด-19 ก็กลับมาเที่ยวไทยทันทีในจำนวนตามสถานการณ์ปกติ และปี 2567 เป็นครั้งแรกที่ทะลุ 1 ล้านคน นับได้ว่าชาวไต้หวันมาเที่ยวไทยมากที่สุดใน 14 ปีที่ผ่านมา
อินเดีย เป็นอีกประเทศที่ชอกช้ำหนักจากโควิด-19 แต่การกลับมาเที่ยวไทยฟื้นเร็วกว่าประเทศอื่นตั้งแต่ปี 2565 และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนการให้วีซ่าฟรีแบบชั่วคราวเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566
ซึ่งเชื่อว่าวีซ่าฟรีมีส่วนในจูงใจนักท่องเที่ยวอินเดีย เพราะหลังการให้แบบชั่วคราวในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวก็กระเตื้องขึ้นแต่ฤดูท่องเที่ยวของตลาดนี้ยังมีลักษณะเดิมเช่นเดียวกับต่างเทศอื่น ๆ ส่วนในปีนี้ 2567 นักท่องเที่ยวอินเดียมาเที่ยวไทย 1.9 ล้านคน และทำสถิติสูงสุดในประวัติการณ์เมื่อคนที่ 2 ล้านถึงไทยในวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับจาก สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กัมพูชา ต้นปี 2565 ยังมีนักท่องเที่ยวหลักไม่กี่พันคนกระทั่งพุ่งขึ้นไม่หยุดตั้งแต่พฤษภาคม แต่ปีต่อมาทั้งปี 2566 และ 2567 แผ่วลงและทรงตัวต่อเนื่อง เมื่อดูภาพรวมรายปีพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของช่วงก่อนโควิด-19
กัมพูชาได้รับวีซ่าฟรีแบบชั่วคราว 2 ครั้ง ครั้งแรกกำหนดระยะเวลา 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ครั้งที่สอง 11 พฤษภาคม 2567 – 11 พฤศจิกายน 2567
คาซัคสถานและรัสเซีย มีลักษณะเข้ามาท่องเที่ยวคล้ายกัน คือจะเข้ามาเที่ยวช่วงปลายปีถึงต้นปีถัดไป และลดน้อยลงในไตรมาส 2-3 ของปี ซึ่งชาวรัสเซียเข้ามาเที่ยวไทยจำนวนมากมาตั้งแต่ก่อนอยู่แล้ว
นอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวแล้ว การใช้จ่ายเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ก่อนโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย รัสเซีย สร้างเม็ดเงินให้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2565 รายได้จากนักท่องเที่ยวอินเดียมากเป็นอันดับ 1 แซงจีนและมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนวณรายได้ต่อหัว พบว่าปี 2565 นักท่องเที่ยวจีนสร้างรายได้เฉลี่ยสูงที่สุด คือ 1.16 แสนบาทต่อคน รองลงมาคือเนเธอร์แลนด์ อาร์เจนตินา ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวยังน้อยอยู่มาก จึงควรมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากมาตรการวีซ่าฟรีแล้ว รัฐบาลยังอัดมาตรการดึงดูดการท่องเที่ยวอื่นอีก จึงตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 สร้างเม็ดเงิน 3.5 ล้านล้านบาท โดยเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.5 ล้านล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่สูงมาก แม้ว่า 9 ปีที่ผ่านมาจะมีปีที่บรรลุเป้าหมายอยู่บ้าง แต่หลังจากปี 2560 เป็นต้นมารายได้ก็ไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้เลยแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะพุ่งสูง
ล่าสุด ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยอมรับว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2567 ไม่ถึงเป้า จาก 2.5 ล้านล้านบาท ทำได้ 1.66 ล้านล้านบาท อ้างสาเหตุจากสภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาและสงคราม รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลยังไม่ครอบคลุมการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ จึงทำให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ปีนี้จึงนับเป็นปีที่ 7 ที่การท่องเที่ยวยังไม่บรรลุเป้าหมาย แม้ท่องเที่ยวจะโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐยังมั่นใจที่จะตั้งเป้าปีต่อไป 2568 ไว้ใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนถึง 40 ล้านคน 2.8 ล้านล้านบาท ตามที่รัฐบาลประกาศให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา ขอทุกภาคส่วนร่วมมือกันผลักดันการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ